ไปเกาหลีทั้งที พลาดไม่ได้กับ 10 เมนูดังที่แม้จะหาทานได้จากเมืองไทย แต่การที่จะนั่งทานแบบรสชาติดั้งเดิมในบรรยากาศท้องถิ่นจริงๆ คงได้ความรู้สึกที่คอมพลีทมากกว่าเป็นแน่ มีอะไรบ้างไปดูกัน
1.กิมจิ Kimchi
เมนูเครื่องเคียงสัญชาติเกาหลีที่ครองใจสายโคเรียหลายคน กิมจิ ทำมาจากผักกาดขาว และหัวไชเท้าที่นำไปดองเค็ม หมักด้วยเกลือ โคชูการู หรือเครื่องปรุงอื่นๆ เพื่อให้ได้หรือรสชาติที่ฉุน เผ็ด และเปรี้ยวตามที่ต้องการ หากใครคิดว่าสมัยนี้กิมจิหาทานได้ทั่วไป ต้องไปลองของแท้ถึงถิ่นว่าความเป็นดั้งเดิมนั้นจะถึงใจขนาดไหน แถมยังทานกับอะไรก็อร่อยอีกต่างหาก
2.ไก่ทอดเกาหลี Korean fried chicken
เป็นเมนูที่เกิดในช่วงสงครามเกาหลี แม้ต้นกำเนิดจะเริ่มจากทหารอเมริกันและหน้าตาดูไม่ได้ต่างจากที่อื่น แต่ความโดดเด่นนั้นอยู่ที่รสชาติที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งคลุกเคล้าด้วยซอสเผ็ดหวานตามสูตรของแต่ละร้าน บางที่ก็จะมีท้อปปิ้ง พร้อมเครื่องเคียงอื่นๆ ให้ และนิยมเป็นกับแกล้มเบียร์
3.ต็อกบกกิ Tokpokki
อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตที่ขนาดมีแบบกึ่งสำเร็จรูปวางขายในเมืองไทยเยอะมากคือ ต็อกบกกี ซึ่งเราเห็นกันบ่อยในซีรีย์เกาหลี ทั้งยังเป็นเจ้าแห่งสตรีทฟู๊ดอีกด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่าดั้งเดิมแล้วเป็นอาหารชาววัง เรียกว่า ต็อกบกกิในพระราชวัง ซึ่งทำมาจากแป้งเค้กข้าวนำไปผัดกับซอสโคชูจัง สำหรับสูตรดั้งเดิมจะผัดกับเห็ดหอม ผัก และซีอิ๊ว
4.รามยอน Ramyeon
“ไปกินรามยอนกันไหม” ประโยคชวนหิว และยังชวนสยิวจากซีรีย์ดังเรื่อง What's Wrong with Secretary Kim โดยรามยอนมีความหมายว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นเมนูที่ฮิตมาจากซีรีส์เกาหลีแทบทุกเรื่อง และตอนนี้ในประเทศไทยก็มีให้เลือกซื้อได้มากมาย แต่การไปกินถึงที่ก็คงจะให้บรรยากาศมากกว่าแน่ๆ
5.จาจังเมียน หรือ จาจังมยอน (Jajangmyeon)
เมนูที่ผสมกันระหว่างเส้นบะหมี่/สปาเก็ตตี้/อุด้ง มาคู่กับน้ำซอสสีดำ ปรุงด้วยซอสถั่วดำที่หมักได้ที่ ผัดกับเนื้อสัตว์เช่นหมู ไก่ เห็ด และกะหล่ำปลี แล้วเอาไปราดบนเส้นที่เตรียมไว้ โดยเมนูนี้มีรสชาติเค็ม และหวานเมื่อเจอกับความนุ่มของเส้นจึงนัวเข้ากันได้อย่างดี
6. คิมบับ Kimbap
อีกหนึ่งเมนูสตรีทฟู้ดที่มีการดัดแปลงมาจาก โนริมากิ หรือ ข้าวห่อสาหร่ายของญี่ปุ่น แต่ความแตกต่างกันก็คือการใช้เกลือและน้ำมันงา ปรุงกับข้าวที่หุงเรียบร้อยแล้วเพื่อให้เกิดความหอม ส่วนไส้ด้านในร้านส่วนใหญ่ใส่ความเกาหลีเข้าไป อย่างผักดอง กิมจิ เนื้อบุลโกกิ และปิดท้ายด้วยหัวไชเท้าดอง
7.บิบิมบับ (Bibimbab)
เมนูที่คนไทยคงชอบไม่ใช่น้อย เพราะคนไทยเป็นเมืองแห่งยำ พ่ามม !! บิบิมบับ คือ ข้าวยำเกาหลี มีชื่อดั้งเดิมในยุคโชซอนว่า ฮวาบัน เพราะว่าในสมัยนั้นมีการจัดวางหน้าตาของอาหารคล้ายคลึงกับดอกไม้ โดยส่วนใหญ่วัตถุดิบที่จะใส่ลงไปในเมนูนี้ก็จะเป็น ข้าว เนื้อ ผัก ซอสโคซูจัง และไข่
8.Shabu Shabu (ชาบูชาบู)
หม้อไฟสไตล์เกาหลี อีกหนึ่งเมนูที่คนไทยอย่างเราสามารถกินได้ทุกวัน โดยของเกาหลีจะใช้เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆ ปูอัด เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวหมู แล้วใส่สารพัดผักหลายชนิดลงไปในหม้อ เติมด้วยน้ำซุปร้อนๆ ต้มต่อจนเดือด จากนั้นนำอุด้งลงตามลงไป พอสุกก็ตักมาทานกับข้าวสวย กิมจิ และน้ำจิ้ม
9.ซุนดูบูจิเก (Sundubu jigae)
สำหรับญี่ปุ่นคือ ซุปมิโซะ แต่หากเป็นเกาหลีก็ต้อง ซุปเกาหลี มีให้เลือกหลากหลายแบบตามประเภทเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไป เช่น เต้าหู้ ไข่ปลา เนื้อปู กิมจิ หรือเนื้อหมู ปรุงรสด้วยโคชูจัง มิโซะหมัก เต้าเจี้ยวหรือกุ้งดองเค็ม เป็นอีกหนึ่งเครื่องเคียงของอาหารจานหลัก
10. ไก่ตุ๋นโสม
อาหารพื้นเมืองเกาหลีที่พลาดไม่ได้ แนะนำให้ไปทานที่ร้าน Tosokchon Samgyetang ซึ่งเป็นร้านอาหารเกาหลีเก่าแก่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Gyeongbokgung Station กรุงโซล ตัวน้ำซุปจะหอมกลิ่นโสมอ่อน ๆ เนื้อไก่จะนุ่มหวาน ข้างในตัวไก่จะยัดไส้ด้วยข้าวเกาหลี โสม พุทธา และธัญพืช ยิ่งได้ทานคู่กับกิมจิจะยิ่งอร่อย แถมยังมีเสิร์ฟไก่ดำอีกด้วยหากต้องการ
นอกจากจะไปตะลุยกินอาหารเกาหลีถึงที่แล้ว ทริปท่องเที่ยวก็คงไม่พลาด klook เสนอกิจกรรมท่องเที่ยวในราคาสุดคุ้มเมื่อไปถึงถิ่นเกาหลี มีที่ไหนบ้าง คลิ๊กเลย!! รับรองว่าคุ้มค่าด้วยส่วนลดสุดพิเศษ
และอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้การตระเวนกินของคุณในครั้งนี้สะดวกสบายยิ่งขึ้น แค่มีบัตร Discover Seoul Pass ก็ทำให้คุณเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ไปจนถึงบัตรโดยสารระบบโดยสารสาธารณะต่าง ๆ ได้ อีกทั้งบัตรนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น T-money ให้คุณสามารถเติมเงินในบัตร เพื่อให้เดินทางไปและกลับจากสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และสามารถถอนเงินคงเหลือในบัตรมาเป็นเงินสดเพื่อนำไว้ใช้จ่ายได้เช่นกัน
มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอคุณอยู่ในกรุงโซลทั้งพิพิธภัณฑ์ศิลปะลีอุมซัมซุง, พิพิธภัณฑ์โคเรียน่าคอสเมติก, พิพิธภัณฑ์กิมจิ และอีกสถานที่อื่น ๆ อีกเพียบ! หรือจะแวะไปยังสวนสนุกเอ็มบีซีเวิลด์, พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตา หรือแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็ได้ตามใจคุณ นี่เป็นวิธีการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 24, 48 หรือ 72 ชั่วโมง จองผ่าน Klook เลยตอนนี้ !!
จองที่พัก รถเช่า บัตรเข้าชม และอีกมากมาย
เที่ยวคุ้ม เที่ยวกับ klook เที่ยวสนุกทุกทริป ~ 🌴🧡