คุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบในโตเกียว ไม่ควรพลาดสถานที่เที่ยวยอดฮิตอย่างวัดเซ็นโซจิ!
หากคุณเคยเห็นข่าวส่งเสริม การท่องเที่ยวโตเกียว ในช่วงโอลิมปิกฤดูร้อนที่โตเกียวปี 2020 หนึ่งในภาพ
ที่โดดเด่นคือ วัดสีแดงที่สะดุดตา - วัดเซ็นโซจิ วัดโบราณแห่งนี้โดดเด่นด้วยสีสันสดใส และยังตั้งอยู่ใกล้กับโตเกียวสกายทรีทีวีทาวเวอร์อีกด้วย
คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡
รับส่วนลด 10% สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น <TH10APP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
ภาพลักษณ์ที่โดเด่นของวัดเซ็นโซจิ เกิดจากสถานที่ตั้งของวัดหรือเจดีย์ขนาดใหญ่นี้ อยู่ในย่านโตเกียว
ที่ไม่ได้มีวัดที่สวยงาม หรือโดดเด่นหลายแห่งมากนัก ดังนั้นวัดเซ็นโซจิจึงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่โดดเด่นเพียงไม่กี่แห่งในโตเกียว
การเยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชอบทำเมื่อเดินทางมายังโตเกียว ดังนั้นวัดแห่งนี้จึงค่อนข้างแน่นไปด้วยผู้คน แต่ไม่ต้องกังวลไป #teamKlook ได้รบรวมข้อมูลและประสบการณ์การเยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิมาแชร์ให่คุณที่ด้านล่างนี้แล้ว คุณจะได้เตรียมตัวสำหรับทริปไปยังวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองที่มีเรื่องราวมากกว่าครึ่งพันปีได้อย่างสบายๆ
วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเซ็นโซจิ มีอีกชื่อหนึ่งว่า วัดอาซากุสะคันนง หรือ วันคินริวซันเซ็นโซจิ วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ตั้งอยู่ใน ย่านอาซากุสะ ในโตเกียว มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 วัดเซ็นโซจิมีชื่อเสียงทั่วประเทศญี่ปุ่นในฐานะสถานที่ที่อนุรักษ์ลักษณะทางวัฒนธรรมพิเศษมากมายในสมัยเอโดะ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาลของ
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (โช คานเซอง โบซัตสึ)
วัดที่สำคัญแห่งนี้ดึงดูดผู้มาเยี่ยมชมได้ 30 ล้านคนในแต่ละปี และถือเป็นสถานที่ทางวัฒนธรรมของโตเกียว
ที่ใครๆ ก็อยากไปเยี่ยมชม ดังนั้นจะโชคดีมาก หากคุณได้รับภาพที่น่าประทับใจจากวัดโบราณอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้!
เวลาทำการของวัดเซ็นโซจิ
วัดเซ็นโซจิประกอบด้วยหลายพื้นที่ซึ่งมีเวลาทำการที่แตกต่างกันในแต่ละวัน
ประตูคามินาริ (คามินาริมอน) : เปิดตลอดเวลา
ห้องโถงใหญ่ (คันนอนโดะ) :
- 6:00 – 17:00 น. (เมษายน – กันยายน)
- 6:30 – 17:00 น. (ตุลาคม – มีนาคม)
ถนนช้อปปิ้งนากามิเซะ
- เปิดบริการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน ปกติเวลา 09.00 - 19.00 น
ตั๋วเข้าชมวัดเซนโซจิ
วัดเซ็นโซจิไม่เก็บค่าเข้า คุณสามารถเข้าได้ตามกรอบเวลาที่กำหนดข้างต้น
การเดินทางไปวัดเซ็นโซจิ
วัดเซ็นโซจิตั้งอยู่ที่ : 2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo 111-0032 เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีอาซากุสะ
มีวิธีแนะนำสำหรับการเดินทาง 3 วิธีในการไปยังย่านอาซากุสะ : รถไฟ รถบัส และเรือโดยสาร คุณสามารถ
ไปที่วัดเซ็นโซจิได้โดยตรงจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในโตเกียว เช่น อุเอโนะ ชิบุยะ และกินซ่า รวมถึงจากสนามบินนานาชาตินาริตะและสนามบินนานาชาติฮาเนดะ
1. เดินทางโดยรถไฟ
สถานีอาซากุสะ เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในโตเกียว รวมถึงวัดเซ็นโซจิ อย่างไรก็ตาม มีสถานีสี่แห่งที่ชื่อสถานีอาซากุสะ ได้แก่ สถานีอาซากุสะสายกินซ่า สถานีอาซากุสะสายโทเออาซากุสะ (รถไฟชินคันเซ็น) สถานีโทบุอาซากุสะ และสถานีสึคุบะเอ็กซ์เพรสอาซากุสะ
สถานีทั้งหมดเหล่านี้เรียกรวมกันว่าสถานีอาซากุสะ สถานีสึคุบะเอ็กซ์เพรสอาซากุสะ อยู่ค่อนข้างไกลจากวัด เซ็นโซจิ โดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที สถานีที่เหลืออีกสามสถานีใช้เวลาเดินเพียง 3 ถึง 5 นาทีจากวัดเซ็นโซจิ
เพื่อความประหยัดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น #teamKlook อย่าลืมใช้ Japan Rail Pass ซึ่งครอบคลุมเส้นทางรถไฟและรถบัสท้องถิ่นที่ดำเนินการโดย JR
2. เดินทางโดยรถประจำทาง
มีเส้นทางรถประจำทางหลายสายรอบอาซากุสะ เช่น รถบัสรับส่งโทบุสกายทรี รถบัสโทเอ คุณสามารถ
เยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิได้ด้วยรถบัสเที่ยวชมเมือง เช่น รถบัส Hop-On Hop-off รถบัสเมกุริน
3. เดินทางโดยเรือโดยสาร
เรือโดยสารน่าจะเป็นวิธีที่สนุกที่สุดในการเที่ยวรอบโตเกียว! โดยเรือวิ่งผ่านแม่น้ำสุมิดะและอ่าวโตเกียว ซึ่งเชื่อมต่ออาซากุสะและโอไดบะกับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มอบประสบการณ์ทางบกและทางน้ำที่ไม่เหมือนใคร
การเดินทางโดยเรือโดยสาร จะมีราคาแพงกว่าการขนส่งสาธารณะแบบอื่นๆ เล็กน้อย แต่ลองคิดดูว่าบางครั้งเงินก็ไม่สามารถซื้อวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของโตเกียวจากทางน้ำได้!
ประวัติความเป็นมาของวัดเซ็นโซจิ
ประวัติความเป็นมาของวัดเซ็นโซจิ เริ่มต้นในเช้าตรู่ของวันที่ 18 มีนาคม 628 เมื่อเมืองหลวงของญี่ปุ่นยังคงเป็นเมืองอาสุกะ (ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดนารา) ฮิโนะคุมะ ฮามะนาริ และทาเคะนาริ น้องชายของเขากำลังตกปลาในแม่น้ำซูมิดะ ที่อยู่ติดกับหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันเป็นย่านอาซากุสะ เมื่อพวกเขาดึงอวนเข้าไป พวกเขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากที่เห็นรูปปั้นติดอยู่ในนั้น พวกเขาจึงนำมันกลับมามอบให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน
หัวหน้าหมู่บ้าน ฮาจิ โนะ นากาโทโมะ จำได้ว่าที่นี่เป็นรูปปั้นของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (โช คันเซอง โบซัตสึ) หรือที่รู้จักกันในชื่อรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เมื่อตระหนักว่ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเป็นลางดี ในไม่ช้าหัวหน้าหมู่บ้านจึงปรับปรุงบ้านของเขาให้เป็นวัด โดยตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อบูชาและจัดพิธีรำลึก
ในปี 645 พระภิกษุชื่อโชไกได้เข้ามาในบริเวณนั้นและสร้างศาลเจ้าสำหรับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม อย่างไรก็ตาม โชไกปิดบังรูปปั้นตามคำแนะนำที่เขาได้ยินในความฝัน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รูปปั้นนี้ก็ไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชนอีกเลย
เมื่อพูดถึงย่านอาซากุสะ ตอนนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวโตเกียว ในถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่ามูซาชิโนะ อาซากุสะได้รับความนิยมมากขึ้นเมื่อมีผู้คนมาสักการะและ
สักการะรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมากขึ้น
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 9 พระภิกษุเอ็นนิน (ค.ศ. 794 - 864) ทรงปฏิบัติธรรมที่วัดเอ็นเรียคุจิ (วัดหลักของ
นิกายเทนไดแห่งพุทธศาสนา) ได้ไปเยี่ยมชมวัดเซนโซจิและได้สร้างรูปปั้น ที่เรียกว่า “รูปปั้นฮิบุตสึ” ฮิบุตสึเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธรูปญี่ปุ่น แต่ด้วยเหตุผลทางศาสนา รูปปั้นฮิบุตสึจึงถูกวางไว้ในตู้บูชาที่เรียกว่าโจชิ และจะปิดอยู่เสมอ โดยไม่ค่อยเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
ในช่วงสมัยคามาคุระ (ค.ศ. 1185 - 1333) โชกุนได้แสดงความจงรักภักดีต่อวัดเซ็นโซจิอย่างยิ่งใหญ่ บุคคลสำคัญอื่นๆ รวมถึงผู้นำทางทหารและนักเขียน ค่อยๆ ทำตามแบบอย่างของพวกเขา และความสำคัญของวัดแห่งนี้ก็มีเพิ่มขึ้น
ในปี 1590 โทกุกาวะ อิเอยาสุ โชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะ ได้กำหนดให้วัดเซ็นโซจิเป็นสถานที่สวดมนต์ของผู้สำเร็จราชการ ต่อมาโชกุนโทคุงาวะยังสืบทอดประเพณีการเยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิ และความเชื่อในเรื่องคันนงก็แพร่กระจายไปในหมู่ผู้คนในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1867)
ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 ถึงศตวรรษที่ 19 เอโดะได้พัฒนาเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกด้วยวัฒนธรรมที่โดดเด่น และอาซากุสะก็กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมในเอโดะ ปัจจุบัน อาซากุสะเป็นที่ตั้งของโรงละครหลายแห่ง ซึ่งฉายภาพยนตร์ ดนตรี และรายการวาไรตี้ที่หลากหลาย ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมสมัยนิยมของญี่ปุ่น
สถาปัตยกรรมของวัดเซ็นโซจิ
วัดเซ็นโซจิมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างมาก ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล นั้นคือหลังคาเจดีย์สีแดงสดใสที่โผล่ออกมาจากต้นไม้ สลับกับภาพวาดสีทองที่ส่องประกายแม้ไม่มีแสงแดด
เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ในญี่ปุ่น วัดเซ็นโซจิส่วนใหญ่ใช้ไม้ในการต้านทานแผ่นดินไหว และได้รับการแกะสลักอย่างประณีต
1. ห้องโถงใหญ่ (ห้องโถงคันนอนโดะ)
สร้างขึ้นโดยโชกุนโทกุงาวะที่ 3 โทคุงาวะ อิเอมิตสึ และได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของชาติ ห้องโถงหลักถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของโตเกียวเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2488 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2501 ด้วยความช่วยเหลือจากผู้คนทั่วประเทศญี่ปุ่น
จุดที่สังเกตได้มากที่สุดของอุโบสถหลักคือ หลังคาลาดพิเศษที่สูงกว่าหลังคาของวัดอื่นๆ
ห้องโถงหลักแบ่งออกเป็นสองส่วน : ไนจิน (ศาลเจ้าด้านใน) และเกจิน (ศาลเจ้าด้านนอก) พระโพธิสัตว์
คันนอน ตั้งอยู่ในวัดตรงกลางไนจิน
2. พระราชวังโยโกโด
กลุ่มพระพุทธเจ้าแปดองค์ที่เรียกว่า โยโกชู ปฏิบัติตามคำสอนของพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมและสนับสนุนเส้นทางแห่งการตรัสรู้ พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในพระราชวังโยโกโด แต่ละองค์คอยปกป้องสัตว์นักษัตรจีนหนึ่งหรือสองตัว พระพุทธเจ้าผู้ทรงปกป้องสัตว์แต่ละตัวยังกล่าวกันว่าทรงปกป้องผู้ที่เกิดในปีสัตว์นั้นด้วย
3. พระราชวังอาวาชิมาโดะ
ห้องโถงอาวาชิมาโดะสร้างขึ้นในสมัยเก็นโรคุ (ค.ศ. 1688 - 1704) เพื่อสักการะอาวาชิมะเมียวจิน เทพที่ย้ายมาจากศาลเจ้าแม่ในคาดะ จังหวัดวาคายามะ พระอมิตาภพุทธเจ้าวางอยู่ตรงกลาง โดยมีอาวาชิมะ เมียวจินและโคคุโซ โบซัตสึอยู่ด้านซ้ายและขวา
พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นพระราชวังหลักชั่วคราวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นจึงย้ายไปยังที่ตั้งปัจจุบันและได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1994
4. เจดีย์ห้าชั้น
เจดีย์ห้าชั้นสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 942 โดยผู้บัญชาการทหาร ไทระ โนะ คินมาสะ เช่นเดียวกับห้องโถงหลัก เจดีย์ห้าชั้นถูกทำลายในวันเดียวกับการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของโตเกียว จากนั้นสร้างขึ้นใหม่ในปี 1945 ด้วยเงินบริจาคจากผู้ศรัทธาทั่วประเทศ
ชั้นบนสุดของเจดีย์เป็นที่เก็บรักษา พระบรมสารีริกธาตุ (บุษชะรี) ซึ่งเป็นของขวัญจากเจดีย์อิสุรุมุนิยะ
ในศรีลังกา
5. เดมโบอิน เฮ้าส์ และสวน
พื้นที่ในเดมโบอินประกอบด้วย : เคียคุเด็น (อาคารที่ใช้ต้อนรับแขก) โชอินขนาดใหญ่และเล็ก (ห้องสมุดและห้องอ่านหนังสือ) และโออิมะ (ห้องนั่งเล่น) ของเจ้าอาวาสวัดเซ็นโซจิ เคียคุเด็นยังใช้สำหรับพิธีรำลึกและการฝึกนักพรตอีกด้วย
ว่ากันว่าสวนแห่งนี้รายล้อมไปด้วยทางเดินรอบสระน้ำขนาดใหญ่ สร้างขึ้นโดยเอ็นชู โคโบริในช่วงต้น
สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603–1868) ขณะนี้สวนแห่งนี้ปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
6. ประตูนิเท็นมง
ประตูนิเท็นมงเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1618 เพื่อปกป้องห้องโถงโทโชกุในบริเวณวัดเซ็นโซจิ การออกแบบประตูในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1649 และเรียกว่าประตูเซนโซจิตะวันออก
ในปี 2010 ประตูนิเท็นมงได้รับการบูรณะกลับสู่สภาพเดิม หลังจากการบูรณะหลายครั้งในระยะเวลาหลาย
ร้อยปี เทพผู้พิทักษ์ชาวพุทธ 2 องค์ (“เท็น”) ที่เรียกว่าโซโชเทนและจิโคคุเต็นวางอยู่ที่ด้านซ้ายและด้านขวาของประตู ดังนั้น "นิเท็นมง" ในภาษาญี่ปุ่นจึงหมายถึง "ประตูของเทพเจ้าทั้งสองสิบองค์"
7. ประตูโฮโซมอน (ประตูนิโอมง)
ประตูโฮโซมอนถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยผู้บัญชาการทหารไทระ โนะ คินมาสะ ในปี 942 โทกุกาวะ อิเอมิตสึ โชกุนคนที่ 3 ของราชวงศ์โทคุงาวะ ได้ปรับปรุงกลุ่มอาคารวัด และติดตั้งประตูทางเข้าใหม่ พ.ศ. 2192
ประตูปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2507 ด้วยการสนับสนุนจาก นักธุรกิจ Yonetaro Otani ผู้ก่อตั้ง Otani Heavy Industries และ Hotel New Otani
8. ประตูคามินาริมง (ประตูฟุไรจินมอน)
ผู้บัญชาการทหารไทระ โนะ คินมาสะ ได้สร้างประตูคามินาริมงในปี 942 และนี่คือประตูหลักของวัดเซ็นโซจิ รูปปั้นของเทพเจ้าแห่งลม Fujin และเทพเจ้าแห่งสายฟ้า Raijin ได้รับการประดิษฐานอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องวัดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในบริเวณใกล้กับทาวาระมาจิในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2408 ได้ทำลายประตูคามินาริมอน และจนกระทั่ง 95 ปีต่อมาในปี พ.ศ. 2503 ประตูปัจจุบันก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ภายใต้การช่วยเหลือของนักธุรกิจโคโนสุเกะ มัตสึชิตะ
9. ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ
ถนนช้อปปิ้งนากามิเสะ เป็นหนึ่งในถนนช้อปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งมีมานานกว่า 100 ปี ถนนสายนี้มี
ความยาวเพียงประมาณ 250 เมตร และตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด คุณจะได้พบกับของเล่น งานฝีมือ เค้ก และ
ของที่ระลึกแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ราคาที่นี่ถือว่าสมเหตุสมผล ดังนั้นอย่าลังเลที่จะช้อปปิ้งที่นี่! นอกจากนี้
บริเวณนี้ยังมีจำหน่ายขนมพิเศษของย่านอาซากุสะอีกด้วย
10. พระราชวังเบนเทนโด
ห้องโถงเบนเทนโด มีความโดดเด่นจากรูปปั้นของเทพธิดาสรัสวตี ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ 1 ใน 3 รูปปั้น
ที่โดดเด่นของพระสรัสวตีในภูมิภาคคันโต ระฆังที่ตั้งอยู่ในห้องโถงเบนเทนโดได้รับการหล่อใหม่ในปี 1692 ตามคำสั่งของโชกุนโทกุกาวะ สึนะโยชิที่ 5 และคนในพื้นที่เรียกว่า "ระฆังเวลา"
เทศกาลที่วัดเซ็นโซจิในญี่ปุ่น
วัดเซ็นโซจิมีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ ความงามทางสถาปัตยกรรม ตลอดจนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่วัดเซ็นโซจิจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 30 ล้านคนในแต่ละปี ผู้คนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาที่นี่ ไม่เพียงเดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมและสักการะเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในเทศกาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่วัดซึ่งจัดขึ้นตลอดทั้งปี
1. ฮัตสึโมเดะ (Hatsumode)
- วันที่จัดงาน : 1 - 7 มกราคม
เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนไปเจดีย์ในช่วงต้นปี เพื่อขอพรให้ความสงบสุข สุขภาพ และการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดีใน
ปีหน้า
2. เซ็ตบุน (Setsbun)
- วันที่จัดงาน : 3 กุมภาพันธ์
ในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ คนญี่ปุ่นมักจะโยนถั่วแห้ง เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและอธิษฐานขอให้โชคดี แต่ที่วัดเซ็นโซจิ ผู้คนเชื่อว่าไม่มีผีเข้ามาใกล้พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้ ดังนั้นแทนที่จะตะโกนว่า "ปีศาจ ออกไป!" จะตะโกนว่า “อายุยืนยาว ขอให้โชคดี!”
3. ฮอนซอน จิเกน-เอะ (Honzon Jigen-e)
- วันที่จัดงาน : 18 มีนาคม
ฮอนซอน จิเกน-เอะ เป็นการเฉลิมฉลองการปรากฏตัวครั้งแรกของพระอวโลกิเตศวร คันนง ซึ่งเป็นภาพพจน์ของวัดเซ็นโซจิในวันที่ 18 มีนาคม ในช่วงบ่ายคุณจะเห็นการเชิดมังกรทองในวัด
4. ฮานะ มัตสึริ (Hana Matsuri)
- วันที่จัดงาน : 8 เมษายน
ชาวญี่ปุ่นเฉลิมฉลองวันเกิดของพระพุทธเจ้าด้วยการรินอามะชา (ชาไฮเดรนเยีย) ลงบนพระพุทธรูปที่วางไว้
ที่ฮานามิโดะ (แท่นบูชาที่มักตกแต่งด้วยดอกไม้)
เทศกาลนี้นำความสุขและความทรงจำอันมีค่ามาสู่ผู้เข้าร่วม เช่น การชิมชาไฮเดรนเยียเป็นครั้งแรก และ
นำช่อดอกไม้สดกลับบ้านเป็นของที่ระลึก
5. ชิมันโรคุเซ็นนิจิ (Shiman-rokusen-nichi)
- วันที่จัดงาน : 9 - 10 กรกฎาคม
สองวันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับชาวพุทธ เพราะพวกเขาเชื่อว่าจะได้รับพรที่วัดเซ็นโซจิ ซึ่งมีพลังมากกว่าวันอื่นๆ ถึง 46,000 เท่า
วัดจะจัดงานโฮซึกิอิจิ โดยมีแผงขายของประมาณ 120 ร้านในช่วงเวลานี้ และคุณจะได้พบโคมไฟโฮซูกิมากมายวางขายทุกที่
6. โอซาเมะโนะคันนง โกเอ็นนิจิ (Osame-no-Kannon Goennichi)
- วันที่จัดงาน : 17 - 19 ธันวาคม
ในช่วงเทศกาลสุดท้ายของปี ผู้คนมักจะกระตือรือร้นที่จะไปวัดเซ็นโซจิ เพื่อเยี่ยมชมบริเวณเอ็นนิจิ (แผงลอยกลางแจ้งใกล้กับวัด) นอกจากนี้ยังมีงานฮาโงอิตะที่จัดขึ้นบริเวณใกล้โถงและประตูวัดอีกด้วย
อย่าลืมนำฮาโกอิตะ ซึ่งเป็นวัตถุนำโชคในวัฒนธรรมญี่ปุ่นกลับบ้านด้วย ฮาโกอิตะ เป็นไม้แร็กเก็ตไม้ขนาดเล็กที่ออกแบบเป็นรูปไม้พาย ใช้ในการแข่งขันแบดมินตันในช่วงวันแรกของปีใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังรอบวัดเซ็นโซจิ
จากวัดเซ็นโซจิ คุณยังสามารถชื่นชมเจดีย์โกจูโนะโทห้าชั้น วัดย่อยเล็กๆ หลายแห่ง และสวนเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ โดยเฉพาะ วัดรกคาคุโด ที่มีสะพานหินและสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวในบริเวณรอบๆ วัดด้วยเช่นกัน
คุณจะพบศาลเจ้าอาซากุสะทางด้านขวาของห้องโถงหลัก ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของชายทั้งสามที่สร้าง
เซ็นโซจิ และ โตเกียวสกายทรี ที่ตั้งตระหง่าน อยู่อีกฟากของแม่น้ำ ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างน่าทึ่งระหว่างความทันสมัยและประเพณีตั้งเดิม ลองดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโตเกียวอื่นๆ เพื่อเพิ่มสีสัน
ให้ทริปของคุณกัน!
สัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิด้วยตัวเอง
ตั้งแต่ปี 2015 ห้องโถงหลัก เจดีย์ ประตูโฮโซมอน และประตูคามินาริมง จะมีการประดับไฟตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดินจนถึงเวลา 23.00 น. ห้องโถงหลักจะปิดให้บริการ แต่บริเวณวัดจะยังคงเปิดให้ผู้มาเยี่ยมชมเข้าชมได้ หากมีโอกาสมาที่นี่ตอนกลางคืนจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงบ แตกต่างจากความเร่งรีบวุ่นวายในช่วงเวลากลางวันอย่างสิ้นเชิง นี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเดินเล่นก็เป็นไปได้
ประเพณีการเสี่ยงเซียมซีจะถูกเรียกว่า โอะมิกุจิ (Omikuji) ซึ่งเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น มักพบที่วัดและเจดีย์
คนญี่ปุ่นจะรักษาประเพณีนี้ตลอดปีใหม่ และคนส่วนใหญ่อยากรู้ว่าปีหน้าจะมีโชคลาภหรือไม่ เมื่อมาถึงวัด
เซ็นโซจิแล้ว มาลองเสี่ยงโชคกับโอะมิกุจิ (Omikuji) กันนะ!
ร้านอาหารใกล้วัดเซ็นโซจิ
คุณสามารถพบอาหารข้างทางได้ในย่านช้อปปิ้งบนถนนนากามิเสะ (Nakamise) แต่หากคุณต้องการค้นหาร้านอาหารชิลล์ๆ ในอาซากุสะ สามารถดูสถานที่รับประทานอาหารต่อไปนี้ได้ที่ Klook รวมถึงร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านกาแฟทันสมัย หรืออิซากายะแบบสบายๆ
คุณสามารถพบอาหารข้างทางได้ในย่านช้อปปิ้งบนถนนนากามิเสะ (Nakamise) แต่หากคุณต้องการค้นหาร้านอาหารชิลล์ๆ ในอาซากุสะ สามารถดูสถานที่รับประทานอาหารต่อไปนี้ได้ที่ Klook รวมถึงร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านกาแฟทันสมัย หรืออิซากายะแบบสบายๆ
1. โอนิกิริ อาซากุสะ ยาโดโรคุ (Onigiri Asakusa Yadoroku)
- ที่อยู่ : 3-9-10 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
ตั้งอยู่ด้านหลังวัดเซ็นโซจิ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโอนิกิริที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว คุณสามารถเลือกท็อปปิ้งได้หลากหลาย เช่น แซลมอน บ๊วย ทาราโกะ ชิราสึ และโอคากะ เสิร์ฟพร้อมซุปมิโซะเต้าหู้ และทากวน (หัวไชเท้าดอง) ซึ่งทั้งหมดนี้มีราคาที่ไม่แพง
2. โนอาเกะ โตเกียว (Noake Tokyo)
- ที่อยู่ : 5-3-7 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
Noake Bakery ขึ้นชื่อในเรื่องเค้กแสนอร่อยพร้อมสูตรพิเศษมากมายในย่านอาซากุสะ เมื่อไปถึงโนอาเกะ คุณสามารถสั่งเค้กกล้วยคาราเมล หรือเค้กอื่นๆ อีกมากมาย และเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอันแสนหวาน
จากการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงได้จากที่นี่
3. เบ็นเท็น (Benten)
- ที่อยู่ : 3-21-8 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
ร้านอาหารเล็กๆ แห่งนี้เปิดให้บริการเส้นโซบะมาตั้งแต่ปี 1950 และกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่คนท้องถิ่นที่ต้องการเพลิดเพลินกับโซบะพร้อมเบียร์หรือสาเกหนึ่งไพน์ เมนูขึ้นชื่อของเบ็นเท็นคือ โซบะหอย ซึ่งมีน้ำซุปแสนอร่อยที่ทำจากหอยลายที่มาจากจังหวัดชิบะ ผสมผสานกับกลิ่นหอมอันเข้มข้นของยูสุและใบมิตสึบะ
4. อาซาฮี (Asahi)
- ที่อยู่ : 3-33-6 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
ร้านอาหารจีนแห่งนี้เปิดกิจการมามากกว่า 70 ปี และเมนูดั้งเดิมที่มีรสชาติที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยตลอดหลายทศวรรษ เช่น ราเมนผักชีปะคุ-ปากุ ยอดนิยม หากเติมน้ำปลาเล็กน้อย คุณจะได้สัมผัสอาหารที่
ผสมผสานอาหารจีนและไทยเข้าด้วยกัน
5. อิซากายะ โคจิ (Izakaya Koji)
- ที่อยู่ : 2-3-19 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
ผับแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ด้านหลังของถนนเอโดะในอาซากุสะ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ Hoppy Street ด้วยที่นั่ง
ทั้งกลางแจ้งและแบบเคาน์เตอร์ สถานที่แห่งนี้จึงแน่นทุกวันตลอดสัปดาห์ พวกเขาเสิร์ฟอาหารที่คลาสสิก
มากมาย เช่น แฮมและปลาญี่ปุ่นที่เคี่ยวกับหัวไชเท้า
โรงแรมใกล้วัดเซ็นโซจิ
สถานที่ที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าของญี่ปุ่นโบราณ เช่น วัดเซ็นโซจิที่มีเสน่ห์ และโตเกียวสกายทรีที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในเมือง อาซากุสะไม่เพียงแต่เป็นพื้นที่ที่น่าหลงใหลในการเดินทางสำรวจ แต่ยังทำให้นักท่องเที่ยวอยากพักที่บริเวณนี้ เพื่อสัมผัสถึงความงามที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือรายชื่อโรงแรมที่มีวิวที่ดีที่สุดในอาซากุสะ และเพื่อการจองที่พักของ #teamKlook ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบ
ของ Klook พร้อมใช้รหัสส่วนลดพิเศษและโปรโมชั่นสุดพิเศษ
1. The Gate Hotel Asakusa Kaminarimon by Hulic
- ที่อยู่ : 2-16-11 คามินาริมง เขตไทโตะ โตเกียว
- ราคาโดยประมาณ : 1,735 บาท /คืน
2. Richmond Hotel Premier Asakusa International
- ที่อยู่ : 2-6-6 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว
- ราคาโดยประมาณ : 2,285 บาท /คืน
3. Asakusa View Hotel
- ที่อยู่ : 3-17-1 Nishiasakusa, Taito-ku, Tokyo
- ราคาโดยประมาณ : 3,146 บาท /คืน
4. Hotel Wing International Select Asakusa Komagata
- ที่อยู่ : 2-7-5 โคมากาตะ เขตไทโตะ โตเกียว
- ราคาโดยประมาณ : 1,444 บาท /คืน
5. APA Hotel Asakusa Kuramae
- ที่อยู่ : 2-4-6 Komagata, Taito-ku, Tokyo
- ราคาโดยประมาณ : จาก 2,787 บาท /คืน
วัดเซ็นโซจิจะค่อนข้างหนาแน่นในช่วงปลายปีและต้นปีใหม่ โดยมีเทศกาลและกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นมากมาย แล้วจะมีเวลาไหนจะดีไปกว่าการไปเที่ยวโตเกียวและเยี่ยมชมวัดเซ็นโซจิตอนนี้! เพื่อให้คุณมั่นใจมากขึ้นในการเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยตัวเอง และเรียนรู้ข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับดินแดนแห่งดอกซากุระได้จาก Klook อย่าลืมเตรียม ซิม 4G หรือ 4G Wi-Fi ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา ขณะท่องเที่ยว
🍣 สิ่งจำเป็นของญี่ปุ่น🍣
🚅รถไฟและบริการรับส่งสนามบิน
📌ข้อมูลมือถือและบัตรโดยสารรถไฟใต้ดิน
🏯 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น 🏯
ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa