คู่มือท่องเที่ยวสุดพิเศษสำหรับคนรัก Studio Ghibli: 5 กิจกรรมที่ต้องทำ สถานที่ที่ต้องไป และอีกมากมาย!
เหล่าแฟน ๆ Studio Ghibli ทุกคนมารวมตัวกันเลย เพราะคุณกำลังจะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ! นิทรรศการ The World of Studio Ghibli ได้เดินทางมาถึงสิงคโปร์แล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่จุใจ ลองขยับการเดินทางให้ไกลขึ้นด้วยการไปเยือนสถานที่จริงในญี่ปุ่นดูสิ!
สถานที่ท่องเที่ยวในธีม Studio Ghibli
1. พิพิธภัณฑ์ Ghibli, โตเกียว
วิธีการเดินทาง: เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี Kichijoji หรือ Mitaka ในโตเกียว
พิพิธภัณฑ์ Ghibli ซึ่งก่อตั้งร่วมโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับชื่อดังของภาพยนตร์หลายเรื่องของ Ghibli พิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือศูนย์รวมทุกสิ่งเกี่ยวกับ Studio Ghibli! ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในบ้านหลากสีหลายชั้นที่เต็มไปด้วยนิทรรศการน่าหลงใหล การจำลองโต๊ะทำงานของนักวาด และฉากจากภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นในขนาดเท่าของจริง อย่าพลาด โรงภาพยนตร์ Saturn ซึ่งมีการฉายภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษที่สามารถรับชมได้เฉพาะในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น!
#KlookTip: ในพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ แต่คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ที่ สวนบนดาดฟ้า ซึ่งมีหุ่นยนต์ทหารจากเรื่อง Castle in the Sky รอให้คุณไปถ่ายรูปอยู่! หรือจะเลือกถ่ายภาพที่ระลึกแบบไม่ซ้ำใครกับ โทโทโร่ ที่อยู่ในบูธเก็บตั๋วด้านนอกตัวอาคารก็น่าสนใจไม่แพ้กัน! 📸
ที่พิพิธภัณฑ์ยังมี โซนเล่นสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ พวกเขาจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการปีนป่ายรอบ ๆ Catbus และเล่นกับตุ๊กตา เจ้ากระต่ายเขม่าดำ จากเรื่อง My Neighbour Totoro ได้อย่างสนุกสนาน! ก่อนกลับ อย่าลืมแวะที่ คาเฟ่ เพื่อสัมผัสเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ และถ้าอยากช้อปของที่ระลึกสุดพิเศษก็ต้องไปที่ ร้านขายของที่ระลึก (แต่เตรียมใจไว้หน่อย เพราะอาจจะเผลอใช้เงินเยอะกว่าที่คิด!)
#KlookTip: พิพิธภัณฑ์ไม่มีการขายบัตรหน้างาน ดังนั้นอย่าลืมจองบัตรล่วงหน้าออนไลน์ หรือซื้อจากร้านสะดวกซื้อ Lawson เมื่อคุณอยู่ในญี่ปุ่น บัตรขายหมดเร็วมาก! อีกทางเลือกหนึ่ง ลองตรวจสอบ ทัวร์แบบวันเดียว ที่รวมเวลา 2.5 ชั่วโมงที่พิพิธภัณฑ์เข้าไปด้วยก็ได้!
2. Ghibli Park, นาโกย่า
วิธีการเดินทาง:
- เดินเพียง 1 นาทีจากสถานี Ai-Chikyuhaku Kinen Koen
- หรือขึ้นรถชัตเทิลบัสจากสถานี Nagoya ไปยัง Expo 2005 Aichi Commemorative Park ถ้าต้องการความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ลองดู ทัวร์แบบวันเดียวจากนาโกย่า ซึ่งช่วยจัดการรายละเอียดการเดินทางทั้งหมดให้คุณได้เลย!
นี่คือสวรรค์สำหรับแฟนพันธุ์แท้ Studio Ghibli อย่างแท้จริง! สวนสนุกแห่งนี้มีทั้งหมด 5 โซน เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ได้แก่
- Hill of Youth
- Mononoke’s Village
- Valley of Witches
- Ghibli’s Large Warehouse
- Dondoko Forest
สวนสนุกนี้ไม่ใช่สวนสนุกแบบทั่วไป เพราะที่นี่เน้นประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งในโลกของ Ghibli!
#KlookTip:
เริ่มต้นทริปของคุณที่ Ghibli’s Large Warehouse ซึ่งมี
- สวนลอยฟ้า จากเรื่อง Laputa: Castle in the Sky
- สนามเด็กเล่นธีมโทโทโร่
- โรงภาพยนตร์ที่ฉายคลิปจาก Ghibli แบบวนลูป
- และร้านขายของที่ระลึกสุดน่ารัก
แถมยังเหมาะสำหรับวันที่ฝนตก เพราะโซนนี้ตั้งอยู่ในอาคารทั้งหมด! 🌧️
จุดเด่นที่ไม่ควรพลาด:
- บ้านของซัทสึกิและเมย์ (จากเรื่อง My Neighbour Totoro) ในโซน Dondoko Forest ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันจนเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ทุกกระเบียดนิ้ว!
- โอกาสในการปิ้ง โกเฮโมจิ ด้วยตัวเองในโซน Mononoke Village
และโซนโปรดของเราคือ Valley of the Witches ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สองเรื่องคือ Howl’s Moving Castle และ Kiki’s Delivery Service ที่นี่คุณยังสามารถซื้อขนมปังจาก ร้านเบเกอรี่สุดน่ารักของคิกิ ได้อีกด้วย! 🥖
สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ธีม Studio Ghibli
3. My Neighbour Totoro, ป่า Sayama Hills
ในเรื่อง My Neighbour Totoro ที่เป็นที่รักของใครหลายคน สองพี่น้องได้พบกับเหล่าสัตว์น่ารักในป่าที่เขียวขจีและเปี่ยมไปด้วยเวทมนตร์ ซึ่งป่าในภาพยนตร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Sayama Hills ในจังหวัดไซตามะ
การเดินทาง: ใช้เวลาเดินทางเพียง 1-1.5 ชั่วโมงจากโตเกียว ก็สามารถเข้าถึงป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ได้แล้ว! 🌳
ก่อนเริ่มสำรวจ อย่าลืมแวะที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อรับแผนที่ที่เป็นประโยชน์สำหรับการเดินทาง! ใช้แผนที่นี้เพื่อลัดเลาะไปตามเส้นทางธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งจะพาคุณไปพบกับศาลเจ้า ทะเลสาบ และ บ้านของคุโรสุเกะ (The House of Kurosuke) ที่ภายในมีรูปปั้นโทโทโร่ขนาดใหญ่รอต้อนรับคุณอยู่
#KlookTip:
ขณะที่คุณอยู่ในพื้นที่นี้ ทำไมไม่ลอง กิจกรรมเก็บใบชา ดูล่ะ? เพราะ Sayama เป็นหนึ่งในสามพื้นที่ผลิตชาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับ Shizuoka และ Uji! 🍵
วิธีการเดินทาง: เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี Seibukyujo-mae เพื่อไปยังป่า Sayama Hills และบ้านของคุโรสุเกะ 🌳
4. Ponyo On the Cliff, เมือง Tomonoura
เมืองท่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ซึ่งปรากฏใน Ponyo On the Cliff ได้รับแรงบันดาลใจจาก Tomonoura ในจังหวัดฮิโรชิมา เมืองนี้ตั้งอยู่ริม ทะเลในเซโตะ และมีบรรยากาศเงียบสงบเหมือนได้ใช้ชีวิตในโปสการ์ด พร้อมด้วยท่าเรือที่สวยงามประดับด้วยเรือใบ และประภาคารที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางหมู่บ้านชาวประมง
#KlookTip:
อย่าลืมวางแผนไปเยือน เมืองท่า Onomichi ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางปั่นจักรยานชื่อดัง Shimanami Kaido ซึ่งนำคุณไปสู่เกาะชิโกกุ! 🚴♂️
ย้อนเวลากลับไปในอดีตด้วยการเดินเล่นเลียบท่าเรือ, ล่องเรือสำรวจ, เดินเล่นในตรอกซอกซอยที่อบอวลไปด้วยความคิดถึง และพักค้างคืนใน เรียวกัง แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
สิ่งที่ไม่ควรพลาด:
- ชม บ้านหลังคาแดง ที่เป็นแรงบันดาลใจให้บ้านของริสะและโซสุเกะ
- เยี่ยมชม วัดฟุคุเซ็นจิ ที่มีชื่อเสียงในด้านวิวที่สวยงามจนต้องตะลึง
- ลิ้มลองอาหารทะเลสด ๆ และอร่อยที่มีให้เลือกมากมาย
#KlookTip:
อยากเห็น Tomonoura จากมุมมองที่แตกต่างไหม? ลองออกไปพายเรือคายัคดู! ทัวร์นี้จะพาคุณชมสถานที่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทั้งภาพยนตร์ของ Studio Ghibli และภาพยนตร์ฮอลลีวูด! 🛶
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถบัสประมาณ 30 นาทีที่มุ่งหน้าไปยัง ท่าเรือ Tomo จากสถานี Fukuyama 🚍
5. Princess Mononoke, เกาะ Yakushima
ป่าอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง Princess Mononoke ได้รับแรงบันดาลใจจาก เกาะ Yakushima ในจังหวัดคาโงะชิมะ ที่นี่เป็น แหล่งมรดกโลกของยูเนสโก และถือเป็นสวรรค์ที่ยังคงความงดงามตามธรรมชาติอย่างแท้จริง
เกาะนี้ปกคลุมไปด้วย ป่าไม้ซีดาร์โบราณ ที่แผ่ขยายเต็มพื้นที่ และมีมอสเขียวขจีที่หนาแน่นอย่างน่าทึ่ง ต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะนี้ยังเชื่อกันว่าอาจมีอายุมากกว่า 7,000 ปี! 🌲
ทีมอนิเมชั่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เวลาหลายชั่วโมงในการร่างภาพที่ Shiratani Unsuikyo ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าที่งดงามและเต็มไปด้วยพืชพรรณหนาทึบ
กิจกรรมที่แนะนำ:
- เดินป่า สำรวจเส้นทางธรรมชาติที่งดงาม
- ทัวร์ส่วนตัวรอบเกาะ เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ
- พฤษภาคมถึงกรกฎาคม: เยี่ยมชม หาด Nagata Inakahama เพื่อชมเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่
วิธีการเดินทาง:
(Unrecognized node type) liหรือ เรือเร็ว ใช้เวลา 75 นาทีจาก อิบุสึกิ ⛴️