เรื่องน่ารู้: สวนพฤกษศาสตร์ Gardens By The Bay สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ที่ห้ามพลาด
เขาว่ากันว่า Gardens By The Bay นั้นมีความลับ!!.... ทำให้เราต้องลองไปเยือนสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ใกล้ Marina Bay Sands ถ้าได้ไปถึงสิงคโปร์กันนะ วันนี้ Klook จะพาไปเกาะแกะหาความลับและเรื่องน่ารู้ของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้กัน
Gardens By The Bay
Gardens By The Bay เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด ชวนสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของธรรมชาติอันแสนสดชื่น สอดผสานกับความมหัศจรรย์แห่งอนาคตได้อย่างลงตัว พร้อมชมวิวธรรมชาติจากสวนพฤกษศาสตร์นานาชาติทั่วทุกมุมโลก
Gardens by the Bay เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาที่ดินริมน้ำบริเวณรอบอ่าวมารีน่า ประเทศสิงคโปร์ ทำให้เดินทางสะดวก ใช้เป็นที่สำหรับจัดแสดงงาน และพื้นที่สาธารณะสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 250 เอเคอร์ (ราว 630 ไร่) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดที่สุดในสิงคโปร์ที่เลยก็ไม่เกินจริง
ขึ้นแท่นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์
ตั้งแต่เปิดตัวโครงการให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมเมื่อปี 2012 Gardens By The Bay กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศสิงคโปร์อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเสนอสวนพฤกษศาสตร์รูปแบบใหม่ที่มีทั้งธรรมชาติและเทคโนโลยีสุดล้ำอยู่ในจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่สวนแห่งอ่าวมารีน่านี้จะยังคงได้รับอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในสิงคโปร์ไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
สวนพฤกษศาสตร์แบบครบจบที่นี่
ที่นี่ประกอบไปด้วย 3 สวน คือ สวนริมอ่าวทางใต้ สวนริมอ่าวทางตะวันออก และสวนกลาง ที่มีความน่าสนใจที่หลากหลายและแตกต่างกัน และสวนย่อยอีก 7 โซนที่เต็มไปด้วยความลับและสิ่งน่าค้นหาของ Gardens By The Bay แห่งนี้ไว้แตกต่างกันไปอีก ได้แก่ Dragonfly & Kingfisher Lakes, Supertree Grove, Heritage Garden, Flower Dome, Cloud Forest, Bay East Garden และ World of Plants โดยแต่ละสวน แต่ละโซนจะน่าค้นหาขนาดไหน วันนี้เราจะพาคุณไปชมวิวผ่านไฮไลท์ของ Gardens By The Bay ประเทศสิงคโปร์กัน!
Dragonfly & Kingfisher Lakes
ไฮไลท์แรก คือ บริเวณริมน้ำ Dragonfly & Kingfisher Lakes พื้นที่สาธารณะใน Gardens By The Bay ที่ประชาชนทั่วไปในสิงคโปร์เข้ามาใช้บริการได้ฟรี มีทางเดินไม้ที่กว้างเลียบเลาะยาวตลอดริมฝั่ง เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักกายหย่อนใจแบบครอบครัว ช่วงเย็นที่นี่จึงคึกคักเป็นพิเศษ
Dragonfly & Kingfisher Lakes เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสัตว์นานาชนิด เช่น ผีเสื้อ นกนานาพันธุ์ ด้วยเนื้อที่ที่เชื่อมต่อกับอ่าวมารีนาจึงช่วยสร้างสมดุลให้น้ำในทะเลสาบมีคุณภาพดี และมีความน่าสนใจแบบที่ต้องมาดูให้เห็นกับตาให้ได้รับความว้าวกลับไปสักครั้ง
ที่มาของชื่อ Dragonfly & Kingfisher Lakes
จุดเด่นอีกอย่างของทะเลสาบนี้คือฝูงแมลงปอ สัตว์ประจำถิ่นที่ช่วยสร้างสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับสถานที่ท่องเที่ยวหย่อนใจแห่งนี้ รวมถึงนกกระเต็นหลากสายพันธุ์ที่ช่วยเติมเต็มความเป็นธรรมชาติ จนสถานที่นี้ได้ชื่อว่า Dragonfly & Kingfisher Lakes นอกจากนี้ยังมีสัตว์น้ำและสัตว์ปีอีกหลายชนิดที่เป็นความสดใสให้กับสวนนี้ แต่จะให้บรรยายให้หมดก็คงเป็นไปไม่ได้ เอาเป็นว่าไฮไลท์นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลยแล้วกัน แอบกระซิบว่าสวนนี้ไม่เสียค่าเข้าชมด้วยนะ
เวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 05:oo-02:00 น.
Supertree Grove สุดยอดของสวนสุดล้ำ
ไฮไลท์ที่สอง Supertree Grove ต้นไม้โครงเหล็กขนาดยักษ์สีชมพูที่นอกจากจะเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของ Gardens By The Bay แล้วยังเป็นสิ่งแรก ๆ ที่คนนึกถึงเมื่อมาสิงคโปร์ ด้วยลักษณ์ที่ตั้งสูงตระการตา (และแปลกตา) จึงทำให้ทุกคนที่เห็นมันจะต้องอยากรู้ อยากเห็นว่าเจ้าต้นไม้ยักษ์นี้มันคืออะไร
ชมวิว Gardens By The Bay บนทางเดินลอยฟ้า Supertree
Supertree คือต้นไม้ยักษ์ที่มีส่วนในการเติมเต็มความน่าค้นให้กับสวนแห่งอ่าวมารีน่าแห่งนี้มากขึ้นไปอีก ระหว่างต้นไม้ยักษ์เหล่านี้ยังมีทางเดินลอยฟ้าเชื่อมขึ้นไปชมทัศนียภาพในมุมสูงอีกด้วย ชมวิวสิงคโปร์และเห็น Marina Bay Sands จากบนนี้ได้พร้อมถ่ายรูปแชร์ความสวยงานของทั้งสวนแห่งนี้ได้สบาย ๆ เหมาะกับสายถ่ายภาพมาก ๆ
Supertree Grove พลาดไปเท่ากับมาไม่ถึงสิงคโปร์
Supertree Grove เป็นโซนที่ใหญ่ที่สุดและยังได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม นับเป็นสวนพฤกษศาสตร์สาธารณะสำหรับทุกคนจริง ๆ อยากเห็นธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ลองไปที่ Supertree Grove ไม่ผิดหวังแน่นอน
ความลับ ความล้ำ Supertree Grove
จุดเด่นที่ Supertree Grove กุมความลับไว้นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามเป็นที่ดึงดูดตาดูดใจเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่อีกโลกแล้ว Supertree ยังมีฟังก์ชันที่สามารถเก็บเกี่ยวพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ได้ เหมือนต้นไม้จริงที่มีการสังเคราะห์แสงเพื่อนำไปใช้หล่อเลี้ยงลำต้น แต่พลังงานที่ได้จาก Supertree Grove ถูกนำไปหล่อเลี้ยงสวนพฤกษศาสตร์ เรียกได้ว่าเป็นสวนที่คิดมาดีจริง ๆ
โครงสร้างด้านบนของ Supertree เองยังสามารถที่รับน้ำฝนและทำหน้าที่เก็บกักน้ำเพื่อใช้กับส่วนต่าง ๆ ภายใน Gardens By The Bay ได้ด้วย ถ้าจะเรียกว่าที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอนาคตก็คงไม่เกินจริงเลย เป็นสวนสวยที่ใส่ใจโลกในทุกกระบวนการคิดได้อย่างน่าประทับใจมาก ๆ
ต้นไม้เรืองแสง Supertree Rhapsody
ความอลังการของสวน Supertree Grove ยังมีมากกว่านี้ หากอยู่ให้ถึงช่วงกลางคืน เพราะมีการแสดง แสง สี เสียงที่สวยงามบนต้นไม้เหล่านี้ จะได้รับความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งโดยที่ไม่ต้องเดินทางข้ามจักรวาลไปไหน เพราะนี่คือหนึ่งในสวนที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็คงฝันถึงและอยากจะมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง แค่ลองนึกภาพกำลังเดินอยู่บนทางเดินลอยฟ้า พร้อมกับแสงสีตระการตาจะสุดจิตนาการ ไม่ต้องรอนานถึงโลกอนาคต Gardens By The Bay ในสิงคโปร์ก็มี!
เวลาเปิด-ปิด
ทางเดินลอยฟ้า เปิดทุกวัน เวลา 09:oo-21:00 น.
การแสดงแสงสี ทุกวัน เวลา 19:45-20:45 น.
Heritage Gardens ไขความลับที่มาของสิงคโปร์ที่อาจจะยังไม่รู้
ไฮไลท์ที่สาม เดินทางมาถึง Heritage Gardens สวนบนแนวคิดที่นำเอาความหลากหลายของต้นกำเนิดประเทศและวัฒนธรรมสิงคโปร์ ถ่ายทอดออกเป็นสวนตามวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั้ง 4 ได้แก่ Indian Garden, Chinese Garden, Malay Garden และ Colonial Garden ซึ่งมีการนำเอาจุดเด่นของสวนแต่ละสไตล์มาใส่ไว้ได้เป็นอย่างดี สะท้อนวัฒนธรรมความหลากหลายที่ผสมผสานกันจนออกมาเป็นประเทศสิงคโปร์ที่พวกเรารู้จักกัน
หากเดินทางมาถึง Heritage Gardens นอกจากจะได้พบกับสวนที่แตกต่างกันแล้ว ยังเต็มไปด้วยการแสดงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ในสิงคโปร์อีกด้วย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ต้องกลัวมาแล้วไม่คุ้ม เพราะเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ แค่มาเดินผ่านก็จะได้รับความรู้กันถ้วนหน้าแน่นอน
เวลาเปิด-ปิด
ทุกวันเวลา 05:00 - 02:00 น.
โซน Indian Garden
วัฒนธรรมอินเดีย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอินเดียก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่มีอิทธิพลมากในสิงคโปร์ ความน่าสนใจขของโซน Indian Garden เริ่มตั้งแต่ทางเข้า Indian Garden ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฮินดูและคัมภีร์พระเวทที่ให้ความสำคัญกับต้นไม้จนกลายเป็นแก่นของการใช้ชีวิตของผู้คนในวัฒนธรรมนี้ จนเกิดเป็นสวนแห่งนี้ที่เน้นดอกไม้นานาพันธุ์ เพราะดอกไม้เหล่านี้ถูกใช้สำหรับถวายเทพเจ้าตามความเชื่อของชาวฮินดู
Banyan Tree
ต้นไทร อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ช่วยเติมเต็ม Indian Garden แห่งนี้ นอกจากจะเป็นต้นไม้ประจำชาติอินเดียแล้ว ชาวอินเดียเองยังถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ตามปกรนัมฮินดูอีกด้วย นับเป็นสวนที่มีความน่าสนใจมาก ๆ ตอบโจทย์ทั้งกับสายเที่ยวธรรมชาติ และสายประวัติศาสตร์ แค่สวนนี้สวนเดียวก็เกินคุ้มแล้ว
โซน Chinese Garden
วัฒนธรรมจีน
ดอกไม้ ต้นไม้ และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ถูกใช้เป็นองค์ประกอบหลักในงานศิลปะของวัฒนธรรมจีนมานานศตวรรษ สวยแห่งนี้สะท้อนความใส่ใจและความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติของวัฒนธรรมจีนออกมาได้อย่างน่าค้นหา ตั้งแต่ทางเดินในสวนที่ออกแบบให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ หิน ดอกไม้ ต้นไม้รอบ ๆ ตัวมากกว่าจะเป็นเพียงผู้มาเยือนครั้งคราว
รูปสลักพระสังกัจจายน์ ใต้ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์
พระสังกัจจายน์ใต้ต้นโพธิ์ ต้นไม้ศักดิ์ของชาวพุทธและชาวจีน อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Chinese Garden ที่ถูกตั้งอยู่กลางสวนแห่งนี้ ตอกนยำความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติของศิลปะและความเชื่อของชาวจีนซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มคนที่มีสวนสำคัญในสร้างอัตลักษณ์ความเป็นสิงคโปร์ที่เป็นสถานที่ที่คนรู้จักกันอย่างทุกวันนี้
ต้นสน สัญลักษณ์อายุยืน
ต้นไม้ที่มีความหมายและน่าสนใจอีกหลายชนิดถูกจัดแสดงไว้อย่างกลมกลืนและเป็นส่วนหนึ่งกับทุกคนที่ได้เข้ามาเยื่อน Chinese Garden แห่งนี้ตามแนวคิดวัฒนธรรมจีน หนึ่งในต้นไม้ที่โดนเด่นคือ ต้นสน ที่ได้ขึ้นชื่อมาเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยั่งยืน เพราะต้นสนเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลก ยืนต้นได้ถึงเป็นพันปีก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน นับเป็นอีกหนึ่งสวนที่มาความน่าหลงไหลและต้องมาให้ได้จริง ๆ
โซน Malay Garden
วัฒนธรรมและผู้คนชาวมาเลย์
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ลืมไปไม่ได้เมื่อนึกถึงสิงคโปร์เพราะเป็นประเทศที่แยกตัวออกมาจากประเทศมาเลเซีย ความเป็นสิงคโปร์จึงขาดความเป็นมาเลย์ไม่ได้เลย
ทันทีที่เดินเข้ามาใน Malay Garden แห่งนี้จะสะดุดตากับ Kampung House บ้านแบบมาเลย์ สร้างจากวัสดุจากธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปในแทบนี้ เช่น หลังคาที่มุงด้วยใบจากและใบสาคู และใช้ลำต้นจากต้นหลาวชะโอนในการทำเป็นผนักและพื้นบ้าน นับมาเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Gardens By The Bay
ต้นปลาไหลเผือกใหญ่
Malay Garden มีพืชพันธ์ุมากมายไม่แพ้สวนจากโซนอื่น ๆ ต้นปลาไหลเผือกใหญ่ ถึงจะมีชื่อว่าปลาไหล แต่นี้ก็เป็นชื่อของต้นไม้ที่พบได้ทั่วไปตามครัวเรือนในแถบประเทศมาเลเซียและประเทศอินโดนีเซีย
ต้นปลาไหลเผือกใหญ่มีสรรพคุณมากมายในเกือบทุกส่วนของลำต้น ในวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวมาเลย์แถบนี้ใช้เปลือกไม้และรากของมันในการป้องกันโรงมาลาเรีย โรคเบาหวาน
ต้นมะเฟือง
Star fruit หรือ มะเฟือง ผลไม้ที่มีต้นกำเนิดในประเทศมาเลเซีย เดิมทีคนในแทบนี้กินผลมะเฟืองเพราะเชื่อว่าสามารถป้องกันโรงเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้
โซน Colonial Garden
มรกดยุคอาณานิคม
ประเทศสิงคโปร์ตั้งอยู่บนเส้นทางค้าเครื่องเทศ ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางการค้าเครื่องเทศในแถบนี้ไปด้วย ความโดดเด่นของ Colonial Garden แห่งนี้จึงเป็นการฉายภาพย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่กลิ่นเครื่องหอมต่าง ๆ ยังคงอบอวลอยู่ในเกาะเล็ก ๆ ที่ทรงสเน่ห์แห่งนี้ผ่านพืชพันธ์ุต่าง ๆ
พืชต่างแดน มรดกก้อนโตยุคอาณานิคม
ยุคอาณานิคมที่กินเวลาหลายร้อยปีพื้นที่แทบนี้ นอกจากจะทิ้งร่องรอยทางวัฒนธรรมไว้แล้ว ยังมีร่องรอยทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางพฤกษศาสตร์ไว้อีกมากมายและล้วนเป็นพืชเศรษฐกิจ
ต้นยาง ถิ่นกำเนิดในประเทศบลาซิลในปัจจุบัน ถูกนำเข้ามาในยุคอาณานิยมโดยอังกฤษ ก่อนจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกกันอย่างกว้างขวางในสิงคโปร์และประเทศใกล้เคียง ต้นโกโก้ ในวัฒนธรรมของชาวมายันและชาวแอชเท็ก โกโก้ถือเป็นเครื่องดื่มของทวยเทพ ถูกนำเข้ามาจากอเมริกากลางในช่วงเวลานี้เช่นกัน ต้นปาล์มน้ำมัน นำเข้ามาโดยชาวอังกฤษจากแอฟริกาตะวันตก ถูกนำเข้ามาเป็นพืชเศรษฐกิจแทนต้นยางในช่วงที่มีความต้องการน้ำมันสูง
Flower dome
ไฮไลท์ที่สี่ สวยสะพรั่ง คงเป็นคำที่เหมาะกับ Flower dome มากที่สุดแล้ว เพราะในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นที่ที่เหล่าดอกไม้ไม่เคยหลุดบาน และคงเป็นที่ที่มีสีสันเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายเก็บความงานผ่านเลนส์ไม่แพ้สวนอื่น ๆ ใน Gardens By The Bay เลย ใครเดินทางมาถึงสวนพฤกษศาสตร์ในโดมนี้คงได้ภาพสวัสดีวันจันทร์กันไปถึงอีกนานเลย
สวนในโรงเรือนกระจกที่ใหญที่สุดในโลก!
Flower dome ใน Gardens By The Bay มีเนื้อที่ขนาดเท่าสระน้ำโอลิมปิกถึง 75 สระ และสามารถจุนักท่องเที่ยวพร้อมกันได้ถึง 1,000 คน ใหญ่มากจนได้รับการบันทึกจาก the Guinness World Record ว่าเป็นโรงเรือนกระจกที่ใหญที่สุดในโลก!
เวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวันเวลา 09:00 - 21:00 น.
สวนหลายหลายจากทั่วทุกมุมโลก
Flower dome แห่งนี้ใหญ่พอที่จะมีสวนพฤกษศาสตร์ย่อย ๆ ที่มาจากทั่วทุกมุมโลกเป็นของตัวเองไม่ต่างจากโซนอื่น ๆ เลย เช่น Baobabs, Succulent Garden, Australian Garden, South Africa Garden, South American Garden, Californian Garden, Mediterranean Gardens, Olive Grove และสวนดอกไม้ตามฤดูกาล แค่อ่านชื่อก็ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว
Baobabs
ต้นเบาบับ ได้รับสมยานามว่าเป็นต้นไม้มหัศจรรย์ สามารถดำรงอยู่ในพื้นที่ที่มีความดันดารแห้งแล้งได้ ลำต้นของต้นเบาบับมีลำต้นขนาดใหญ่ที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ พบมาในแถบทุ่งหญ้าสะวันนา ทวีปแอฟริกา ต้นเบาบับยังเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดใน Gardens By The Bay แห่งนี้ด้วย
South African Garden
เดินทางไปต่อกันที่ South African Garden ที่นำเสนอทวีปแอฟริกาใต้ในที่เราคงไม่ค่อยได้เห็นผ่านสารคดีสัตว์โลก เพราะที่นี่คือสวนพฤกษศาสตร์ที่รวบรวมและมีการแสดงดอกไม้สีสันมากมายไว้ให้ทุกคนได้เปิดประสบการณ์ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่หาที่ไหนไม่ได้ในโลกอีกแล้ว ดอกไม้ พืชพรรณต่าง ๆ ในทวีปแอฟริกาใต้ถูกนำมาแสดงไว้ที่นี่ เผยภาพอีกมุมหนึ่งของความอุมดมสมบูรณ์ของทวีปที่หลายคนอยากไปเยือนให้ได้ ตื่นตาตื่นใจกันพอหอมปากหอมขอกันแล้วสำหรับสวนพฤกษศาสตร์ดอกไม้ในเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เดินทางไปต่อกันเลยดีกว่า
Cloud Forest
ไฮไลท์ห้า เดินทางมาถึงไฮไลท์สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ห้ามพลาดกับหนึ่งในน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก! มีให้ชมอยู่ในสวนเสมือนลอยฟ้าแห่งนี้แล้ว พืชพรรณนานาชนิดที่ขึ้นโอบล้อมน้ำตกในร่มแห่งนี้จะทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้รู้สึกถึงความเย็นสบายและความยิ่งใหญของธรรมชาติที่ถูกยกมาไว้ในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้เป็นที่เรียบร้อย
สัมผัสใกล้ชิด ป่าเทียมเมฆ
แต่ถ้าใครคิดว่าจะได้มองน้ำตกเขียวชอุ่มแห่งนี้ได้ไม่เต็มตาละก็ ลองขึ้นไปเดินบนทางเดินลอยฟ้าที่โอบล้อมน้ำตกป่าเทียมเมฆแห่งนี้ดูก่อน คงจะเหมือนกับได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพจำลองที่สวยงามของธรรมชาติสมกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความตระการตา คุ้มค่ากับการมาเยือนจริง ๆ
เวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวันเวลา 09:00 - 21:00 น.
ค่าเข้าชม
สำหรับค่าเข้าชม Gardens By The Bay จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละโซน สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของ Gardens By The Bay
การเดินทาง
สามารถเดินทางมายัง Gardens by the Bay ได้หลายวิธี ทั้งรถไฟใต้ดินสาย Circle Line ไปที่ ฺBay Front จากนั้นเดินข้ามไปที่ Marina Bay Sands เพื่อเดินไปยังสะพานลอยที่จะเจอจุดซื้อบัตรเข้าชมอาณาจักร Gardens by the Bay ได้เลย หากใครขับรถมาก็สามารถนำไปจอดได้หลายจุดรอบสวนและเสียค่าที่จอดแตกต่างกันไป