หากลองเสิร์จหารีวิวเกี่ยวกับสวนนงนุช (Nong Nooch Tropical Garden) ในกูเกิ้ล หลายคนอาจพบว่ารีวิวต่าง ๆ มักจะแนะนำให้คุณใช้เวลาเที่ยวสวนแห่งนี้แบบเต็มวันไม่ก็ครึ่งวัน ซึ่งนั่นทำให้ทีมงาน Klook รู้สึกสงสัยขึ้นมาทันทีว่า ถ้าเราไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น เราจะยังเที่ยวสวนนงนุช (Nong Nooch Tropical Garden) ที่เที่ยวพัทยาชื่อดังได้อย่างสนุกอยู่หรือเปล่า?
หลังจากที่ได้ไปพิสูจน์มาด้วยตัวเอง เราก็ขอยืนยันตรงนี้เลยว่า คุณสามารถเที่ยวและเก็บไฮไลท์สำคัญ ๆ ของสวนนงนุชได้ภายในเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเพียงพอสำหรับการเที่ยวและเก็บไฮไลท์สำคัญของสวนแน่นอน
ในวันนี้ เราจึงขอคัด 5 จุดไฮไลท์และจุดถ่ายภาพสุดปังที่คุณไม่ควรพลาดหากได้ไปเยือน สวนนงนุช พัทยา จะมีที่ไหนบ้าง? ตามมาชมกันได้เลย!
วิธีจองบัตรเข้าชมสวนนงนุช กับ Klook
แม้ว่าคุณจะสามารถซื้อบัตรเข้าชมสวนนงนุชได้จากหน้างาน แต่ก็อย่าลืมว่าสวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้ในบางครั้งอาจมีทัวร์ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาเข้าชมกันอย่างล้นหลาม
ด้วยเหตุนี้ การซื้อบัตรผ่านช่องทางออนไลน์อย่างแอปพลิเคชั่น Klook จึงถือเป็นตัวเลือกที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวนาน ๆ แถมยังจะได้รับส่วนลดสูงสุดกว่า 50% อีกด้วย โดยคุณสามารถกดจองแพ็กเกจที่คุณสนใจ พร้อมชำระเงินและรอรับเวาเชอร์สำหรับแลกรับบัตรเข้าชมได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที โดยแต่ละแพ็กเกจจะมีราคาดังนี้
- บัตรเข้าชม ราคาพิเศษ เพียง 190 บาท (เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตรเข้าชมฟรี)
- บัตรเข้าชม + อาหารกลางวัน (บุฟเฟ่ต์) + รถบัสชมวิว ราคาผู้ใหญ่ 600 บาท เด็ก 400 บาท พิเศษ จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท คลิกที่นี่
เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับเที่ยวชมสวนนงนุชแบบคนมีเวลาน้อย
เนื่องจากสวนนงนุชนั้นมีขนาดใหญ่มาก เวลา 2-3 ชั่วโมงนั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับการเที่ยวชมนงนุชสวนแบบครบทุกซอกทุกมุม แต่ก็นับเป็นโชคดีที่ไฮไลท์ของสวนนั้นไม่ได้อยู่ห่างกันเท่าไหร่นัก เราจึงขอแนะนำให้คุณเดินจากทางเข้าสวนขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงหุบเขาไดโนเสาร์และย้อนกลับลงมาทางที่ผ่านสวนอิตาเลี่ยน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไฮไลท์ทั้ง 5 จุดของเราตั้งอยู่นั่นเอง ตามมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง!
ไฮไลท์จุดที่ 1: สวนตะบองเพชร 1
จุดแรกที่เราอยากจะแนะนำให้คุณนั่นก็คือ สวนตะบองเพชร 1 ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ใกล้กับทางเข้าหลักของสวนนงนุชมากที่สุด ภายในนั้นคุณจะได้พบกับต้นกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก ซึ่งบางต้นนั้นก็ถือเป็นพันธุ์หายากเลยทีเดียว
สวนตะบองเพชรแห่งนี้ยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งที่เหล่านักท่องเที่ยวมักเที่ยวชมกันก่อนไปชมส่วนอื่น ๆ ของสวนนงนุชต่อ ซึ่งทางสวนนงนุชก็ยังได้ทำป้ายข้อความ "I Love Nongnooch Pattaya" ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันได้อีกด้วย
หากได้มาชมสวนนี้แล้ว อีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือบริเวณต้นกระบองเพชรถังทอง ซึ่งเป็นต้นกระบองเพชรที่จัดอยู่ในหมวดหายากและเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ โดยลักษณะนั้นจะดูกลมโตและมีหนามสีทองตามชื่อนั่นเอง
ไฮไลท์จุดที่ 2: สวนลอยฟ้า
ไม่ไกลจากสวนตะบองเพชร 1 คุณจะได้พบกับสวนลอยฟ้า ซึ่งเราขอยกให้เป็นไฮไลท์จุดที่ 2 ของสวนนงนุชที่คุณไม่ควรพลาด สวนลอยฟ้าแห่งนี้เป็นอาคารใหญ่ขนาด 2 ชั้นที่จัดแสดงไม้ประดับนับร้อยสายพันธุ์ อีกทั้งยังมีการคุมอุณหภูมิให้ร่มรื่นและเย็นสบายตลอดเวลา
นอกจากไม้ประดับต่าง ๆ แล้ว สวนลอยฟ้ายังได้ตกแต่งสวนด้วยต้นไม้แขวนหลากสีสันและรูปร่าง ซึ่งไม้แขวนที่เราชอบที่สุดนั้นคงจะหนีไม่พ้นไม้แขวนรูปหัวใจที่ดูสวยและน่ารักในเวลาเดียวกัน
ไฮไลท์จุดที่ 3: หุบเขาไดโนเสาร์
หลังจากที่ออกมาจากสวนลอยฟ้า เราก็จะได้พบกับสกายวอร์คที่นำเราไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในสวนนงนุชอย่าง หุบเขาไดโนเสาร์ ซึ่งเป็นสวนประติมากรรมที่มีรูปปั้นไดโนเสาร์มากกว่า 100 ตัว โดยคุณสามารถเก็บภาพมุมสูงของหุบเขาและสวนฝรั่งเศส 1 ที่อยู่ใกล้กันจากบริเวณสกายวอร์คได้อย่างชัดเจน
เมื่อเริ่มเดินชมสวนแห่งนี้ คุณจะได้พบกับไดโนเสาร์ทั้งพันธุ์กินพืชและกินเนื้อที่ปั้นได้แบบสมจริง โดยตัวที่สูงและโดดเด่นที่สุดนั้นคงจะหนีไม่พ้นเจ้าซอโรโพไซดอน ไดโนเสาร์พันธุ์คอยาวที่มีความสูงกว่า 17 เมตร ซึ่งดูสมจริงราวกับหลุดมาจากหนังเรื่องจูราสสิค พาร์คเลยทีเดียว
หากใครอยากถ่ายรูปสวย ๆ กับไดโนเสาร์ในโซนนี้ เราก็ขอแนะนำให้คุณเลือกถ่ายภาพโดยใช้มุมช้อนเพื่อให้รูปปั้นไดโนเสาร์ดูสูงใหญ่ยิ่งขึ้น จะโพสต์ท่าน่ารัก ๆ หน้าเจ้าแรปเตอร์กับเจ้าทีเร็กซ์ หรือจะเลือกมาสายฮาก็ดูเข้าท่าไม่แพ้กัน
ไฮไลท์จุดที่ 4: จุดชมวิวสวนฝรั่งเศส 2
เมื่อเดินชมประติมากรรมไดโนเสาร์จนครบแล้ว คุณก็จะเดินทางมาถึงจุดไฮไลท์ที่ 4 ของทริปนี้ นั่นก็คือ จุดชมวิวสวนฝรั่งเศส 2 อันที่จริงแล้วบริเวณนี้ไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่เพราะสามารถมองเห็นสวนฝรั่งเศส 2 ได้แบบเต็มตาและวิวโดยรอบก็สวยงามเป็นอย่างมาก เราจึงขอหยิบมาติดในลิสต์นี้ด้วย
หากใครอยากจะถ่ายรูปบริเวณนี้ เราก็ขอแนะนำให้คุณไปยืนบริเวณโขดหินและรอให้ลมพัดผมกับกระโปรงปลิวสักเล็กน้อยก็จะได้ภาพที่สวยงามเอาไปอวดเพื่อน ๆ กันได้แล้ว
ไฮไลท์จุดที่ 5: สวนอิตาเลี่ยน
และแล้วก็มาถึงจุดไฮไลท์สุดท้ายของเรากันแล้ว โดยหลังจากที่คุณเที่ยวหุบเขาไดโนเสาร์เสร็จแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณเดินข้ามสะพานแขวนเพื่อมุ่งหน้าไปยังสวนอิตาเลี่ยน ซึ่งระหว่างทางนี้คุณก็อาจจะได้พบกับช้างนำเที่ยวประจำสวนนงนุชก็เป็นได้
แม้จะไม่ใหญ่โตเท่าสวนฝรั่งเศส แต่สวนอิตาเลี่ยนแห่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน เพราะคุณจะได้พบกับรูปปั้นหินอ่อนจากอิตาลีที่ประดับอยู่รอบสวน สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้คุณรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในประเทศอิตาลีจริง ๆ ก็ว่าได้
นอกจากนี้ คุณยังจะได้พบกับตู้โทรศัพท์สีแดงแบบฉบับกรุงลอนดอนมากกว่าสิบตู้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต่างห้ามใจไม่ไหว พากันสวมอินเนอร์นางแบบไปโพสต์ท่าสวย ๆ หน้าตู้โทรศัพท์กันแบบไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
เวลาน้อยแค่ไหนก็เก็บครบทุกมุมในสวนนงนุช
จบกันไปแล้วกับ 5 จุดไฮไลท์ประจำสวนนงนุชที่แม้จะมีเวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงก็เที่ยวครบได้แบบสบาย ๆ และมีเวลาพอจะไปเที่ยวที่อื่นในพัทยาต่อได้อย่างแน่นอน แต่หากใครอยากจะดื่มด่ำกับความงดงามของสวนนงนุชล่ะก็ เราก็ขอแนะนำให้คุณใช้บริการรถบัสชมวิวที่จะพาคุณนั่งรถไปชมรอบสวนได้แบบครบถ้วนอย่างแน่นอน
และหากใครอยากประหยัดทั้งเงินและเวลาในการเที่ยวชมสวนนงนุชล่ะก็ แอปพลิเคชั่น Klook ก็ถือเป็นตัวเลือกที่จะตอบโจทย์คุณได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่เพียงแต่คุณจะสามารถจองบัตรเข้าชมสวนนงนุชได้อย่างรวดเร็วแล้ว คุณยังจะได้รับส่วนลดสำหรับค่าบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวันและค่ารถบัสชมวิวอีกกว่า 50% อีกด้วย
ส่วนลดเยอะขนาดนี้ อย่ามัวแต่รอช้า รีบจองผ่าน Klook แล้วไปเที่ยวสวนนงนุชกันให้เต็มอิ่มได้เลย!
ที่อยู่และเวลาทำการ
เวลาทำการ
- วันจันทร์-วันอาทิตย์: 08:00-18:00 น.
- บุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน: 11:30-14:00 น.
ที่อยู่
- 34/1 หมู่ 7 ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 20250