รีวิว Praya Palazzo กับแพ็กเกจ Staycation ณ โรงแรมแห่งประวัติศาสตร์ คฤหาสน์ริมน้ำเจ้าพระยา

สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Klook! กลับมาอีกแล้วกับการรีวิวโรงแรมของเรา และวันนี้เราจะมา รีวิว Praya Palazzo (พระยา พาลาซโซ) หรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อ บ้านบางยี่ขัน โรงแรมเก่าแก่สุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 กับแพ็กเกจ Staycation สุดคุ้มที่รวมทั้งค่าห้องพักและสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักโรงแรม Praya Palazzo กันสักนิดดีกว่า แต่เดิมโรงแรมแห่งนี้ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักอาศัยของพระยาชลภูมิพานิช รวมถึงภรรยาและบุตรธิดาของท่าน ก่อนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงเรียนในภายหลัง อาคารแห่งนี้ถูกใช้งานจนถึงปี 1996 ก่อนจะถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน จนเมื่อปี 2009 คฤหาสน์ริมน้ำได้รับการฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และกลายมาเป็นโรงแรม พระยา พาลาซโซ แบบเต็มตัวในปี 2011

โรงแรม Praya Palazzo มีห้องพักทั้งหมดเพียง 14 ห้อง และคุณสามารถเดินทางมายังโรงแรมด้วยเรือรับส่งของทางโรงแรมเท่านั้น นั่นหมายความว่า คุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวในการเข้าพักได้อย่างเต็มที่แน่นอน โดยในวันนี้เราจะมาแนะนำห้องพักที่เรียกว่าเป็นห้องดาวเด่นและขายดีของทางโรงแรมให้ทุก ๆ คนได้รู้จักกัน

เริ่มกันที่ห้อง Superior ห้องพักสไตล์แอนทีคขนาดกำลังดีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย ด้วยการเน้นการใช้ไม้ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์วินเทจในการตกแต่ง อีกทั้งตัวห้องยังออกแบบมาให้แสงจากธรรมชาติสามารถเข้ามาในห้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ห้องนี้มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์สุดพิเศษจาก Harnn และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเป็นเอเชียอีกด้วย

ไม่พูดถึงไม่ได้เลยกับห้อง Deluxe ของทางโรงแรม Praya Palazzo ซึ่งมีให้บริการทั้งหมดเพียง 3 ห้องเท่านั้น ภายรวมของห้อง Deluxe ทั้งในเรื่องของขนาดและสิ่งความอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นั้น ไม่ได้ต่างจากห้อง Superior มากเท่าไร แต่ความต่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ วิว! เพราะผู้ที่เข้าพักห้อง Deluxe จะได้เพลิดเพลินกับวิวสวนหรือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่จากห้องพักของตัวเอง

นอกจากนี้ ที่โรงแรม Praya Palazzo ยังมีห้อง Junior Suite และ Chao Phraya Suite ไว้ให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ ที่มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้นอีกด้วย

หลายคนคงสงสัยว่าแพ็กเกจ Staycation ที่ Praya Palazzo มันพิเศษกว่าการจองโรงแรมทั่ว ๆ ไปตรงไหน เดี๋ยววันนี้เราจะมาคลายความสงสัยนั้นให้กับคุณเอง!

ในราคาที่เรียกได้ว่าพอ ๆ กัน คุณจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าพัก 1 คืนแน่ ๆ แต่ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังจะได้ออกไปล่องเรือเหนือแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมพระบรมหาราชวังและวัดอรุณ อีกทั้งยังจะได้รับเซต Afternoon Tea ที่ได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีจากเชฟของทางโรงแรม ให้คุณได้นั่งจิบชารับลมบนเรือ Praya Palazzo ไปเลย!

และสุดท้าย ที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออาหารเช้า! ลืมอาหารเช้าธรรมดา ๆ ของโรงแรมทั่ว ๆ ไปไปได้เลย เพราะที่นี่จะเสิร์ฟอาหารเป็นเซต ซึ่งล้วนผ่านการปรุงด้วยความพิถีพิถัน ให้คุณได้สัมผัสรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบได้แบบเต็ม ๆ คำ อีกทั้งยังมีไลน์อาหารจำพวกผลไม้และเครื่องดื่มที่คุณสามารถเดินไปหยิบเองได้

คุ้มกว่าเดิมกับแพ็กเกจเข้าพัก 2 คืน รับสิทธิพิเศษมากกว่าในราคาที่ดีกว่า! สำหรับผู้ที่จองแพ็กเกจ Staycation 2 คืนติดต่อกันที่โรงแรม Praya Palazzo กับ Klook คุณจะได้รับเซตอาหารไทยมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำที่ห้องอาหาร Praya Dining ห้องอาหารรางวัล MICHELIN Plate, Thailand Best Restaurants Awards และ Thai SELECT เพิ่มเติม รวมถึงสิทธิ์ในการอัปเกรดห้องพักของคุณอีกด้วย (การอัปเกรดห้องจะขึ้นอยู่กับความพร้อมในการให้บริการของทางโรงแรม)

นอกจากแพ็กเกจ Staycation ที่เรียกได้ว่าคุ้มสุด ๆ แล้ว Klook ยังมีแพ็กเกจสมาชิกของโรงแรม Praya Palazzo เป็นเวลา 1 ปี มาจำหน่ายให้กับทุก ๆ คนในราคาหั่นครึ่งอีกด้วย โดยบัตรสมาชิกประเภทโกลด์จะมีราคาอยู่ที่ 7,500 บาทจาก 15,000 บาท และบัตรสมาชิกประเภทแพลตินัมที่ 12,000 บาทจาก 24,000 บาท ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ทั้งส่วนลดสำหรับห้องพัก ร้านอาหาร และสปา รวมถึงของพรีเมียมต่าง ๆ จากทางโรงแรมอีกด้วย ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่า บัตร Royal Exclusive Membership ใบนี้มีอะไรพิเศษบ้าง

ไม่ยากอย่างที่คิดกับการจองแพ็กเกจ Staycation ที่โรงแรม Praya Palazzo (พระยา พาลาซโซ) ผ่าน Klook ง่าย ๆ เพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น

1. ซื้อเวาเชอร์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิชัน Klook คุณสามารถเลือกแพ็กเกจที่คุณต้องการได้จากหน้าเว็บหรือแอปของ Klook ได้เลย จากนั้นกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนและชำระเงินได้เลย

2. รับหมายเลขเวาเชอร์ เมื่อชำระเงินเสร็จสิ้น คุณจะได้รับเวาเชอร์จาก Klook รวมถึงหมายเลขเวาเชอร์ ซึ่งคุณจำเป็นต้องใช้ในขั้นตอนต่อไป

3. สำรองห้องพักกับทางโรงแรมผ่านโทรศัพท์/อีเมล คุณจำเป็นต้องติดต่อกับทางโรงแรมโดยตรง พร้อมแจ้งรายละเอียดการเข้าพักและหมายเลขเวาเชอร์เพื่อใช้ในการสำรองห้องพักและวันเข้าพักของคุณ

4. เช็คอินที่โรงแรม เมื่อถึงวันเข้าพักที่คุณจองไว้ คุณก็สามารถติดต่อแผนกต้อนรับของทางโรงแรมและทำตามขั้นตอนที่กำหนด และเตรียมเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนของคุณได้เลย