ใครอินเลิฟประเทศญี่ปุ่น มามุงทางนี้! เพราะตอนนี้ญี่ปุ่นเปิดประเทศแล้ว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เดินทางไปเที่ยวกันมากมาย ไม่ว่าจะไปโตเกียว เกียวโต หรือเมืองไหน ๆ ก็เจอนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติ เพราะประเทศญี่ปุ่นนั้นเรียกได้ว่าเที่ยวแล้วได้ประสบการณ์สุดประทับใจเกือบทุกที่
แต่จะให้ตามเก็บสถานที่ท่องเที่ยวทุกเมืองก็คงไม่ไหวใช่ไหมล่ะ? วันนี้เราจะมาแนะนำเมืองเมืองนึงที่ไปที่นี่ที่เดียวแล้วจบ ครบ ได้ทำกิจกรรมและเที่ยวเต็มอิ่มตลอดวันเลย! ใครพร้อมแล้ว ก็ตามไปดูสิ่งที่น่าสนใจที่เราจะแนะนำต่อในหัวข้อด้านล่างได้เลย
จังหวัดฟุกุโอกะ
เมืองฟุกุโอกะ คือศูนย์กลางของเกาะคิวชู ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เกาะหลักที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น โดยเกาะคิวชูนั้นประกอบไปด้วย 7 จังหวัด คือ ฟุคุโอกะ (Fukuoka) โออิตะ (Oita) ซะกะ (Saga) นางาซากิ (Nagasaki) คุมะโมโตะ (Kumamoto) มิยะซะกิ (Miyazaki) และคะโงะชิมะ (Kagoshima)
อีกจุดนึงที่ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของเกาะคือมีสนามบินฟุกุโอกะ ที่รองรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าบินมาจากประเทศไทยก็มาลงที่สนามบินนี้ แล้วต่อรถไฟใต้ดินเข้าเมืองแค่ 5 นาทีได้เลย เพราะสนามบินอยู่ใกล้สถานีฮากาตะเพียง 3 กิโลเมตรเอง สะดวกสุด ๆ
ขอบคุณภาพจาก: Japan Guide
สะดวกทุกการเดินทางด้วยบัตร JR Pass ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งเหนือ ฝั่งใต้ และทั้งหมดในคิวชู
ดีกว่าไหมถ้าเซฟเวลาเดินทางได้ แล้วเหลือเวลาเที่ยวเยอะกว่า! Klook รู้ว่าทุกคนต้องการอะไร เลยหาดีลบัตร JR Pass ในราคาสุดคุ้มมาให้ มีให้เลือกจองได้ตั้งแต่ 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน! วิธีใช้ก็ง๊ายง่าย พียงแสดงเวาเชอร์ Klook ที่เคาน์เตอร์ JR ในประเทศญี่ปุ่น ก็แลกรับบัตร JR Kyushu Pass ของคุณได้เลย
เปิดวาร์ปวิธีเดินทางให้เรียบร้อย! ตอนนี้ก็ถึงเวลาไปดูที่เที่ยวที่น่าสนใจในฟุกุโอกะกันแล้ว ตามมาเลย!
Fukuoka tower
ภาพจาก: Viator
เอาใจคนรักการถ่ายรูป ด้วยแลนด์มารคแรกอย่าง Fukuoka Tower หรือหอคอยฟุกุโอกะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองฮากาตะ เพราะเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ซึ่งมองลงมาจากความสูงมากถึง 324 เมตร และความสูงนี้ ทำให้ที่นี่เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมือง และสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น
วิวเมืองจากภายในหอคอย
การเดินทาง
- นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีนิชิจิน (Nishijin) แล้วเดินต่ออีกหน่อย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- นั่งรถบัสเลข 5 แล้วเดินต่ออีกนิด ประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม
ไม่ต้องปวดหัวกับการเตรียมซื้อบัตรเข้าชมกันอีกต่อไป! เพราะ Klook เตรียมดีลสุดพิเศษมาให้ทุกคนกดจองก่อนเดินทางแล้ว คลิกด้านล่างเลย
ศาลเจ้าดาไซฟุ Dazaifu Tenmangu
ศาลเจ้าดาไซฟุ
ใครเป็นสายมูต้องปักหมุดไปที่นี่! เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมไปขอพรเรื่องเรียน ถ้าได้แวะไปสักครั้งก็จะเห็นเลยว่ามีนักเรียนมากมายแวะเวียนกันมาที่นี่
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในศาลแห่งนี้คือ ซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ซึ่งมิจิซาเนะเป็นนักวิชาการ นักการเมือง และนักเขียนที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้คนทั่วญี่ปุ่น ในช่วงปีค.ศ. 800 - 900 และในที่สุดจึงได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา
ภาพจาก; หอคอยฟุกุโอกะ
นอกจากศาลเจ้านี้จะโด่งดังเรื่องความขลังแล้ว ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิก็ยังเป็นสถานที่ชมดอกบ๊วยที่สวยที่สุดอีกแห่งนึงในญี่ปุ่น นอกจากนี้แถวนี้ก็จะเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย ใครมาญี่ปุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิต้องแวะที่ศาลเจ้าแห่งนี้นะ
บรรยากาศในศาลเจ้า
ภาพจาก: ปันโปร
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีรถไฟ Dazaifu จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที
สำหรับใครที่ไม่เคยมาทัวร์ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงหรือเที่ยวไม่คุ้ม! แค่กดจองทริปศาลเจ้าดาไซฟุ ยุฟุอิน และเบปปุไว้ก่อนเดินทางมา ก็ได้เที่ยวครบทุกศาลเจ้าชื่อดังในวันเดียวเลย!
ศาลเจ้าคูชิดะ
ภาพจาก: Wikipedia
ศาลเจ้า ของฟุกุโอกะที่โด่งดังยังมีอีก! ซึ่งก็คือศาลเจ้าคูชิดะ (Kushida Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฟูกุโอกะ โดยสถาปัตยกรรมของที่นี่ ได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาชินโตยุคดั้งเดิม ตัววิหารหลักของศาลเจ้ามีอายุราว ๆ กว่า 1,200 ปี คาดการณ์ว่าสร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ.757 โดยองค์จักรพรรดิโคเคน (Koken) เพื่อให้เป็นศาลเจ้าของเทพโอคุชิดะ ซามะ
ภาพจาก: Sygic Travel
ณ ปัจจุบันคนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรให้มีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และประสบความสำเร็จในธุรกิจ
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Gion ออกทางออก 3 จากนั้นเดินอีกประมาณ 15 นาที
เวลาเปิด - ปิด
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00 – 22.00 น.
วัดนันโซอิน
ภาพจาก: Thrillophilia
Nanzoin Temple เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจเยอะมาก! สิ่งแรกที่โดดเด่นเลยคือพระพุทธรูปทองสำริดขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น (หรืออาจจะของโลกเลยก็ว่าได้) ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางวัดเลย
ภาพจาก: Japan Experience
ภาพจาก: WannaBeEverywhere
นอกจากนี้ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องขอพรเกี่ยวกับโชคลาภ สืบเนื่องมาจากที่เจ้าอาวาสแห่งวัดนันโซอินถูกลอตเตอรี 130 ล้านเยน จากการวางลอตเตอรีไว้ข้างรูปปั้นเทพ Daikokuten ที่เป็นเทพแห่งความร่ำรวยและการค้าไงล่ะ!
ภาพจาก: Japan Experience
การเดินทาง
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฮากาตะ แล้วนั่งรถไฟสาย JR Sasaguri Line มาลงสถานี Kido Nanzoin-mae Station ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ห้าง Canal City Hakata
ภาพจาก: JGBThai
อีกแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ในเมืองฟุกุโอกะ คือ Canal City Hakata ช้อปปิ้งมอลล์สุดอลังการที่ภายในอาคารมีคลองไหลผ่าน นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ชั้นนำให้เลือกช้อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Uniqlo, H&M, Muji, Adidas, Fila, Donguri Kyowakoku และอื่น ๆ อีกกว่า 200 ร้าน ที่ปังอีกอย่างคือมี Ramen Stadium ซึ่งรวมร้านฮากาตะราเม็งชื่อดังมาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลองกันง่าย ๆ ที่นี่
ใครเข้ามาเที่ยวในตัวเมืองฟุกุโอกะ ต้องไม่พลาดแวะมาช้อปปิ้งหรือถ่ายรูปเล่นที่ห้างนี้นะ!
ภาพจาก: AllAbout-Japan.com
การเดินทาง
- นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Gion Station แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Nakasu-Kawabata Station แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
- นั่งรถบัสสาย 68, 113, 200, 201 จาก Hakata Bus Terminal มาลงป้าย Canal City Hakatamae
ภาพจาก: DPlus Guide
สะดวกยิ่งกว่า ถ้าพักใกล้กับช้อปปิ้งมอลล์ชื่อดัง! เราขอแนะนำที่พักชื่อ Dormy Inn Premium Hakata Canal City Mae Natural Hot Spring ซึ่งอยู่ใกล้ห้างนี้แค่ 300 เมตรเอง! เรียกได้ว่าตื่นปุ๊บ แต่งตัวเสร็จสรรพปั๊บ ก็ลงมาเดินสับช้อปปิ้งต่อแบบชิลล์ ๆ ได้เลย
ที่พัก Dormy Inn Premium Hakata Canal City Mae Natural Hot Spring
ภาพบรรยากาศภายในที่พัก
พิพิธภัณฑ์ทีมแล็บ ฟอเรสต์
ใครชอบถ่ายรูปต้องมา!
มุมนี้คือสวยเวอร์มากกกก
อีกหนึ่งที่เที่ยวของเมืองฟุกุโอกะคือ TeamLab Forest ในศูนย์ความบันเทิง E.ZO FUKUOKA ที่นี่จะเป็นสถานที่เกี่ยวกับศิลปะดิจิทัลในธีมป่าแห่งการรวบรวมและป่าแห่งการเคลื่อนไหว จัดโชว์ในรูปแบบ Interactive Art จะ มีทั้งหมด 7 โซน
ว้าวทุกมุมมม น่าถ่ายรูปมาก
โซนที่ 1 เป็นเหมือนป่าจำลองที่มีสัตว์หลากชนิด โดยเขาจะให้โหลด App มาก่อน เมื่อเดินเข้าไปก็เปิด App แล้วใช้ยิงธนูหรือหว่านแหจับสัตว์ที่อยู่ในห้องนี้ได้เลย ซึ่งก็จะมีทั้งสัตว์ป่า และสัตว์ทะเลให้ตามล่า
ภาพบรรยากาศโซนที่ 1
โซนที่ 2 เป็นห้องที่เต็มไปด้วยผีเสื้อ โดยผีเสื้อจะตามมาตอนเราเอามือไปแตะกับผนัง ตอนเดิน หรือตอนนั่ง
โซนที่ 3 เป็นห้องเห็ดหลากสี เดินแล้วจะได้เหยียบเห็ดนุ่ม ๆ ไปตลอดทาง เพลินเท้าดีเหมือนกันแฮะ
โซน 4 เป็นทางเดินยวบ ๆ เดินไปเรื่อย ๆ ก็ตื่นเต้นดีนะ
เส้นทางเดินสุดเร้าใจ
โซน 5 มีทางเดินข้ามฝั่งให้เลือก 3 อัน ตั้งแต่แบบง่าย - ยาก เวลาข้ามไปแล้วห้ามหยุด เลือกแล้วต้องเดินจนจบเลย
โซนที่ 6 ข้างนอกจะเป็นโซนป่ากว้าง ๆ จุดเด่นคือมีอุโมงค์กระจกสามมิติที่เชื่อมระหว่างโซนที่ 6 กับโซนที่ 7
โซนที่ 7 จะเป็นโซนที่มีลูกบอลมากมาย พร้อมด้วยลมเป่าวนไปมาภายในห้องกระจก
ภาพบรรยากาศภายในโซนที่ 7
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Tojinmachi Station แล้วเดินอีกนิดหน่อย ประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 2,200 เยน
- เด็ก 800 เยน
จองกับ Klook ถูกกว่า! เรามีดีลบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทีมแล็บ ฟอเรสต์ (teamLab Forest) มาให้ แค่จองกดจองที่นี่ คุณจะได้รับส่วนลดพิเศษในทันที คลิกเลย
ทัวร์ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เมืองฮากาตะ
เมืองฮากาตะ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ประวัติศาสตร์ฮากาตะนั้นมีความน่าสนใจอยู่มากมาย แม้กาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่ก็ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความทรงจำและข้อมูลสำคัญที่ไว้ให้คนรุ่นหลังจากทุกมุมโลกได้มาศึกษา และเที่ยวชมความงดงามในอดีตที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับใครที่ยังไม่ได้หาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ของที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวว่าเที่ยวแล้วจะไม่อิน! แค่จองทัวร์ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เมืองฮากาตะไว้ แล้วไปสนุกกับการท่องเที่ยวในทริแนี้พร้อมความรู้แน่น ๆ ถึง 3 ชั่วโมงเต็ม
รู้ครบ เที่ยวครบ จบในทัวร์เดียว
- เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของ Xie Guoming พ่อค้าชาวจีนที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาฮากาตะ
- มุ่งหน้าไปยังวัด Jotenji ซึ่งก่อตั้งเมื่อ 773 ปีก่อนและสวนเซนที่อยู่คู่กัน
- เยี่ยมชมวัดโทโชจิ วัดพุทธเก่าแก่ที่มีเจดีย์สีส้ม 5 ชั้นอันโดดเด่น
เพิ่มความอินกับทัวร์เชิงประวัติศาสตร์ด้วยชุดกิโมโน
อินกับประวัติศาสตร์และบรรยากาศในประเทศญี่ปุ่นอีกขั้น ด้วยการสวมชุดกิโมโนสุดน่ารัก สีสันสดใสขณะท่องเที่ยว ซึ่งทุกคนไม่ต้องเหนื่อยเตรียมมาเองจากไทย เพราะเราหาดีลเช่าชุดกิโมโน ในฟุกุโอกะมาให้จองกันง่าย ๆ แล้ว
ใส่แล้วกลมกลืนกับคนญี่ปุ่นชัวร์
ซึ่งดีลของเราก็ใช้งานสะดวกมาก เพียงกดจองไว้ก่อน แล้วไปถึงร้านก็เปิด QR CODE ให้ทางร้านดู จากนั้นก็เข้าไปเลือกเช่าชุดกิโมโนได้เลยตามใจชอบ!
ใส่ปุ๊บ ก็น่ารักแบบสาวญี่ปุ่นเลย
รับประทานอาหารสุดหรูในรถไฟ ARU RESSHA
ใครเที่ยวทั้งวันจนอ่อนล้า หมดแรง ท้องร้อง ลองมานั่งรถไฟ ARU RESSHA โดย JR Kyushu ชมวิวจากฮากาตะไปยูฟูอิน พร้อมทานอาหารสุดหรูกันไหม?
บนรถไฟขบวนนี้คุณจะได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายในบรรยากาศหรูหราของรถไฟ D&S และอิ่มอร่อยไปกับวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากคิวชู และได้รับการรังสรรค์เป็นอาหารจานเด็ดโดยเชฟ Narisawa ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
สะดวกยิ่งกว่า! เมื่อคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเริ่มต้นจาก Hakata ไป Yufuin หรือ Yufuin ไป Hakata ได้ตามแผนการเดินทางของคุณ ทำให้ลดเวลาในการเดินทางได้
ฟุกุโอกะเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ซึ่งที่เราแนะนำไปนั้น ก็เป็นเพียงไฮไลท์ที่ใครไปเมืองนี้ก็ต้องไม่พลาด! และดียิ่งกว่าถ้าวางแผนล่วงหน้าและจองดีลสุดคุ้มต่าง ๆ ในเมืองฟุกุโอกะจาก Klook เอาไว้ก่อนไป นอกจากจะช่วยให้แพลนทริปได้ดีขึ้น เซฟเวลา ก็ยังเซฟเงินมากกว่าเพราะแต่ละดีลที่เราเอามาให้นั้นเป็นราคาพิเศษ!
ภาพจาก: Japan Travel
