เวลาพูดถึงญี่ปุ่นคนก็มักจะนึกถึงโตเกียวเป็นอันดับแรก แสงไฟระยิบระยับ ตึกระฟ้าอันน่าทึ่ง และสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เราอาจหลงลืมไปว่าประเทศนี้มีอะไรมากกว่ามหานครอันพลุกพล่าน
อีกด้านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ก็เต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆ อากาศดีๆ และแน่นอน กิจกรรมแอดเวนเจอร์มากมาย ในโอกินาว่า
ด้วยความที่เป็นภูมิภาคกึ่งเขตร้อนเพียงแห่งเดียวของประเทศ จังหวัดโอกินาว่าในฤดูร้อนจะมีอากาศร้อนชื้นและอากาศหนาวเพียงเล็กน้อยในช่วงฤดูหนาว อากาศดีๆ แบบนี้เมื่ออยู่คู่กับน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ชายหาดอันขาวบริสุทธิ์ และสัตว์ป่าในป่าที่อุดมสมบูรณ์ รับรองเลยว่าคุณจะรู้สึกราวกับอยู่ในสวรรค์เขตร้อนอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อนแน่นอน
หากนี่ยังไม่ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นพอ เราจะบอกเหตุผลเพิ่มเติมที่จะทำให้คุณต้องตื่นเต้นสุดๆ แน่นอน
เคล็ดลับจาก Klook: ก่อนอื่น ต้องแยกระหว่าง "จังหวัดโอกินาว่า" กับ "เกาะโอกินาว่า" จังหวัดโอกินาว่าประกอบด้วย 3 เกาะหลักๆ ได้แก่ เกาะโอกินาว่า เกาะมิยาโกะ และเกาะยาเอะยามะ
เพื่อช่วยให้คุณแยกระหว่างจังหวัดโอกินาว่าและเกาะโอกินาว่าได้ง่ายๆ เราจะแบ่งคู่มือการท่องเที่ยวโอกินาว่าออกเป็น 2 ส่วน คือ กิจกรรมสนุกๆ บนเกาะโอกินาว่า และกิจกรรมผจญภัยนอกเกาะ
กิจกรรมสนุกๆ บนเกาะโอกินาว่า
หมู่เกาะโอกินาว่าหรือที่รู้จักกันในนาม โอกินาว่าโชโตะ เป็นเกาะหลักของจังหวัดและเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงซึ่งก็คือ เมืองนาฮะ
เมืองนาฮะเป็นเมืองที่พลุกพล่านที่สุดของจังหวัดและมีจำนวนประชากรโอกินาว่ากว่าครึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเดาได้เลยว่าที่นี่เจริญมากกว่าส่วนอื่นๆ ของหมู่เกาะ แม้ว่าที่นี่จะมีระบบขนส่งสาธารณะ แต่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเองต่างเลือกเดินทางโดยรถยนต์มากกว่าเพราะที่นี่มีรถไฟเพียงสายเดียว คือ สายยูอิ ที่วิ่งผ่านนาฮะและอูราโซเอะเท่านั้น
เคล็ดลับจาก Klook: คุณสามารถเช่ารถในโอกินาว่ากับ Klookได้ เพลิดเพลินกับการขับรถชมวิวและท่องเที่ยวพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมได้ตามต้องการ
ก่อนจะพูดเรื่องเหตุผล มาเที่ยวทั้งทีจะขาดอาหารได้อย่างไร ถ้าคุณอยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของโอกินาว่า ต้องไม่ลืมแวะที่ตลาดมาคิชิเพื่อกินอาหารทะเลสดๆ ผลไม้ตามฤดูกาล และเนื้อสัตว์ที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มลองอาหารที่คนท้องถิ่นชอบกินอย่าง โซกิโซบะ (ซี่โครงหมูนุ่ม บะหมี่ น้ำซุปกระดูกหมู) ได้อีกด้วย
เอาล่ะ ตอนนี้มาพูดถึง 6 เหตุผลที่จะทำให้คุณตื่นเต้นกับทริปโอกินาว่าครั้งนี้
1. สัมผัสยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลด้วยตาคุณเองในทริปชมวาฬที่โอกินาว่า
ทุกฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคมถึงเมษายน คุณจะมีโอกาสได้เห็นวาฬหลังค่อมขนาดใหญ่น่าเกรงขามที่แหวกว่ายไปมาบนผิวน้ำในท้องทะเลของโอกินาว่า
ในช่วงเวลานี้ เหล่าวาฬจะว่ายน้ำมาที่ทะเลโอกินาว่าเพื่อคลอดและเลี้ยงลูกคุณจึงมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้พบเจอกับยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลเหล่านี้ พวกมันเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การได้เห็นเหล่าวาฬสร้างคลื่นขนาดมหึมาและพ่นน้ำด้วยตาคุณเองจึงเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจแน่นอน
เคล็ดลับจาก Klook: แม้ว่าโอกาสได้เห็นวาฬจะมีน้อย แต่ไม่ต้องกังวลไป หากคุณไม่เจอเหล่าวาฬในทริปนี้ คุณอาจเลือกรับคูปองแบบกลับมาดูได้อีกครั้งหรือเลือกแบบคืนเงินเต็มจำนวนก็ได้
2. กินปลาแสนอร่อยที่จับเองจากท้องทะเลของโอกินาว่าและสำรวจป่าชายเลน
หนึ่งในสองจังหวัดของญี่ปุ่นที่มีป่าชายเลน (อีกหนึ่งที่คือ คาโกชิมะ) คุณต้องไปสัมผัสประสบการณ์ป่าชายเลนดูสักครั้ง วิธีเที่ยวป่าชายเลนให้สนุกคือการพายเรือคายัค
ประสบการณ์ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบร่มรื่น คุณจะได้สัมผัสกับพืชพรรณและสัตว์นานาชนิดของโอกินาว่าอย่างใกล้ชิด
หรือคุณอาจจะลองตกปลาในทะเลใกล้ๆ ดู เป็นอีกหนึ่งทางเลือกและคุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อน คุณจะได้ตกปลาในท้องทะเลสีน้ำเงินอันโด่งดังของโอกินาว่า และได้ลิ้มลองปลาสดๆ ที่คุณตกได้
เคล็ดลับจาก Klook: ถ้าคุณชอบชมพระอาทิตย์ตกดิน คุณต้องมาที่โอกินาว่าเพื่อพายเรือคายัคชมพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ในตัวมันเองที่คุณต้องมาลองสักครั้งในชีวิต
3. สำรวจป่าชายเลนบนแพดเดิลบอร์ดที่แม่น้ำฮิจยา
นอกจากเรือคายัคแล้ว กระดานยืนพาย (แพดเดิลบอร์ด) ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการสำรวจป่าชายเลน ไม่ต้องกลัว ต่อให้เป็นครั้งแรกที่เล่นแพดเดิลบอร์ดก็ปลอดภัย เพราะกิจกรรมนี้เหมาะกับมือใหม่ล้านเปอร์เซ็นต์
ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่จะมีไกด์คอยสอนคุณเรื่องการทรงตัว การหยุด การเปลี่ยนทิศทาง และพื้นฐานอื่นๆ ด้วย
พอคุณเริ่มคุ้นเคยกับบอร์ดแล้ว ไกด์จะพาคุณออกสู่แม่น้ำฮิจยา ที่ซึ่งคุณจะมีโอกาสได้เห็นสัตว์นานาชนิด เช่น ปูแสมและนกป่านานาชนิดที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้ สายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ อย่างสงบและเสียงธรรมชาติจะมอบประสบการณ์ทางธรรมชาติที่ดีที่สุดให้คุณ
กิจกรรมผจญภัยนอกเกาะโอกินาว่า
ทางใต้ของจังหวัดโอกินาว่า คือ เกาะมิยาโกะและเกาะยาเอะยามะ ซึ่งแต่ละเกาะต่างก็มีกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาดรอคุณอยู่
สำหรับใครที่ชื่นชอบการดำน้ำตื้น มิยาโกะคือที่ที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่จะมีชายหาดโยชิโนะ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี มีปลาหลากสีสันนานาชนิดและแนวประการังขนาดใหญ่ที่คุณต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณมาเที่ยวในช่วงน้ำขึ้น คุณจะมีโอกาสได้ว่ายน้ำเคียงข้างเต่าทะเลด้วย
ห่างออกไปทางใต้คือเกาะยาเอะยามะ คุณจะเจอเมืองอิชิงากิ ซึ่งเป็นส่วนที่เจริญที่สุดของเกาะยาเอะยามะและเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ของเกาะ หากต้องการสัมผัสเสน่ห์ของชีวิตในชนบทอย่างแท้จริง
ลองเดินเท้าไปยังที่ต่างๆ ดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาะเล็กๆ อย่างยาเอะยามะ
4. กระโดดขึ้นเซกเวย์ (รถยืนไฟฟ้าสองล้อ) และออกสำรวจอุทยานบันนะ (Banna Park) อันงดงามบนเกาะอิชิกากิ
อุทยานบันนะในป่าอันกว้างใหญ่ของอิชิงากิจะทำให้คุณรู้สึกดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ได้ยินทุกเสียงของธรรมชาติโดยไม่มีอะไรมากั้น ไร้เสียงอื่นๆ รบกวน หากคุณต้องการเดินชมรอบๆ สวนขนาดใหญ่นี้
เราขอแนะนำให้คุณใช้บริการทัวร์เซกเวย์ เส้นทางนี้จะผ่านสะพานแขวนยาว 100 เมตร และป่าในภูเขาโอโมโตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอิชิงากิ ไกด์จะคอยให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับบรรดาสัตว์ที่อาศัยอยู่โดยรอบ และคุณเองก็จะได้ยินเสียงของสัตว์เหล่านั้นด้วย นอกจากนี้คุณยังมีเวลาขับเซกเวย์แบบเก๋ๆ สำรวจป่าแห่งนี้ด้วยตัวคุณเองอีกด้วย
เคล็ดลับจาก Klook: เป็นมือใหม่หัดขับเซกเวย์ใช่ไหม ไม่มีปัญหา ไกด์ในพื้นที่จะคอยแนะนำวิธีการใช้ให้คุณก่อนเริ่มกิจกรรมอยู่แล้ว
5. ทัวร์ชมป่าในยามค่ำคืนใต้แสงดาวที่สว่างที่สุดในอิชิงากิ
หากกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดีในอิชิงากิ ทัวร์ชมป่าในยามค่ำคืนนี้คือคำตอบ คุณจะได้เห็น ได้ยินเสียง และพบกับสัตว์นานาชนิดที่ไม่ปรากฎตัวในตอนกลางวัน
ที่นี่คุณจะได้เจอกับปูมะพร้าวขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น และเพลิดเพลินกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สว่างไสวจากแสงดาว และไม่มีแสงไฟถนนมาบดบังแสงระยิบระยับ
6. ประสบการณ์เดินป่าและผจญภัยด้วยเรือคายัคสู่น้ำตกซังงาระ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเดินป่าและมองหาความท้าทายกับกิจกรรมที่ต้องออกแรง ลองกิจกรรมเดินป่าและพายเรือคายัคสู่น้ำตกซังงาระดูสิ แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ต้องออกแรงมากกว่ากิจกรรมอื่นๆ แต่สิ่งที่คุณจะได้กลับมากลับคุ้มค่ายิ่งกว่า เพราะมันทำให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าที่เคย เริ่มการผจญภัยด้วยการพายเรือคายัคผ่านแม่น้ำริมป่าชายเลน
จากนั้นคุณจะถึงป่าอันเขียวขจีที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 20-30 นาที เชื่อเถอะว่ามันคุ้มค่ามากๆ ที่ปลายทาง คุณจะไปถึงน้ำตกซังงาระและได้ดื่มด่ำกับอาหารญี่ปุ่นริมน้ำอันเงียบสงบ
เคล็ดลับจาก Klook: อย่าลืมสวมเสื้อผ้าที่กันน้ำได้หรือเอาชุดมาเปลี่ยนด้วยล่ะ เพราะคุณมีโอกาสที่จะเปียกถึงเข่าเลยทีเดียว
พร้อมออกไปทำกิจกรรมสนุกๆ ในโอกินาว่าแล้วหรือยัง อย่าลืมเขียนลิสต์ไว้ละ คุณจะได้ไม่พลาดที่เที่ยวสำคัญๆ ในทริปนี้
📱ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย