นักท่องเที่ยวคนไหนที่ตั้งตารอเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงก็เตรียมเฮได้เลย! เพราะฮ่องกงเปิดประเทศแล้วตอนนี้ แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 บางมาตรการก็ยังคงถูกบังคับใช้ มีบางมาตรการถูกยกเลิก และด้วยเหตุผลเหล่านี้ การเดินทางเข้าฮ่องกงจึงจะต้องเตรียมเอกสารอยู่ประมาณนึงเลย
วันนี้ Klook เลยมาลิสต์ว่าก่อนเดินทางเข้าฮ่องกงจากประเทศไทย จะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? มีมาตรการ ณ ปัจจุบันยังไง? ผู้เดินทางจะได้เข้าฮ่องกงแบบผ่านฉลุย และปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างครบถ้วน
มาตรการในการเดินทางเข้าฮ่องกง
การแพร่ระบาดของโควิด 19 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ฮ่องกงเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เดินทางเข้ามาได้ แต่อยู่ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการ ดังนี้
ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 19 ครบถ้วน
- ผู้เดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ครบถ้วนแล้ว สามารถเดินทางเข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัว
- ผู้เดินทางเข้าฮ่องกงต้องเตรียมหลักฐานการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่ได้รับการรับรอง โดยสามารถดูขั้นตอนการขอได้จากหมอพร้อม
- ผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับวัคซีน สามารถเดินทางเข้าฮ่องกงได้ (กฎนี้ใช้ไม่ได้กับผู้ที่เดินทางมาจากจีน มาเก๊า และไต้หวัน)
- ทางฮ่องกงขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แบบ RT PCR
- นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังฮ่องกง ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีการ RT PCR และมีผลตรวจว่าเป็นลบ ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- นักท่องเที่ยวตรวจหาเชื้อด้วย Rapid Antigen Test (RAT) ภายใน 24 ชั่วโมง โดยมีผลตรวจว่าเป็นลบ ก่อนเดินทางเข้าฮ่องกง
มาตรการที่ประกาศยกเลิกล่าสุด:
- ไม่ต้องตรวจหาเชื้อด้วย RT PCR หรือ Rapid Antigen Test (RAT) ในวันที่เดินทางเข้าฮ่องกง
- ไม่ต้องแยกกักตัวในสถานที่ของทางการฮ่องกง
- ไม่ต้องลงทะเบียน Health Declaration Form
แนวทางปฏิบัติหลังเดินทางเข้าฮ่องกง
- ผู้เดินทางสามารถเดินทางไปยังถิ่นพำนักในฮ่องกงได้ทันที
- ทางการฮ่องกงแนะนำให้ผู้เดินทางตรวจหาเชื้อด้วย Rapid Antigen Test (RAT) ด้วยตนเองเป็นเวลา 5 วัน (นับวันที่เดินทางถึงฮ่องกงเป็นวันที่ 0) และควรเก็บภาพถ่ายผลตรวจหาเชื้อไว้เป็นเวลา 90 วัน
- ผู้เดินทางไม่ต้องแสดง QR Code หรือหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเดินทางเข้าสถานที่ต่าง ๆ อีกต่อไป
ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวฮ่องกงไหม?
นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศทั่วโลกสามารถเดินทางเข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และมีช่วงเวลาที่พำนักในฮ่องกงได้แตกต่างกันไป โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยจะมีรายละเอียดเรื่องวีซ่า ขั้นตอนการขอวีซ่าในกรณีที่พำนักอยู่นาน รวมถึงเอกสารอื่น ๆ ที่จะต้องเตรียม ดังนี้
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถพำนักในฮ่องกงได้ไม่เกิน 30 วัน
นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้าฮ่องกง สามารถพำนักได้สูงสุด 30 วัน โดยไม่ต้องของวีซ่า
พำนักในฮ่องกงเกิน 30 วัน ต้องขอวีซ่า
- สำหรับการเดินทางเข้าฮ่องกงและพำนักนานกว่า 30 วัน จำเป็นที่จะต้องของวีซ่าจากสถานทูตจีนหรือสถานกงศุลจีน ภายใน 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง
- เอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าคือ แบบฟอร์มวีซ่าออนไลน์ที่กรอกข้อมูลครบ, รูปถ่ายสี พื้นหลังสีขาว ขนาด 2x2, หลักฐานการเงินย้อนหลังอย่างน้อย 3 เดือน, หลักฐานการจ้างงาน, หลักฐานการจองที่พัก, ใบจองตั๋วเครื่องบินและกำหนดการเดินทาง เป็นต้น
- ประเทศไทยมีสถานทูตจีนและสถานกงศุลจีน 4 แห่ง คือสถานทูตจีน กรุงเทพมหานคร, สถานกงสุลจีน จังหวัดเชียงใหม่, สถานกงสุลจีน จังหวัดสงขลา และสถานกงสุลจีน จังหวัดขอนแก่น
หนังสือเดินทาง ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
หากหนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เดินทางมีอายุไม่ถึง 6 เดือน เราแนะนำให้คุณทำหนังสือเดินทางใหม่ ก่อนเดินทางเข้าฮ่องกงจากไทย
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเดินทางท่องเที่ยวฮ่องกง
ได้วิธีการเตรียมเอกสารและขั้นตอนการเดินทางเข้าฮ่องกงกันไปแล้ว Klook เลยหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พร้อมดีลเด็ดโดนใจ ที่จะทำให้การท่องเที่ยวฮ่องกงของคุณเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและคุ้มเงินสุด ๆ
การเดินทางภายในฮ่องกง
รถไฟฟ้า MTR
แอร์พอร์ต เอ็กซ์เพรส เป็นรถไฟที่เร็วที่สุดที่วิ่งระหว่างเกาะฮ่องกงกับสนามบิน ใช้เวลาจากสถานี Airport มาที่สถานี Hong Kong แค่ 24 นาที และมีรถไฟบริการทุก ๆ 10 นาที ยิ่งซื้อบัตรโดยสารล่วงหน้าที่ Klook ไว้ก่อน ตอนเดินทางจริงก็ไม่ต้องไปรอต่อคิวซื้อเลย
รถไฟใต้ดิน MTR เป็นขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดของฮ่องกง โดยรถไฟ MTR จะแบ่งเป็นสายสีต่าง ๆ 12 สายและเกือบ 100 สถานี สามารถใช้โดยสารเพื่อเดินทางเที่ยวสถานที่สุดฮิตได้หลายแห่ง
รถบัสและมินิบัส
รถบัสและมินิบัสของฮ่องกงมีจำนวนมากและค่อนข้างครอบคลุมทั่วเกาะ ซึ่งจะแบ่งเป็นรถบัสปรับอากาศ 2 ชั้นและรถมินิบัสไม่เกิน 16 ที่นั่ง การเดินทางด้วยรถ 2 ชนิดนี้จัดว่าดีมาก เพราะใช้งานง่าย ราคาก็ไม่แรง
รถราง
รถชนิดนี้ เป็นขนส่งชนิดแรกที่ให้บริการในฮ่องกง ลักษณะคล้ายรถบัส 2 ชั้น รองรับได้ 115 คน (ทั้งยืนและนั่ง) ปัจจุบันมีเส้นทางเดินรถ 6 สาย ระหว่างเมือง Kennedy Town และ Shau Kei Wan
เรือเฟอร์รี่
ด้วยความที่ฮ่องกงมีลักษณะเป็นเกาะน้อยใหญ่มากมาย จึงมีเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ระหว่างเกาะฮ่องกง เกาลูน และหมู่เกาะอื่น ๆ เยอะมาก! แถมในปัจจุบันยังใช้เดินทางไปมาเก๊าได้ด้วย ใครที่กำลังจะไปฮ่องกงและต้องการพุ่งตัวไปมาเก๊า การจองบัตรโดยสารเรือเฟอร์รี่ระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้คุณเดินทางได้ไวกว่าใคร 1 สเต็ป!
แท็กซี่
รถแท็กซี่ที่นี่จะแบ่งสีตามพื้นที่ให้บริการ แต่สามารถเรียกข้ามพื้นที่ได้อย่าง สีแดงจะวิ่งในตัวเมืองฮ่องกงและเกาลูนทั้งหมด สีเขียวจะวิ่งในเขต New Terirories และสีฟ้าจะวิ่งในเกาะลันเตา
แต่ความล้ำยังไม่หมด! เพราะที่ฮ่องกงมีบัตรออคโตพุส ที่สามารถใช้เดินทางกับรถไฟ MTR รถบัส เรือเฟอร์รี่ รถทัวร์ และรถรางรอบฮ่องกงได้ในบัตรเดียว! วิธีใช้ก็ง๊ายง่าย แค่แตะบัตรที่เครื่องสแกนเพื่อจ่ายเงิน แล้วยอดเงินในบัตรก็จะถูกตัดอัตโนมัติ! ซึ่งบัตรนี้สามารถซื้อผ่าน Klook ได้เช่นกัน ในบัตรจะมีเงิน 50 - 100 ดอลลาร์ไต้หวันให้ด้วย (รับบัตรที่สนามบินนานาชาติฮ่องกง)
ที่พักในฮ่องกง
โรงแรมรีกัล ริเวอร์ไซด์
ใครมองหาโรงแรมมีระดับ วิวสวย ใกล้ชิดแม่น้ำ ต้องมาพักที่โรงแรมรีกัล ริเวอร์ไซด์ ตั้งอยู่ในถนน Tai Chung Kiu ที่นี่เรียกได้ว่ามีห้องไว้รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มจริง ๆ ทั้งห้องคลับ ห้องสวีท ห้องดีลักซ์ ห้องพรีเมียร์ ห้องซูพีเรีย ห้องเชื่อมต่อสำหรับครอบครัว และอีกหลากสไตล์ แถมอยู่ใกล้สวนสนุก Snoopy World วัดพระพุทธรูปหมื่นองค์ และหมู่บ้าน Tsang Tai Uk อีกด้วย
โรงแรมฮ่องกง โอเชียน พาร์ค มาริออท
ขึ้นชื่อว่ามาริออทคงไม่ต้องพูดเยอะว่ามีระดับแค่ไหน ที่นี่เป็นอีกโรงแรมที่น่าสนใจและเหมาะแก่การไปพักเมื่อเดินทางเข้าฮ่องกง เพราะมีห้องที่รองรับนักท่องเที่ยวได้หลากหลายแบบเช่นกัน ทั้งห้องดีลักซ์ ห้องพรีเมียร์ ห้องคลับพรีเมียร์แบบมี M Club lounge access และอีกมากมาย แถมดีไซน์แต่ละห้องก็สวย เรียบหรู โทนสีสบายตา เหมาะแก่การพักผ่อนที่สุด
ฮ่องกงเปิดประเทศและยกเลิกมาตรการบางอย่างเพื่อเชิญชวนให้ไปเที่ยวขนาดนี้ คนที่ตั้งตารอไปเช็กอินที่ฮ่องกงก็อย่ารอช้า เตรียมเอกสารกันให้พร้อม จองตั๋วเครื่องบินให้ไว แล้วอย่าลืมกดจองดีลดี ๆ จาก Klook ที่จะทำให้ทริปนี้ปังขึ้นกันด้วย!