นิวยอร์กเป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลกและหอศิลป์ที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง อีกทั้งยังมีผลงานศิลปะและการจัดแสดงมากมาย ซึ่งมากเพียงพอที่จะให้เหล่าอาร์ติสท์ทั้งหลายมาชื่นชมอย่างจุใจเลยทีเดียว!
อย่างไรก็ตาม ด้วยการจัดแสดงนิทรรศการที่หลากหลายในนิวยอร์ก คุณอาจทำรายชื่อนิทรรศการบางอย่างตกหล่นจากลิสต์ที่เที่ยวของคุณก็เป็นได้ รวมทั้งคุณอาจตั้งคำถามว่า “ฉันควรไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือแกลเลอรี่ไหนดีนะ?” หรือแม้กระทั่ง “อาร์ตคอลเลกชันไหนนะที่จะคุ้มค่าที่สุดสำหรับเวลาของฉัน?”
หากคุณมีเวลาจำกัด ซึ่งเพียงพอสำหรับการเยี่ยมชมสถานที่แห่งเดียว เราขอแนะนำให้คุณไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) เป็นอย่างยิ่ง! ด้วยอาคารกว่า 6 ชั้นที่มีประติมากรรม ภาพถ่าย ภาพวาด และงานศิลปะประเภทอื่น ๆ กว่า 200,000 ชิ้น คุณจะได้พบกับงานศิลปะสักชิ้นที่คุณกำลังมองหาอยู่แน่นอน!
แต่ถ้าคุณยังไม่มีงานในใจ ลองดูข้อมูลด้านล่างนี้ได้นะ เราเตรียมงานศิลปะมาแนะนำคุณเพียบ
สิ่งที่คุณควรทราบก่อนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA)
คุณจะต้องจองบัตรเข้าชมแบบกำหนดเวลาก่อนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) เราขอแนะนำให้คุณทำการจองบัตรเข้าชมตั้งแต่ก่อนเดินทางถึงนิวยอร์ก เพื่อช่วยให้คุณสามารถเลือกเวลาเข้าชมตามที่คุณสะดวกและวางแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) แห่งนี้คือช่วงกลางวัน (ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์เปิดทำการ หรือหลังพักเที่ยงสัก 2-3 ชั่วโมง) ของวันธรรมดา เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนมากทำงานและเรียนหนังสือ
เมื่อเข้าไปแล้ว คุณสามารถอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ได้นานเท่าที่คุณต้องการ ใครที่อยากจะใช้เวลาดื่มด่ำกับงานศิลปะในนี้ทั้งวันก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะที่นี่มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการเช่นกัน
มาตรการการเข้าชมในช่วงโควิด-19
- ผู้เข้าชมที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไปต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเข้าสู่พิพิธภัณฑ์
- ผู้เข้าชมที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปจะต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการเข้าชมพิพิธภัณฑ์
สิ่งที่พลาดไม่ได้ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA)
งานศิลปะ: Vincent Van Gogh, Starry Night
สถานที่จัดแสดง: Floor 5, 502, The Alfred H. Barr, Jr. Galleries
ถึงแม้ว่าจะมีการเผยแพร่ผลงานชิ้นนี้ในโลกออนไลน์ แต่ Starry Night ของ Van Gogh ก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปเมื่อคุณมาดูด้วยตัวเอง
ภาพวาดชิ้นนี้มีองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์หลายอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรง เช่น พื้นผิวที่แตกต่างจากความหนาของสี หรือความคมชัดของสีน้ำเงินเข้มกับสีเหลืองสดใส เป็นต้น ซึ่งทั้งสององค์ประกอบนี้จะกระตุ้นอารมณ์ที่หลากหลายในหมู่ผู้ชม เมื่อพวกเขาสังเกตภาพวาดอย่างใกล้ชิด
อีกทั้งยังมีเรื่องราวเบื้องหลังของภาพวาดนี้ด้วยที่ทำให้ผลงานของเขาโด่งดังยิ่งขึ้น เนื่องจาก Van Gogh วาดภาพนี้ในระหว่างที่เขาอยู่พักรักษาตัวอยู่ที่สถานพักฟื้นผู้ป่วย และถึงแม้ว่า Starry Night จะเป็นรูปภาพของหมู่บ้านในช่วงเวลากลางคืน แต่ Van Gogh กลับวาดรูปนี้ในช่วงเวลากลางวัน นี่จึงเป็นข้อพิสูจน์ให้เราเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา
งานศิลปะ: Umberto Boccioni, Unique Forms of Continuity in Space
สถานที่จัดแสดง: Floor 5, 502, The Alfred H. Barr, Jr. Galleries
Boccioni เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญแห่งขบวนการลัทธิอนาคตนิยมของอิตาลี เขารังสรรค์ Unique Forms of Continuity in Space ขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลังจากเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมขึ้นในยุโรป ประติมากรรมดังกล่าวเปรียบเสมือนเครื่องพิสูจน์ถึงยุคสมัย ซึ่งแสดงถึงร่างกายที่เคลื่อนไหวและมีส่วนร่วมกับกองกำลังรอบ ๆ
Unique Forms of Continuity in Space คืองานประติมากรรมหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่มีความแตกต่างจากงานประติมากรรมก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมอย่างสิ้นเชิง Boccioni ใช้สไตล์ศิลปะในยุคคลาสสิกหรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในการสร้างสรรค์ผลงาน เขาทำให้ร่างกายมนุษย์ในงานศิลปะมีความเป็นธรรมชาติและสมจริงมากขึ้น
อีกทั้งงานชิ้นนี้จาก Boccioni ก็ได้สื่อถึงความเชื่อของเขาในงานศิลปะด้วย เนื่องจากเขาเชื่อว่าศิลปะควรมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ศิลปินสร้างสรรค์ผลงาน มากกว่าการที่ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานขึ้นโดยอาศัยเทคนิคหรือสไตล์จากยุคก่อน ๆ
งานศิลปะ: Piet Mondrian, Broadway Boogie-Woogie
สถานที่จัดแสดง: Floor 5, 512, The David Geffen Wing
หลังจากที่เขาเดินทางมาถึงนิวยอร์กในปี 1940 ศิลปิน Piet Mondrian ก็ตกหลุมรักสภาพแวดล้อมและดนตรีของเมืองนี้อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในสไตล์ Boogie-Woogie ซึ่งเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในผลงาน Broadway Boogie-Woogie ของเขา
Piet Mondrian ใช้บล็อกสีสว่างเพื่อสร้างภาพลวงตาของจังหวะ และหากคุณลองสังเกตภาพวาดดูดี ๆ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน คุณจะสามารถเห็นได้ว่าบล็อกสีต่าง ๆ ดูเหมือนจะกำลังกระโดด กะพริบตา และแม้กระทั่งสั่นสะเทือนราวกับกำลังเต้นรำอยู่!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ได้ถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาของเมืองนิวยอร์กและดนตรีสไตล์ Boogie-Woogie ผ่านผืนผ้าใบได้อย่างลงตัว
งานศิลปะ: Rene Magritte, The Menaced Assassin
สถานที่จัดแสดง: Floor 5, 517, The Alfred H. Barr, Jr. Galleries
Magritte เป็นแฟนตัวยงของซีรีส์อาชญากรรมยอดนิยมเรื่อง Fantômas เขาได้วาดภาพของนักสืบสองคนจากภาพยนตร์เรื่อง Le Mort Qui Tue (The Murderous Corpse) ในปี 1913 ขึ้น เพื่อสร้างความลึกลับที่ดื่มด่ำให้กับผู้ชม ซึ่งภาพวาดนั้นก็คือ The Menaced Assassin นั่นเอง
ในภาพวาด คุณจะเห็นนักสืบสองคนที่ถืออาวุธไว้ในมือและกำลังแอบอยู่ตรงทางเข้าห้อง พวกเขาเป็นพยานในอาชญากรรมที่เพิ่งเกิดขึ้น อีกทั้งกำลังเฝ้าสังเกตฆาตกรอยู่ด้วย! ซึ่งเมื่อได้ชมภาพวาดนี้ หลาย ๆ คนก็มักจะมีคำถามอย่าง "จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ?" ขึ้นในหัว และคำถามนี้แหละที่จะเป็นตัวพาพวกเขาเข้าสู่โลกแห่งนิยายอาชญากรรม
งานศิลปะ: Claude Monet, Water Lilies
สถานที่จัดแสดง: Located at: Floor 5, 515, The David Geffen Wing
Water Lilies เป็นรูปภาพจำลองของสระน้ำที่บ้านของ Monet ใน Giverny ภาพวาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Grandes Décorations ของเขา ซึ่งโปรเจกต์นี้เป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่เขาพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อตกแต่งผนังห้อง
ในชุดภาพวาดนี้ Monet แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแสง น้ำ และสีมีลักษณะอย่างไร เมื่อทั้งสามอยู่รวมกันในน้ำ นอกจากนี้ ภาพวาดดังกล่าวยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้ผู้ที่ได้รับชมอีกด้วย
ที่สำคัญ ไม่เพียงแต่รายละเอียดของภาพวาดเท่านั้น ที่บอกให้เราทราบถึงความทุ่มเทที่ Monet มีให้กับงานของเขา ภาพวาดนี้ยังแสดงให้เราเห็นถึงความรักที่เขามีต่อบ่อน้ำ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่เขาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาด้วยเช่นกัน!
งานศิลปะ: Henri Rousseau, The Dream
สถานที่จัดแสดง: Floor 5, 503, The Alfred H. Barr, Jr. Galleries
Rousseau คือจิตรกรที่เรียนรู้ด้วยตนเอง เขารวบรวมสไตล์ศิลปะที่โดดเด่นของเขาไว้ใน The Dream เช่น การจับคู่สีสันที่โดดเด่น (หลายคนมองว่ามีความเป็นเด็ก) กับผิวสัมผัสที่เรียบเนียน
แม้ว่า Rousseau จะไม่เคยเดินทางออกจากปารีส เขากลับสามารถใช้สิ่งที่เขาได้เห็นจากนิตยสารในห้องสมุด รวมถึงจากการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติฝรั่งเศส มาสร้างฉากป่าที่เหมือนจริง แต่ก็มีความเกินจริงปะปนอยู่ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ความเหมือนจริงและความเกินจริงทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับว่ากำลังฝันอยู่ อีกทั้งการที่มีหญิงสาวนั่งเปลือยกายอยู่บนโซฟาสีแดงอย่างสบายใจ ราวกับว่าเธอไม่ได้เปลือยกายและไม่ได้รายล้อมไปด้วยสัตว์ป่า ก็ช่วยเน้นย้ำให้เราเห็นถึงคุณภาพที่เหมือนฝันของภาพวาดอีกเช่นกัน
ฟังออดิโอไกด์เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเยี่ยมชม
หากคุณมีเวลา เราขอแนะนำให้คุณฟังออดิโอไกด์ระหว่างการเยี่ยมชมของคุณ โดยมีให้เลือกใช้บริการถึง 10 ภาษา คุณจะได้ฟังเสียงของศิลปินและภัณฑารักษ์พูดคุย ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวกับชิ้นงานแต่ละชิ้นในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวพิพิธภัณฑ์เองด้วย
คุณสามารถเข้าถึงคู่มือเสียงได้โดยตรงจากโทรศัพท์มือถือของคุณ โดยไปที่หน้าออดิโอไกด์ของเว็บไซต์พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) และระบุรหัสออดิโอไกด์ที่คุณต้องการรับฟัง (คุณสามารถดูรหัสออดิโอไกด์ได้จากป้ายที่จัดแสดงงานศิลปะนั้น ๆ)
แต่ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะใช้โทรศัพท์มือถือก็ไม่เป็นไร เพราะออดิโอไกด์มีให้บริการที่พิพิธภัณฑ์เช่นกัน
อิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มภายในพิพิธภัณฑ์
เลือกใช้บริการร้านอาหารและคาเฟ่ที่เราคัดสรรมาอย่างดีสำหรับการเยี่ยมชมของคุณได้จากตัวเลือกด้านล่างนี้เลย!
- The Modern (วันอังคาร-วันอาทิตย์ 11:30-14:30 น. และ 17:00-21:00 น.)
ต้องการรับประทานอาหารเย็นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (MoMA) หลังจากชมงานศิลปะมาทั้งวัน? ลองเดินเข้าร้าน The Modern ได้เลย! คุณจะได้เพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสในบรรยากาศสบาย ๆ อย่างไม่ต้องรีบร้อน โดยคุณสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ไม่เกิน 7 วัน
- Café 2 (วันอังคาร-วันพฤหัสบดี + วันอาทิตย์ 11:00-16:00 น. และวันศุกร์-วันเสาร์ 11:00-17:00 น.)
Café 2 ให้บริการอาหารอิตาเลียนแบบเรียบง่าย เช่น ชีส พาสต้า และพานินี่โฮมเมด คาเฟ่แห่งนี้เหมาะสำหรับการแวะเติมพลังระหว่างการเดินจากแกลเลอรี่หนึ่งไปยังอีกแกลเลอรี่หนึ่ง
ไม่เพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีเครื่องดื่มมากมายให้บริการคุณอีกด้วย อาทิ เอสเปรสโซและกาแฟสำหรับอาหารมื้อเช้า หรือไวน์และเบียร์ หากคุณต้องการนั่งรับประทานอาหารเป็นเวลานาน
- Terrace Café (วันจันทร์-วันพฤหัสบดี 11:00-16:00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์ 11:00-17:00 น.)
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย เราขอแนะนำให้คุณนั่งรับประทานอาหารกลางแจ้งที่ Terrace Café! ที่นี่มีให้บริการทั้งอาหารคาวและหวาน ที่สำคัญ คุณยังสามารถเลือกจับคู่อาหารกับค็อกเทล เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดได้อีกด้วย