เที่ยวทิพย์กันมาเยอะแล้ว วาร์ปมานอนโรงแรมหรู ถ่ายรูปลงไอจีให้เพื่อนอิจฉากันเล่น ๆ ดีกว่า! รู้รึเปล่าว่ากรุงเทพฯ ก็มีโรงแรมบูติกเก๋ ๆ แบบเป็นกันเองที่ถ้าแพลนไปนอนชิล ๆ สักคืนสองคืน ก็เหมือนกับได้ไปเที่ยวไกล ๆ วันหยุดเลย วันนี้เราได้รวบรวม 10 โรงแรมถ่ายรูปสวยในกรุงเทพฯ บอกเลยว่ามีมุมถ่ายรูปเยอะแบบไม่มีอะไรกั้น อีกทั้งยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ อยู่ในโรงแรม แต่ถ้ายังไม่จุใจ แค่เดินออกจากที่พักไปนิดเดียวก็จะมีร้านอาหารให้เลือกเต็มไปหมด ไม่แน่ ถ้าอยู่ไปสองสามวันอาจจะไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ! จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย!
1. บ้านในโฮเต็ล แอนด์ เรสเทอรองต์ (Baannai The Reminiscence Hotel)
บ้านในโฮเต็ล แอนด์ เรสเทอรองต์ โรงแรมเล็ก ๆ ในย่านสามเสน ที่รีโนเวตมาจากบ้านเก่าสไตล์โคโลเนียล มีห้องพักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เลือกอยู่ด้วยกัน 4 ห้อง บรรยากาศก็เหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเลย โดยชั้นล่างเป็นร้านอาหารสูตรคุณยาย ที่บอกเลยว่าแต่ละเมนูชื่อน่าทานมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลาแห้งแตงโม ข้าวมันส้มตำ ขนมจีนสามแกงปักษ์ใต้ พระรามลงสรงหมูกับข้าวผัดเส็ง หมูในร่มทอด ยำดอกไม้ ขนมพระพาย ฯลฯ ส่วนตัวตึกก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี เรียกได้ว่า ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูสวย สายธรรมชาติต้องชอบ!
2. บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ (Baan Wanglang Riverside)
บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ โรงแรมที่ออกแบบตกแต่งมาให้ฟีลเหมือนอยู่บ้านแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ใกล้ ๆ กับวัดระฆัง ถ้ามองออกไปทางแม่น้ำจะได้เห็นวิวอันน่าอัศจรรย์ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลคดเคี้ยว รวมถึงทิวทัศน์ของวัดอรุณฯ และวัดพระแก้วที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพอันงดงามของสะพานพระรามแปด โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ภายในโรงแรมตกแต่งด้วยไม้แกะสลักและเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบไทย ๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยอย่างห้องอาหารต้นมะกอก ซึ่งพร้อมเสิร์ฟอาหารรสเด็ด อย่างยำส้มโอโบราณกุ้งย่าง หมูกรอบคั่วพริกเกลือ หมูผัดกะปิหอม เมี่ยงคะน้า ฯลฯ และยังมีร้านกาแฟอย่างร้าน N10 และรูฟท็อปบาร์ของโรงแรมให้ไปนั่งชิลริมแม่น้ำอีกด้วย คุณจะได้รูปเก๋ ๆ ริมแม่น้ำกลับบ้านไปเต็ม ๆ
3. ลอยละล่อง (Loy La Long Hotel)
ลอยละล่อง บ้านไม้สองชั้นริมน้ำย่านเยาวราช ซึ่งเป็นโลเคชั่นถ่ายภาพยนตร์สุดฮิตอย่าง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ชานบ้านของที่นี่จะยื่นออกไปริมน้ำ ชวนให้ออกไปนั่งตากลมดูเรือแล่นผ่านหลังบ้าน พร้อมกับชมแสงอาทิตย์ตกกระทบผิวน้ำระยิบระยับ ยิ่งตอนกลางคืน แสงไฟจากอีกฝั่งแม่น้ำคือสวยจนต้องตะลึง! ภายในเรือนตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจ อย่างเปลญวน หมอนอิง และเบาะรองนั่ง มีห้องครัวที่เราสามารถสั่งอาหารและน้ำดื่มจากพนักงานได้แบบเป็นกันเอง และยังมีมุมหนังสือและ DVD ให้ยืมเข้าไปดูในห้องอีกด้วย สำหรับใครที่ชอบตะลุยหาของอร่อย ๆ กิน ก็คงจะถูกอกถูกใจกับการเดินออกไปเลือกซื้อและอิ่มอร่อยกับสตรีทฟู้ดรสเลิศที่เยาวราชอย่างแน่นอน
4. เดอะ มัสแตง บลู (The Mustang Blu)
เดอะ มัสแตง บลู โรงแรมที่มีประวัติความเป็นมายาวนานบนถนนไมตรีจิตต์ ใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นโรงแรมที่รีโนเวตมาจากตึกสไตล์โคโลเนียลอายุร่วม 100 ปี ที่ผ่านการใช้งานมาในหลายบทบาท ทั้งโรงพยาบาล ธนาคาร หรือแม้กระทั่งเคยเป็นสถานอาบอบนวดชื่อดังอย่าง “คลีโอพัตรา” อีกด้วย โดยโรงแรมเดอะ มัสแตง บลู ถูกดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ความเจ็บปวดที่งดงาม” ซึ่งผนวกความเปลือยเปล่าของฝ้าเพดานและกำแพงเก่า ๆ เข้ากับการฉาบปูนและทาสีให้ดูทันสมัย และยังสอดแทรกกิมมิกอย่างเช่นยีราฟสตัฟฟ์บนผนัง ขนาดประตูห้องน้ำของโรงแรมก็เคยเป็นตู้เซฟของธนาคารมาก่อนด้วย นอกจากนี้ เดอะ มัสแตง บลู ยังมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเช็คอินและชิมขนมอร่อย ๆ รับรองว่าได้รูปอัปลงไอจีเพียบ!
5. เกศรา บูทิก ฮิสทอริก โฮเต็ล (Kesara Boutique Historic Hotel)
เกศรา บูทิก ฮิสทอริก โฮเต็ล โรงแรมสุดคลาสสิกใจกลางสีลม ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของบ้านเก่าซึ่งเจ้าของบ้านเป็นถึงคุณหลวง ไม่ว่าประตู หน้าต่าง ชานบ้าน หรือหลังคา ก็ให้กลิ่นอายของความศิวิไลซ์ในอดีต ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ขัดสีแบบโบราณ เก้าอี้หวาย และก็อกน้ำทองเหลือง นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องใช้สมัยใหม่อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน พรรณไม้ไทยรอบอาคารส่งกลิ่นหอมมายังเรือนบ้าน ทั้งต้นโมก ดอกแก้วหิมาลัย และต้นหมาก ส่วนใครที่ไม่ได้มาพักค้างคืนก็สามารถแวะมาจิบ อาฟเตอร์นูน ที จากทางโรงแรมได้เช่นกัน
6. อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ โฮเทล (Amdaeng Bangkok Riverside Hotel)
อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ โฮเทล โรงแรมสีแดงชาดริมแม่น้ำย่านคลองสาน โดยชื่อโรงแรมมีที่มาจาก “อำแดงคลี่” หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของที่ดินริมเวิ้งน้ำผืนนี้ในสมัยรัชกาลที่ 5 อาคารแนวร่วมสมัยนี้ถูกทาทับด้วยสีแดง ซึ่งโดดเด่นมาแต่ไกลเมื่อมองจากอีกฝั่งแม่น้ำ ดีไซน์ของตึกให้ความรู้สึกผสมผสานระหว่างสไตล์ไทย จีน และยุโรป และมองเห็นวิวแม่น้ำได้รอบทิศ ยิ่งตอนกลางคืนมีเรือแล่นผ่านยิ่งสวยขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ร้านอาหาร “NYE” ก็จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับเมนูอาหารสุดครีเอทีฟ อย่างเมนู “ยำเป็ดฉีกใส่ลิ้นจี่ ผักชี และผิวส้ม” และ “พาสต้าน้ำพริกอ่องแบบโบโลเนสและเบคอนกรอบ” ที่มาพร้อมกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันน่าประทับใจ ซึ่งคุณจะไม่มีวันลืม
7. เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น (Shanghai Mansion)
เซี่ยงไฮ้ แมนชั่น โรงแรมวินเทจสไตล์จีน ที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนเยาวราช สร้างขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์โรงน้ำชาจีนสมัยยุค 30’s ที่ผสมดีไซน์แบบฝรั่งเศสเข้าไปด้วย ส่วนดีเทลต่าง ๆ ทั้งโคมไฟ เตียงไม้ สระปลา ถูกจัดวางอย่างลงตัว ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนภาพก็จะออกมาเก๋ไก๋ราวกับไปเที่ยวเมืองจีนเลยทีเดียว ในโรงแรมจะมีกลิ่นหอมอบอวลของน้ำมันหอมระเหย และมีสปาสมุนไพรธรรมชาติให้ไปนวดผ่อนคลายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Jazz Lounge ให้คุณไปนั่งชิลสบาย ๆ พร้อมเพลิดเพลินกับออเดิร์ฟ จานหลัก และเครื่องดื่มฟิวชั่นที่มีให้เลือกมากมาย สายกินคงจะถูกใจไม่น้อย เพราะเพียงก้าวออกไปนอกประตูโรงแรมก็จะถึงแหล่งของกินอันดับหนึ่งของกรุงเทพอย่างถนนเยาวราชนี่เอง!
8. โฮเทล วันซ์ (Hotel Once Bangkok)
โฮเทล วันซ์ โรงแรมสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกย่านเจริญกรุง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปวันวาน ด้วยโทนสีขาว เทา และดำ เพดานสูงโปร่งให้แสงธรรมชาติลอดเข้ามาด้านใน ตกแต่งด้วยวัสดุหินอ่อนดูสบายตา สิ่งที่พิเศษของที่นี่ก็คือ “Time Capsule Lounge” ที่ออกแบบจำลองมาจากที่ทำการไปรษณีย์กลางบางรัก มีกิจกรรมให้แขกที่เข้าพักได้เขียนจดหมายถึงคนที่อยู่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งเขียนไปหาตัวเองในอนาคต ดาดฟ้าของโรงแรมเป็นห้องอาหารที่มาพร้อมกับวิวพระอาทิตย์ตกดินบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งตอนกลางคืนที่นี่จะเปิดไฟแบบอลังการมาก ถ่ายรูปสวยยื่นหนึ่งมงลงไปเลย!
9. บีเฮ้าส์ 49 (B House 49)
บีเฮ้าส์ 49 ที่พักสไตล์ห้องใต้หลังคาที่ซ่อนอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 รีโนเวตมาจากทาวน์เฮาส์ธรรมดา ๆ มาเป็นที่พักหลากฟังก์ชั่นสไตล์สแกนดิเนเวีย ตกแต่งด้วยสีพื้น ๆ ที่เรียบง่ายแต่สดใส เกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ไม่ได้มีรูมเซอร์วิสเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวที่ต้องการหาพื้นที่ส่วนตัวเพื่อใช้เวลาด้วยกันในใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีห้องหลายแบบไว้รองรับหลากหลายการใช้งาน ทั้งแบบเตียงเยอะ ๆ เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนมาพักด้วยกัน และทั้งห้องสไตล์ครอบครัวที่มีมุมเล็ก ๆ สำหรับเด็ก ถ้าเมื่อไหร่อยากเดินเที่ยวก็มีห้างอย่างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเทอร์มินอล 21 อยู่ถัดไปอีกนิดเดียว
10. บางกอก ทรี เฮ้าส์ (Bangkok Tree House)
บางกอก ทรี เฮ้าส์ ห้องพัก Eco ในย่านบางกระเจ้า ออกแบบเป็นเหมือนบ้านต้นไม้กลางป่า ฝาบ้านสร้างด้วยไม้ไผ่ วัสดุที่ใช้ก่อสร้างและเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ที่พักแห่งนี้ยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ปลูกผักออร์แกนิกสำหรับบริโภค และมีกระบวนการ Upcycle ขยะอีกด้วย นอกจากมียังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการที่คาเฟ่สุดฮิป ซึ่งมีอาหารหลากหลายรสชาติ รวมถึงมีอาหารออร์แกนิกสด ๆ จากฟาร์มให้บริการ วันไหนอากาศดี ๆ คุณสามารถยืมจักรยานไปปั่นรอบ ๆ โรงแรม หรือปั่นออกไปเที่ยวตลาดน้ำคลองบางน้ำผึ้งเพื่อหาของอร่อย ๆ กินก็ยังได้
เห็นแล้วยังว่ากรุงเทพฯ ไม่ได้มีแต่ตึกสูง ๆ ถ้าอยากจะย้ายบ้านซักสองสามวัน หรือแม้กระทั่ง Work from Hotel ในช่วงนี้ ขอแนะนำให้ไปลองพักผ่อนที่ห้องพักสุดเก๋เหล่านี้ แล้วคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่จะทำให้คุณลืมไปเลยว่าคุณยังอยู่ในเมือง!
ลดทันที 100 บาท สำหรับลูกค้าใหม่ที่จองผ่าน Klook เพียงใส่โค้ด HOTEL100SAVE ในหน้าชำระเงิน!
ถ้าคุณได้ลองไปพักที่โรงแรมเก๋ ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือไปเจอโรงแรมแปลก ๆ ที่อื่นในเมืองที่อยากจะแนะนำ อย่าลืมแวะมาเล่าต่อให้ฟังด้วยนะ