12 สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวที่ต้องไปโดนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

Pio

อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 2024

12 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เชื่อว่าหลายคนคงตกหลุมรักฤดูในไม้ร่วง ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีส้มและแดงสวมงามทั่วทั้งต้น

ถ้าใครชอบเดิมชมถนนที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม บอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนต้นเดือนธันวาคม เนื่องจากอากาศเย็นลง จึงสามารถเดินเที่ยวสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีและสำรวจเมืองได้แบบชิวๆ

ถ้าคุณกำลังมีแพลนจะไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น เรามีทริคเล็กๆ ในการเที่ยวให้คุ้มที่สุดมากฝาก เพียงแค่ใช้บริการการเดินทางผ่าน Klook เพื่อการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น คุณสามารถเช่ารถส่วนตัวได้ ถ้าชอบความเป็นส่วนตัว หรือจะเดินทางกับคนในพื้นที่ได้ด้วยรถไฟใต้ดิน หรือจะใช้บริการรถบัสนำเที่ยวรอบเมืองก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการแบบไหน ทาง Klook ก็มีดีลพิเศษจัดเต็มให้กับนักท่องเที่ยวแน่นอน

พร้อมแล้วก็มาดูกิจกรรมที่น่าสนใจ ไว้วางแพลนท่องเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ร่วงนี้กันเลย

1. สวนชินจูกุเกียวเอ็น

สวนชินจูกุเกียวเอ็น สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมในโตเกียวที่สุด

มีต้นกำเนิดจากการเป็นที่ดินของขุนนางในระบบศักดินา ได้กลายมาเป็นสวนของราชวงศ์ของจักรพรรดิ ขุนนางและอาคันตุกะ สวนขนาดใหญ่แห่งนี้มีพื้นที่ 144 เอเคอร์ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ให้บรรยากาศสุดร่มรื่น

ภายในสวนชินจูกุเกียวเอ็นนี้ก็จะมีสวนย่อยที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์สามแห่ง และยังมีเรือนกระจกขนาดใหญ่อีกหนึ่งแห่งซึ่งเต็มไปด้วยพืชพรรณเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน

นอกจากนี้ ยังมีศาลาที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ เพราะเป็นศาลาที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง The Garden of Words นั่นเอง

สวนชินจูกุเกียวเอ็น จึงเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ได้รับความนิยมตลอดทั้งปีเพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีชินจูกุ

ช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นไม้ก็จะเป็นสีเขียวชอุ่มร่มรืน แต่พอฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยใบไม้สีส้มและเหลืองแดงเต็มทั่วทั้งสวน เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใจกลางกรุงโตเกียว ที่สวยงาม เดินทางสะดวก ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวสุดๆ

จองรถส่วนตัวในโตเกียวและเดินทางได้ทั่วเมืองตามที่คุณต้องการ

2. สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น

สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น หนึ่งในสวนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว

สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น มีต้นกำเนิดในปี 1629 โดยแต่เดิมเป็นที่พักอาศัยของสายมิโตะของตระกูลโทกูงาวะ เช่นเดียวกับสวนเดินเล่นทั่วไป

สวนแห่งนี้มีบึงน้ำตรงกลางและมีทางเดินรอบๆ สามารถเดินจากสถานีอีดาบาชิ สายโอเอโดะไปยังประตูตะวันตกของสวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็นได้ภายในเวลาสามนาที

การตกแต่งของที่นี่เป็นแบบย้อนยุคสุดคลาสสิค ที่จะเน้นการออกแบบให้มีทั้งหิน ต้นไม้ บ่อน้ำ และมีเนินขนาดเล็กที่ถูกจัดวางได้อย่างสมดุลลงตัว ให้บรรยากาศเหมือนฉากในหนังญี่ปุ่นย้อนยุค ซึ่งตัดกับสิ่งปลูกสร้างสมัยใหม่ภายในกรุงโตเกียว

และอีกจุดไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้ที่นี่เป็นสวนยอดฮิตของการชมใบไม้เปลี่ยนสี ก็คือ ต้นเมเปิ้ล ที่ถูกปลุกให้ล้อมรอบบริเวณสวน ที่พอถึงช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว เหล่าต้นเมเปิ้ลก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มสลับกับแดง บางต้นก็เปลี่ยนเป็นสีทอง สวยงามมากๆ เลยทีเดียว

3. สวนอิโนะคาชิระ

สวนอิโนะคาชิระในย่านคิชิโจจิ สถานที่ยอดฮิตตลอดทั้งปีสำหรับครอบครัว

และที่สวนอิโนะคาชิระ ได้รับความนิมยมสำหรับครอบครัว ก็เป็นเพราะภายในสวนแห่งนี้ มีเครื่องเล่นมากมายและสวนสัตว์ขนาดเล็กที่น่าสนใจ สำหรับช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ ก็คือใบไม้สีสันสดใส ที่จะสวยงามที่สุดเมื่อมองจากเรือหงส์ในทะเลสาบ

หากคุณชื่นชอบฮายาโอะ มิยาซากิ ก็ไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์จิบลิชื่อดังที่อยู่ทางทิศใต้ของสวน แต่อย่าลืมจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าไว้ด้วยนะ

นอกจากนี้ สวนอิโนะคาชิระยังจัดเป็นสวนที่ได้รับความนิยมทั้ง 4 ฤดูกาลของโตเกียว ไม่ว่าจะเป็น ทั้งการชมดอกซากุระ ชมใบไม้เปลี่ยนสี และชมหิมะบนยอดไม้ภายในสวน

สำหรับกิจกรรมที่นิยมอย่างมากของที่นี่สำหรับช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก็คือ การถีบเรือเป็ดในสระน้ำขนาดใหญ่ด้านในสวน เพื่อชมดอกซากุระที่สวยงามระรานตา

4. สวนสาธารณะฮิบิยะ

สวนสาธารณะฮิบิยะ สวนสาธารณะสไตล์ตะวันตกแห่งแรกของญี่ปุ่น

สวนสาธารณะฮิบิยะตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว มีดอกไม้ตามฤดูกาล การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น และพื้นที่แสนสบายให้ผ่อนคลายในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของโตเกียว

ต้นเมเปิ้ลสีแดงและต้นแปะก๊วยสีทองจะสร้างเงาสะท้อนสีสันอบอุ่นในบึงน้ำอันเงียบสงบ หากคุณมีแพลนจะไปเที่ยวที่สวนสาธารณะฮิบิยะ จะใช้เวลาเดินทางสองนาทีจากสถานีคาซุมิงาเซกิ สายมารุโนะอุจิ หรือจากสถานีฮิบิยะ สายฮิบิยะ

จุดไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 30 เมตร แบ่งระดับออกเป็นสูง กลางและต่ำ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เหมาะจะชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน

นอกจากนี้บริเวณน้ำพุจะมีเปิดไฟในตอนกลางคืน สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติก เหมาะกับคู่รักที่จะมาเดทกันสุดๆ

5. สวนโยโยงิ

สวนโยโยงิ เป็นที่ตั้งของหนึ่งในศาลเจ้าเมจิที่น่าประทับใจที่สุดของญี่ปุ่น

นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าแล้ว ยังมีบริเวณป่าที่เหมาะกับการเดินเล่น เป็นสถานที่สำหรับผ่อนคลายและมองดูผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปเพื่อมาทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย

นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวที่คุณจะได้เห็นวิวป่าของสวนที่สวยงาม และเป็นจุดดื่มด่ำบรรยากาศฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามของโตเกียวอีกด้วย

ที่นี่จะมีสนามหญ้ากว้าง และสถานที่ให้เล่นกีฬามากมายสำหรับชาวเมืองโตเกียว เลยจะมีกลุ่มคนมารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มกีฬาสมัครเล่น นักแต่งคอสเพลย์ หรือจะกลุ่มปั่นจักรยาน

การเดินทางไปสวนโยโยงิที่เร็วที่สุดคือผ่านทางสถานีฮาราจูกุ โดยใช้สายเจอาร์ ยามาโนะเตะ สถานีสวนโยโยงิ สายโตเกียวเมโทรสายชิโยดะ จองตั๋วรถไฟใต้ดินผ่าน Klook เพื่อเดินทางไปเที่ยวสวนสาธารณะที่สวยงามแห่งนี้

จองตั๋วรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียว - รับการยืนยันได้ทันที

6. สวนอนุสรณ์โชวะ

สวนอนุสรณ์โชวะ สวนที่รวมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์ไว้ที่เดียว

สวนอนุสรณ์โชวะ ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทาจิกาวะ ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้นานาชนิดและต้นแปะก๊วยที่เรียงกันเป็นแถวตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผู้คนชื่นชอบอีกด้วย

สวนแห่งนี้เป็นสวนอุทยานแห่งชาติ มีขนาด 160 เฮกตาร์ สร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของโตเกียว เนื่องจากคุณสามารถดื่มด่ำและชื่นชมกับธรรมชาติได้อย่างสงบ

นอกจากนี้สวนอนุสรณ์โชวะ ยังเป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะที่น่าสนใจ เพราะตอบโจทย์ความต้องการของชาวเมืองที่หลากหลาย เป็นสวนที่มีทั้งลานกว้างสำหรับทำกิจกรรม สนามเด็กเล็กสำหรับเด็กๆ และสวนดอกไม้นานาชนิด

7. ถนนต้นแปะก๊วย (อิโช นามิกิ)

เส้นทางถนนต้นแปะก๊วยสีทองอร่าม ที่เที่ยวสุดโรแมนติก

ถ้าคุณได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่ อิโช นามิกิ ที่อยู่ตรงสวนเมจิจิงกูไกเอ็นในโตเกียว

อิโช นามิกิ แปลว่า “ต้นแปะก๊วยที่เรียงกันเป็นแถว” ถนนต้นแปะก๊วยตั้งอยู่ระหว่างอาคารสำนักงานของย่านธุรกิจของอาโอยามะและสวนเมจิจิงกูไกเอ็น เป็นถนนความยาว 300 เมตร ต้นแปะก๊วยจะถูกตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยตั้งอยู่เรียงสองแถวขนาบข้างถนน

พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ประมาณช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ต้นแปะก๊วยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวไปสู่สีเหลือง และพอถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ใบไม้ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส เป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาประเทศญี่ปุ่น

สำหรับการเดินทางมายังถนนต้นแปะก๊วย (อิโช นามิกิ) สามารถนั่งรถไฟสายฮันโซมงหรือโอเอโดะไปยังสถานีอะโอยามะอิตโชเมะ ทางออก 1 ซึ่งเป็นทางออกที่ใกล้ถนนมากที่สุด

ขึ้นรถบัสนำเที่ยวแบบฮอปออน-ฮอปออฟทั่วโตเกียวเพื่อเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ง่ายๆ

8. สวนริคุงิเอน

สวนริคุงิเอนบรรยากาศสงบที่เข้าชมได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

สวนริคุงิเอนสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 1700 เป็นสวนเดินเล่นตามคำขอของโทะกุงะวะ สึนะโยะชิ โชกุนคนที่ห้าของญี่ปุ่น มีจุดที่สวยงาม 88 จุดที่มาจากคิชู วาคาโนอุระ และกลอนญี่ปุ่น

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีกับดอกซากุระได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและช่วงเวลากลางคืน ในสวนที่สวยงามแห่งนี้ ยังมีสะพานหินโทเง็ตสึเคียวที่มีฝูงปลาคาร์ฟว่ายอยู่ในน้ำใต้สะพาน ให้คุณได้เดินเล่นอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

สำหรับการเดินทาง สามารถลงสถานีสถานีโคมาโกเมะ ของรถไฟ JR สายยามาโนะเตะ ทางออกทิศใต้ หรือรถไฟโตเกียวเมโทร สายนัมโบคุ ทางออก 2 เแล้วเดินต่อไปที่ประตูหน้าของสวนประมาณ 7 นาที

9. ภูเขาทะคะโอะ

ภูเขาสุดฮิต ที่มีกิจกรรมให้ทำเพียบ!

ภูเขาทะคะโอะแห่งนี้เป็นสถานที่ปีนเขายอดนิยม เป็นภูเขาที่มีเส้นทางเดินขึ้นเขาไม่ลำบาก การเดินทางมาที่ภูเขาทะคะโอะ คือ สามารถนั่งรถไฟจากใจกลางกรุงโตเกียวไปภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามของพื้นที่ราบของโตเกียวจากบนยอดเขาได้ นอกจากนี้คุณยังจะเห็นวัดยากูโอะอินและสวนลิงที่มีลิงกังญี่ปุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ที่ภูเขาทะคะโอะยังมีกิจกรรมและที่เที่ยวเพิ่มเติม ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ดยากูโออิน ภูเขาทาคาโอะ สถานที่เพลิดเพลินกับการดื่มกิน เดินเล่น เข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือแช่ออนเซ็น

คุณสามารถเดินทางได้โดยรถไฟกึ่งด่วนจากสถานีรถไฟชินจุกุ สายเคโอ ไปลงที่สถานีทาคาโอะซังกุจิ ได้เลย เหมาะที่จะไปสูดอากาศบริสุทธิ์แบบเช้าเย็นกลับสุดๆ

10. หุบเขาโทโดโรกิ

หุบเขายอดฮิต ที่ห่างจากโตเกียวเพียงไม่กี่นาที

ตะลุยหุบเขาโทโดโรกิ เพียงแห่งเดียวของโตเกียว ที่อยู่ห่างจากชิบุยะออกไปเพียง 20 นาทีที่นี่มีป่า น้ำตก วัด และศาลเจ้าตลอดความยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร

หุบเขาโทโดโรกิเป็นโอเอซิสในป่าที่หนาแน่นและเต็มไปด้วยสัตว์ป่า คาเฟ่ Setsugetsuka ที่มีความแปลกตา และศาลเจ้าที่มีความงดงามราวภาพวาด

คุณสามารถเดินทางโดยรถไฟสายโตเกียวได้อย่างสะดวกสบาย โดยลงที่สถานีโทโดโรกิ รถไฟโตคิวสายโออิมาจิ และเดินต่อเป็นระยะทางสั้นๆ เพียงแค่ไม่กี่นาที

11. อาซาฮิคาวะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่รายล้อมไปด้วยที่เที่ยวที่น่าสนใจ

อาซาฮิคาวะซึ่งอยู่ในหุบเขาและรายล้อมด้วยป่าไม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาเห็นกับตาตนเองจึงจะเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงเพลิง สีเหลืองอร่าม และสีส้มสดใส

คุณสามารถเดินเล่นรอบทะเลสาบโอคุทามะ ข้ามสะพานลอยน้ำ และหุบเขาเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุด นอกจากนี้ ยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสุดเจ๋ง เช่น ภูเขามิตาเกะ ทะเลสาบโอคุทามะ และน้ําพุร้อนโอคุตามาออนเซน โมเอกิ

12. ภูเขามิตาเกะ

ภูเขาสำหรับมือใหม่ ที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้แบบจัดเต็ม

นอกเหนือจากภูเขาทะคะโอะ ภูเขามิตาเกะก็เป็นหนึ่งในสถานที่ปีนเขายอดนิยมที่สุดสองแห่งในโตเกียว ภูเขามิตาเกะเหมาะสำหรับนักปีนเขามือใหม่ ซึ่งมีคนเข้าชมน้อยกว่า ทำให้คุณได้สัมผัสกับทัศนียภาพจากธรรมชาติที่สวยงามจับใจ ใช้เวลาปีนเขาทั้งหมด 3-4 ชั่วโมงโดยมีระยะทาง 6-8 กิโลเมตร และยอดเขามีความสูงที่ 929 เมตร ควรมาเที่ยวโตเกียวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพราะคุณจะชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง

ค้นพบกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมายในโตเกียว

โตเกียว ญี่ปุ่น

แนะนำสำหรับคุณ