คิโนซากิออนเซ็น | สถานที่พักผ่อนสุดโรแมนติกในญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงความโรมนติก ทุกคนคงนึกถึงปารีสและโรม – คิโนซากิออนเซ็นกลับเป็นจุดหมายปลายทางโรแมนติกแห่งใหม่ที่คุณจะชื่นชอบไม่แพ้กัน หากมีคนพิเศษที่คุณต้องการสร้างความประทับใจ สถานที่แห่งนี้จะเป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่คุณสามารถสร้างได้ในญี่ปุ่น

ที่นี่อาจดูเหมือนเป็นความฝันของเหล่าอินสตาแกรมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติของคิโนซากิออนเซ็นที่สร้างความประทับใจให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมาเป็นเวลากว่า 1,300 ปี และโชคดีที่การคมนาคมได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่คุณจะเดินทางไปยังเมืองทางตอนเหนือของจังหวัดเฮียวโงะบนชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น

คิโนซากิออนเซ็น มีสถานีรถไฟเป็นของตัวเองบนสาย JR ซันอิน ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ Japan Rail Pass เพื่อเดินทางไปที่นั่นได้ คุณสามารถดูข้อมูล JR Pass ของ Klook เพื่อดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม หากคุณเดินทางมาจากโอซาก้า สามารถขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ JR และคุณจะไปถึงสวรรค์แห่งสปาภายในเวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง การเดินทางนี้ครอบคลุมด้วยบัตร JR Pass สำหรับภูมิภาคคันไซ (Kansai JR Pass) ซึ่งช่วยให้คุณเดินทางได้ไม่จำกัดในภูมิภาคคันไซ รวมถึงสถานที่ต่างๆ เช่น โกเบ ฮิเมจิ และนารา

หากคุณสนใจเดินทางด้วยรถประจำทาง รถประจำทาง Zentan จะวิ่งระหว่างโอซาก้าและคิโนซากิออนเซ็นหลายครั้งต่อวัน โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงต่อเที่ยว การนั่งเครื่องบินก็เป็นทางเลือกเช่นกัน คุณสามารถใช้เวลาบิน 40 นาที จากสนามบินอิตามิของโอซาก้าไปยังสนามบินโคโนโทริ ทาจิมะ จากนั้นนั่งรถบัสอีก 45 นาทีไปยังคิโนซากิออนเซ็น

เคล็ดลับจาก Klook : Kansai JR Pass ยังพาคุณขึ้นรถไฟชินคันเซ็น Hello Kitty (รถไฟหัวกระสุน) อีกด้วย 

การเดินทางระหว่างเกียวโตและคิโนซากิออนเซ็นยังเป็นเรื่องง่ายมากด้วย รถไฟด่วนพิเศษ JR จะพาคุณไปถึงที่นั่นภายในเวลาประมาณ 2.5 ชั่วโมง การเดินทางนี้ยังครอบคลุมอยู่ในบัตร JR Pass สำหรับภูมิภาคคันไซ (Kansai JR Pass) ดังนั้น คุณจึงสามารถเพิ่มคิโนซากิออนเซ็นลงในแผนการเดินทางของคุณได้อย่างง่ายดาย

ไม่มีเส้นทางรถประจำทางตรงระหว่างเกียวโตและคิโนซากิออนเซ็น ดังนั้นหากคุณต้องการเดินทางด้วยรสบัส คุณจะต้องนั่งรถบัสไปโอซาก้าก่อน สำหรับเที่ยวบิน คุณสามารถนั่งรถบัสจากเกียวโตไปยังสนามบินอิตามิซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อนั่งเครื่องบินไปยังสนามบินโคโนโทริ ทาจิมะ ซึ่งมีเที่ยวบินวันละ 2 เที่ยว โดยใช้เวลาบินประมาณ 40 นาที จากนั้นนั่งรถบัสอีก 45 นาทีไปยังคิโนซากิออนเซ็น

ขณะที่คุณอยู่ในเกียวโต คุณอาจต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งคุณสามารถจองบัตรเข้าชมสถานที่แบบไม่ต้องต่อแถว เพื่อเข้าชมสถานที่มรดกโลกขององค์การยูเนสโก เช่น ปราสาทนิโจและพระราชวังนิโนมารุ 

คงจะมีความโรแมนติกมากมายในเมืองนี้ โดยสถานที่ทั้งหมดตั้งอยู่บนหุบเขาบนภูเขาอันเขียวชอุ่ม ซึ่งมีอาคารไม้เป็นที่ตั้งของโรงอาบน้ำพุร้อนธรรมชาติริมแม่น้ำที่เรียงรายไปด้วยต้นวิลโลว์ 

สำหรับสถานพักที่จะค้างคืน ขอแนะนำให้คุณไปที่เรียวกังซึ่งเป็นโรงแรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เดิมทีสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของซามูไร ปัจจุบันเรียวกังได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับแบบญี่ปุ่นไปโดยปริยาย เนื่องจากตั้งอยู่เหนือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ โรงแรมขนาดเล็กเหล่านี้จึงสามารถสูบน้ำแร่ร้อนเข้าอ่างไม้ในห้องของคุณโดยตรง คุณจะได้รับการต้อนรับจากเจ้าบ้านด้วยชาและของว่างเบาๆ หลังจากแช่ตัวในออนเซ็นเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับอาหารเย็นแบบโฮมเมดแสนอร่อยเสิร์ฟถึงห้องพักของคุณอีกด้วย

“Onishiya Suishoen” เรียวกังสมัยใหม่ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่และห้องพักที่สะดวกสบาย ซึ่งทั้งหมดมาพร้อมกับห้องน้ำในตัว หากต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบดั้งเดิมแนะนำให้เยี่ยมชม Nishimuraya Honkan ที่นี่มีสวนที่สวยงามและปูฤดูหนาวที่ยอดเยี่ยมตามฤดูกาล ซึ่งสามารถจองที่พักโดยตรงหรือผ่านเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้

เคล็ดลับจาก Klook : แนะนำให้ตรวจสอบล่วงหน้าเพื่อดูว่าเรียวกังที่คุณต้องการพัก สามารถรองรับความต้องการด้านอาหารได้หรือไม่ เนื่องจากสถานที่หลายแห่งมีเมนูจำกัด

คิโนซากิออนเซ็น มีโรงอาบน้ำสาธารณะทั้งหมดเจ็ดแห่ง แต่ละแห่งได้รับการออกแบบเพื่อจุดประสงค์ที่เฉพาะแตกต่างกันและมีประวัติศาสตร์ที่เป็นตำนานของตัวเอง ตัวอย่างเช่น Goshono-yu onsen ได้รับแรงบันดาลใจจากพระราชวังอิมพีเรียลเกียวโต คุณจะรู้สึกถึงความหรูหราเมื่อได้แช่น้ำผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำและห้องซาวน่า พร้อมทิวทัศน์ของน้ำตก เท่านั้นยังไม่พอ ออนเซ็นแห่งนี้ว่ากันว่าจะทำให้คุณโชคดีในความรักและปกป้องคุณจากภัยอันตราย

ในเรื่องความรัก การไปเยี่ยมชมโรงอาบน้ำที่เก่าแก่ที่สุดของคิโนซากิออนเซ็นที่เรียกว่า Kouno-yu เชื่อกันว่าจะทำให้คุณมีชีวิตแต่งงานที่ยืนยาวและมีความสุข ช่วงเวลาพักผ่อนที่มีคุณภาพในสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เรียงรายไปด้วยหินและล้อมรอบด้วยเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จสำหรับความสุขในการพักผ่อน! หากคุณต้องการเพิ่มระดับความโรแมนติกให้มากขึ้น แนะนำให้เยี่ยมชมในฤดูหนาว เพราะคุณสามารถเดินเล่นไปตามถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่นุ่ม ก่อนที่จะไปแช่ตัวในสระน้ำอุ่นธรรมชาติ

หากคุณกำลังมองหาการสำรวจคิโนซากิออนเซ็นเพิ่มเติมอยู่ ลองดูบัตรผ่านสำหรับ 3 วันที่คิโนซากิ ซึ่งบัตรผ่านลดราคานี้ จะช่วยให้คุณเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในเมืองได้! รวมไปถึงการนั่งกระเช้าลอยฟ้าคิโนซากิไปกลับ ประสบการณ์ทำฟางที่ร้านคิยะมาจิโคจิ ทางเข้าวัดออนเซ็น และพิพิธภัณฑ์สมบัติออนเซ็น นอกจากนี้คุณยังจะได้รับส่วนลดพิเศษสำหรับร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก 10 แห่งในคิโนซากิออนเซ็น

หากคุณได้พักค้างคืนที่เรียวกัง คุณสามารถใช้ออนเซ็นสาธารณะทั้งเจ็ดแห่งของคิโนซากิอนเซ็นได้ฟรี เมืองนี้มีขนาดเล็กและโรงอาบน้ำทั้งหมดอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้ ซึ่งหมายความว่าที่นี่เหมาะสำหรับกิจกรรมยอดนิยมในท้องถิ่น เช่น การแช่โซโตยุเมกุริ (การเดินเล่นในอ่างอาบน้ำ)

คิโนซากิออนเซ็น คุณสามารถใช้เวลาให้กับประสบการณ์สปาได้อย่างเต็มรูปแบบและสามารถทำทุกอย่างได้เกือบทุกอย่าง ขณะสวมชุดยูกาตะ ซึ่งเป็นชุดคล้ายกิโมโนแบบดั้งเดิมที่จะทำหน้าที่เป็นชุดลำลองของคุณ คุณสามารถเก็บเสื้อคลุมพิมพ์ลายสดใสไว้ได้ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นระหว่างออนเซ็น ไปทานอาหารเย็นกับปูหิมะและเส้นบักวีต หรือซื้อของที่ระลึก พนักงานที่เรียวกังจะสาธิตวิธีการใส่ชุดยูกาตะให้คุณดู เพื่อให้คุณสามารถสวมใส่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

หากคุณไม่ได้พักค้างคืนที่เรียวกัง คุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์สปาได้โดยการซื้อตั๋ว Yumepa ในราคาประมาณ 1,300 เยน เพื่อใช้สิทธิ์เข้าใช้ห้องอาบน้ำสาธารณะได้ไม่จำกัดในหนึ่งวัน หากต้องการเข้าใช้บริการออนเซ็นเพียงแห่งเดียว คุณสามารถซื้อตั๋วสำหรับออนเซ็นเดี่ยวได้ในราคาประมาณ 700 เยน 

ตั้งแต่ถนนแบบดั้งเดิมของเกียวโตไปจนถึงนาราที่เต็มไปด้วยกวาง ภูมิภาคของญี่ปุ่นแห่งนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ หากต้องการสร้างแผนการเดินทางคันไซในรูปแบบของคุณ สามารถเช็คกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ Klook!