เห็นโอซาก้าในมุมที่กว้างขึ้น แต่จ่ายน้อยลงด้วยบัตร Klook Pass Osaka ที่ทั้งสนุกและสะดวกสบายกว่า
เราต่างรู้ดีว่าทริปญี่ปุ่นคงจะจบลงอย่างไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้เดินทางไปเยือนใจกลางของประเทศอย่าง 'กรุงโตเกียว' หรือแม้แต่เมืองแหล่งชอปปิ้งอย่าง 'เกียวโต' แต่นอกจาก 2 เมืองนี้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นที่ควรค่าแก่การสำรวจ นั่นคือ 'โอซาก้า'
เมืองโอซาก้าได้ชื่อว่าเป็นครัวของชาติเนื่องจากมีร้านอาหารริมทางอันน่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นในระหว่างทริป คุณจะได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นหลากหลายประเภท เช่น ทาโกะยากิ (ขนมครกไส้ปลาหมึกยักษ์), โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น), และคุชิคัตสึ (อาหารทอดเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น) และหากคุณอยากจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ไม่ว่าจะนั่งชิลในช่วงหัวค่ำ หรือปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงในยามค่ำคืน โดทงโบริคือคำตอบ
นอกเหนือจากอาหารรสเลิศแล้ว เมืองนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย เช่น สวนสนุกเลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ โอซาก้า (LEGOLAND Discovery Center Osaka), จุดชมวิวฮารุกัส 300 (HARUKAS 300 Observator) ตึกอูเมดะ สกาย (Umeda Sky Building) หรือแม้แต่ สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ (Universal Studios) หากคุณตั้งใจจะไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้หรือที่อื่น ๆ ในราคาสบาย ๆ โดยไม่ต้องถอนเงินจนหมดบัญชีแล้วละก็ แนะนำให้อ่านเคล็ดลับจากเราด้านล่าง
ก่อนจะจองตั๋วเครื่องบิน อย่าลืมอ่านข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแนวทางที่มีประโยชน์อย่างมาก เพื่อความสะดวกและความเป็นส่วนตัวของคุณระหว่างท่องเที่ยว
บัตร Klook Pass Osaka คืออะไร
บัตร Klook Pass Osaka ช่วยให้คุณไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งของโอซาก้าได้โดยจ่ายในราคาเดียว ลืมเรื่องการจ่ายเงินในราคาปกติและการต่อคิวซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อซื้อบัตรผ่านเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งไปได้เลย เพราะแค่ถือบัตร Klook Pass Osaka ใบนี้ใบเดียว คุณก็จะประหยัดได้มากถึง 43% แต่ที่สำคัญคือ คุณจะเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ได้แบบไม่ยุ่งยากและสะดวกสบายสุด ๆ ตลอดทริป
บัตร Klook Pass Osaka ใช้งานอย่างไร
1. เลือกซื้อบัตรที่เหมาะกับคุณ (เลือกบัตรแบบ 2, 3 หรือ 4 กิจกรรม)
2. เปิดใช้งานบัตรและจองแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชม (เข้าไปที่ "การจอง" > "บัญชีของฉัน" และเลือก "จอง")
3. ใช้บัตรของคุณเข้าชมกิจกรรมที่เลือกไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
เคล็ดลับจาก Klook: อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดในแพ็กเกจของบัตรที่คุณซื้อว่ารวมอะไรไว้บ้าง
บัตร Klook Pass Osaka ของคุณ ใช้เดินทางไป/ชมสถานที่ท่องเที่ยวไหนได้บ้าง
ตอนนี้คุณพอจะรู้แล้วว่าบัตรโดยสาร Klook Pass Osaka คืออะไรและใช้งานอย่างไร ต่อไปมาดูกันดีกว่าว่าบัตรใบนี้จะพาคุณไปที่ไหนได้บ้างตลอดทริปในโอซาก้า
1. สวนสนุกเลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ โอซาก้า (LEGOLAND Discovery Center Osaka)
ก้าวเท้าเข้าสู่โลกแห่งเลโก้ที่สวนสนุกเลโก้แลนด์ ดิสคัฟเวอรี่ เซ็นเตอร์ โตเกียว ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของโอซาก้าที่ใคร ๆ ก็ต้องมาเยือน ทั้งครอบครัวสามารถสนุกไปกับการเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ เช่น Kingdom Quest ที่คุณจะได้กระโดดขึ้นรถม้าและออกผจญภัยไปช่วยเหลือเจ้าหญิง และ The Great LEGO Race ประสบการณ์เสมือนจริงที่จะพาคุณไปเข้าร่วมการแข่งขัน LEGO อันน่าตื่นเต้น โดยคุณจะแข่งขันกับเหล่า LEGO MINIFIGURES เช่น พ่อมด โจรสลัด และฟาโรห์ นอกจากนี้ยังมีโซนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น LEGO Racers: Build & Test ซึ่งเป็นเกมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะได้สร้างยานพาหนะจากเลโก้และดูว่าสิ่งที่สร้างขึ้นนั้นจะเคลื่อนที่ได้เร็วแค่ไหนในสนามทดสอบความเร็ว อีกทั้งยังมีโรงภาพยนตร์ 4 มิติ ให้คุณชมภาพยนตร์ The LEGO ได้ในรูปแบบ 4 มิติด้วย
2. ลิตเติ้ล แพลนเน็ต ลาลาพอร์ต อิซูมิ (Little Planet Lalaport Izumi)
แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับครอบครัวอีกหนึ่งแห่งที่คุณควรไปเยือนคือ ลิตเติ้ล แพลนเน็ต ลาลาพอร์ต อิซูมิ ซึ่งผสมผสานการเล่นและการเรียนรู้เข้าด้วยกันผ่านศิลปะสมัยใหม่ ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันหลากหลายละลานตา อย่าลืมแวะมาที่ Sand Party ซึ่งมอบประสบการณ์การเล่นทรายผ่านเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR), Paper Rikishi ซูโม่กระดาษดิจิทัลที่จะเปลี่ยนความแข็งแกร่งของนักซูโม่ตามโทนสีที่เลือกใช้ในชาร์ตพัฒนาการ นอกจากนี้ยังมี Number Splash ที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลขโดยการโต้ตอบกับตัวเลขผ่านทางจิตใจและร่างกายของตัวเอง
3. จุดชมวิวฮารุกัส 300 (Harukas 300 Observatory)
ชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของโอซาก้าจากมุมสูงที่จุดชมวิวฮารุกัส 300 ซึ่งเป็นดาดฟ้าชมวิวแบบ 3 ชั้น (ตั้งแต่ชั้น 58 ถึงชั้น 60) ที่มาพร้อมกับโถงกลางแจ้ง พื้นที่ชมวิวกระจก 360 องศา แถมยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการด้วย
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพของเมืองแล้ว เราแนะนำให้คุณแวะชั้น 58 เพื่อรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำอิ่มอร่อยที่ห้องอาหาร Sky Garden 300 (อย่าลืมลองสั่งอาหารคอร์สสำหรับ 2 ท่านที่มาพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อย 3 อย่าง ได้แก่ บรูเชตต้าทูน่ากับอะโวคาโด พินโชครีมชีสเสิร์ฟคู่กับแฮมสดและมะกอก และเบคอนยามาโตะ กับสลัดซีซาร์ไข่) สำหรับพาสต้า ที่นี่จะเสิร์ฟกุ้งแดงแสนอร่อยกับพาสต้าครีมต้นหอมคุโจ ส่วนอาหารจานหลัก ก็เตรียมท้องไว้อิ่มอร่อยกับสเต็กเนื้ออาวาจิและผักทอดได้เลย จากนั้นค่อยปิดท้ายมื้ออาหารแสนอร่อยด้วยเมนูขนมหวาน
เคล็ดลับจาก Klook: การชมทัศนียภาพของเมืองจากมุมสูงในช่วงกลางวันนั้นไม่เลวก็จริง แต่เราอยากแนะนำให้คุณไปชมบรรยากาศในช่วงค่ำแทน เพราะเป็นช่วงเวลาที่แสงไฟของเมืองจะสว่างไสวและท้องฟ้ายามค่ำคืนพร่างพราวไปด้วยแสงดาว
4. ชิงช้าสวรรค์เฮปไฟว์ (Hep Five Ferris Wheel)
ใครที่ชอบความตื่นเต้นจะต้องหลงรักแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้แน่นอน เพราะพอกระโดดขึ้นกระเช้าสีแดงของชิงช้าสวรรค์เฮปไฟว์ที่อูเมดะแล้ว กระเช้านี้จะพาคุณขึ้นไปสูงจากพื้นดินถึง 106 เมตร และหากคุณคลั่งไคล้การชมวิวเมือง การนั่งชิงช้าสวรรค์แห่งนี้ตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด คุณจะได้ชื่นชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเมืองโอซาก้า ลืมเรื่องความสูงไปเลย แล้วดื่มด่ำกับทัศนียภาพตรงหน้าให้เต็มที่
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณจะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าคนเดียว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าอยากได้รูปถ่ายที่ยอดเยี่ยมจากประสบการณ์ในครั้งนี้แล้วละก็ อย่าลืมชวนคนที่คุณรักไปกับคุณด้วย
5. โซลานิวะ ออนเซ็น (Solaniwa Onsen)
นี่คือสัญญาณว่า ในที่สุด คุณก็ได้มาเยือนออนเซ็น (น้ำพุร้อน) ในญี่ปุ่นเสียที หลังจากเดินเล่น ชมทัศนียภาพ และท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ แล้ว จะมีอะไรดีไปกว่าการใช้เวลาสักวันหนึ่งพักผ่อนสบาย ๆ และชาร์จพลังที่โซลานิวะ ออนเซ็นในโอซาก้า เบย์ ทาวเวอร์กันล่ะ เมื่อสวมชุดยูกาตะ (เสื้อคลุมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม) เสร็จแล้ว คุณจะเลือกผ่อนคลายกับบริการต่าง ๆ ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นการแช่เท้าที่สวนบนชั้นดาดฟ้า ขัดตัวให้ผิวนุ่มสะอาดใส แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติจากน้ำแร่ชั้นใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปราว ๆ 1,000 เมตร หรือจะลองอบซาวน่าบนพื้นหินก็ได้เช่นกัน รับรองว่ากิจกรรมเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายของคุณได้ชะงัด
นอกจากนี้ยังมีบ่อออนเซ็นหลายแบบให้เลือก ทั้งบ่อออนเซ็นบนระเบียงที่คุณจะมองเห็นทัศนียภาพสวยสะกดตาของสวนอันกว้างใหญ่ บ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวกับสวนขนาดย่อม และบ่ออาบน้ำกลางแจ้งหากคุณรู้สึกอยากแช่ตัวในน้ำจืด
6. ตึกอูเมดะ สกาย (Umeda Sky Building) และจุดชมวิวคูจูเทเอ็น (Kuchu Teien Observatory)
สิ่งหนึ่งที่ต้องทำสักครั้งหนึ่งในชีวิตคือการมาเยือนอาคารที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และสูงเป็นอันดับที่ 19 ของโอซาก้าอย่างตึกอูเมดะ สกาย อาคารแห่งนี้ได้รับความนิยมจากผู้คนมากมายเนื่องจากรูปทรงของอาคารมีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยประกอบด้วยอาคารสูง 40 ชั้น 2 หลังที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพานและบันไดเลื่อน ซึ่งพาดผ่านช่องวงกลมตรงกลางระหว่างตึกทั้งสอง เมื่อคุณเดินทางมาถึงจุดชมวิวคูจูเทเอ็น คุณจะเห็นทัศนียภาพของเมืองด้านล่างอย่างเต็มตา นอกจากนี้ คุณยังสามารถซื้อแพ็กเกจที่แถมมาพร้อมกับแม่กุญแจรูปหัวใจที่ให้คุณสลักชื่อได้ฟรีด้วย คุณอาจจะคล้องแม่กุญแจไว้ แล้วโยนลูกกุญแจทิ้งไปเพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าครั้งหนึ่งคุณเคยมาเยือนตึกอูเมดะ สกาย หรือจะนำแม่กุญแจกลับไปเป็นของที่ระลึกก็ได้เช่นกัน
เคล็ดลับจาก Klook: ภายนอกอาคารนั้นสวยงามมาก ดังนั้น อย่าลืมถ่ายรูปก่อนเดินเข้าไปด้วยนะ
หากคุณต้องการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียว นี่คือตารางแสดงราคาตั๋วแยกกันสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง:
สถานที่ท่องเที่ยว | ราคา |
---|---|
เริ่มต้นที่ 2,200 เยน (ประมาณ 562.72 บาท*) | |
เริ่มต้นที่ 700 เยน (ประมาณ 179.05 บาท*) | |
1,500 เยน (ประมาณ 383.67 บาท*) | |
เริ่มต้นที่ 1,980 เยน (ประมาณ 506.45 บาท*) | |
เริ่มต้นที่ 1,500 เยน (ประมาณ 383.67 บาท*) | |
600 เยน (ประมาณ 153.47 บาท*) |
แต่หากคุณต้องการออกไปสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดในโอซาก้า เราแนะนำให้คุณไปเที่ยวสถานที่หลาย ๆ แห่งจะดีกว่า และด้วยบัตร Klook Pass Osaka คุณจะจ่ายน้อยลง แต่เข้าชมแหล่งท่องเที่ยวได้ถึง 4 แห่งในราคาเดียว เริ่มต้นที่ 2,850 เยนเท่านั้น (ประมาณ 728.98 บาท*)
บัตร Klook Pass Osaka คุ้มไหม
คุ้มแน่นอน มาดูเหตุผลกันว่าทำไมถึงคุ้มค่า
1. แค่มีบัตร Klook Pass Osaka คุณก็จะเพลิดเพลินกับการเดินทางได้โดยไม่ต้องยุ่งยาก เพราะแทนที่คุณจะต้องมานั่งกังวลกับการถือตั๋วหลาย ๆ ใบสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง แค่เก็บตั๋วใบนี้เพียงใบเดียวให้ปลอดภัยก็พอ ข้อดีอีกอย่างคือ คุณไม่จำเป็นต้องต่อแถวซื้อตั๋วให้วุ่นวาย
2. บัตรใบนี้ช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น หากคุณยังวางแผนการเดินทางไม่ลงตัวเสียที แหล่งท่องเที่ยวในบัตร Klook Pass Osaka จะเป็นตัวช่วยให้คุณเริ่มต้นทริปโอซาก้าได้แบบสุดปัง
3. เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวได้ถึง 4 แห่งโดยไม่ต้องเอาเงินออมมาใช้ ค่าบัตรเข้าชมสถานที่อาจจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่บัตรใบนี้มาในราคาเดียว คุณจึงเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งได้ตามที่เลือก พร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 43%
4. ไม่ต้องรู้สึกกดดันระหว่างท่องเที่ยวในโอซาก้า บัตร Klook Pass Osaka ช่วยให้คุณเดินทางจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งได้อย่างสะดวกสบาย เพียงจดบันทึกเวลาเปิดปิดของสถานที่แต่ละแห่งไว้ก็พอ
ตอนนี้คุณมีข้อมูลเกี่ยวกับบัตร Klook Pass Osaka เรียบร้อยแล้ว รีบจองบัตรก่อนที่จะบินไปญี่ปุ่น แล้วเพลิดเพลินกับทริปโอซาก้าให้เต็มที่กัน และไม่ว่าคุณจะเลือกบัตรผ่านประเภทไหน จะเลือกแบบ 2, 3 หรือ 4 กิจกรรม มั่นใจได้เลยว่าทริปญี่ปุ่นของคุณจะเต็มไปด้วยความสุขและการผจญภัยอย่างแน่นอน เที่ยวให้สนุกนะ
*อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ดังนั้นราคาในสกุลเงินญี่ปุ่นหรืออื่น ๆ ใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการท่องเที่ยว จองกับ Klook จอยแน่นอน
พิเศษ! รับส่วนลด 5% สำหรับการจองผ่านแอปฯ ครั้งแรก
ใช้โค้ด 👉 <BETTERONAPP> ดาวน์โหลด Klook แล้วจองเลย
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักการท่องเที่ยว จองกับ Klook จอยแน่นอน
พิเศษ! รับส่วนลด 5% สำหรับการจองผ่านแอปฯ ครั้งแรก
ใช้โค้ด 👉 <BETTERONAPP>
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ดาวน์โหลด Klook แล้วจองเลย IOS | Android