เปิดประสบการณ์ดำน้ำ | 6 จุดดำน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

คุณกำลังวางแผนทริปดำน้ำครั้งแรกในประเทศไทยและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร?

ประเทศไทยเป็นที่ตั้งของแหล่งดำน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังและสัตว์ทะเลที่น่าทึ่ง! ประเทศไทยมีแหล่งดำน้ำหลายแห่ง ตั้งแต่ชายฝั่งตะวันตกไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกที่รองรับระดับการดำน้ำ ตั้งแต่นักดำน้ำมือโปรไปจนถึงนักดำน้ำมือใหม่ เนื่องจากมีแหล่งดำน้ำให้เลือกมากมาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะเลือกว่าจะเริ่มต้นจากจุดไหนดี ดังนั้นนี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย รวมถึงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่คุณคาดหวังว่าจะได้เห็น

การดำน้ำลึกเหมาะที่จะทำกิจกรรมในประเทศไทย เนื่องจากมีโอกาสสูงที่จะได้ดำน้ำกับฉลามวาฬและกระเบนราหู

แหล่งดำน้ำหลายแห่งมีปะการังใต้น้ำที่สวยงาม รวมถึงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ มีโรงเรียนสอนดำน้ำที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนรู้การดำน้ำหรือพัฒนาทักษะฐานะนักดำน้ำให้ได้รับการรับรอง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการดำน้ำที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลาย ซากเรืออับปาง และแหล่งดำน้ำสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ!

โดยทั่วไปเดือนตุลาคมถึงเมษายนเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการดำน้ำในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม จุดดำน้ำแต่ละแห่งมีไทม์ไลน์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับสถานที่ที่คุณต้องการไปและสิ่งที่คุณต้องการพบเจอ

แหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ :

เกาะเต่าเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมสำหรับผู้ที่มาเรียนดำน้ำ เนื่องจากมีโรงเรียนสอนดำน้ำมากกว่า 70 แห่ง สามารถพบฉลามวาฬ ฉลามเสือดาว ฉลามหัวบาตร และปลาอื่นๆ อีกมากมายได้ขณะดำน้ำที่เกาะเต่า ประเทศไทย และอีกหนึ่งที่ที่ควรอยู่ใน Bucket List นั้นคือ ‘ชุมพรพินนาเคิล’  แหล่งรวมปลา กุ้ง ปลาไหลขาว และปู โดยวิธีที่ดีที่สุดในการชมสิ่งมีชีวิตใต้น้ำหลากสีสันนี้คือการดำน้ำชมทิวทัศน์ใต้น้ำนั้นเอง!

แหล่งดำน้ำ ยอดนิยมในเกาะเต่าได้แก่ ชุมพรพินนาเคิล, เซาท์เวสต์พินนาเคิล, หินเซล, เกาะฉลาม, หินไวท์, หินกรีน และซากเรือหลวงสัตตะกุต นักดำน้ำมักจะคาดหวังการมองเห็นได้ระยะประมาณ 30 เมตร

ภูเก็ตเป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำยอดนิยมในประเทศไทย! มีแหล่งดำน้ำมากมาย ให้สำรวจด้วยน้ำที่ใสสะอาดและปะการังสีสันสดใส หินมูสัง (Shark Point), กองหินริเชริว (Richelieu Rock), หินแดงและหินเมือง, อนีโมนรีฟ (Anemone Reef) และ เรือคิงครุยส์เซอร์ - หินมูสัง (King Cruiser Wreck) เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย สถานที่เหล่านี้ให้ประสบการณ์อันหลากหลายแก่นักดำน้ำทุกระดับ ตั้งแต่แนวปะการังน้ำตื้นไปจนถึงการดำน้ำลึกที่ยากยิ่งขึ้น

ภูเก็ตเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด รวมถึงปลาเขตร้อน เต่า และฉลามตามแนวปะการัง ในบางช่วงเวลาของปี ยังสามารถพบเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ เช่น กระเบนราหู และฉลามวาฬได้ นักดำน้ำมักจะสามารถมองเห็นได้ที่ความลึกประมาณ 25 ม. ถึง 40 ม.

เกาะพีพีมีชื่อเสียงในด้านการแสดงไฟและปาร์ตี้ริมหาด เกาะพีพี เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องไปไกลเพื่อดูแนวปะการังและฝูงปลา!

เกาะพีพียังมีชื่อเสียงในด้านแนวปะการังที่สวยงามและอ่อนนุ่ม รวมถึงการก่อตัวของหินปูนใต้น้ำ ตลอดจนน้ำทะเลใสดุจคริสตัลและหาดทรายสีขาวด้านบน เกาะบิดะนอก, เกาะบิดะใน, ซากเรือคิงครุยเซอร์, ผาป่ะหล่อง และเกาะดอกไม้ คือสถานที่ดำน้ำที่แนะนำให้ไปเยี่ยมชม! นักดำน้ำมักจะสามารถมองเห็นได้ที่ความลึกประมาณ 10 ม. ถึง 15 ม

เกาะลันตามีแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดในชายฝั่งตะวันตกของประเทศไทย! เกาะลันตาเป็นที่ตั้งของแนวปะการัง ถ้ำ และจุดดำน้ำลึกที่มีสีสันและชีวิตชีวา แหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดบนเกาะลันตา ได้แก่ เกาะห้า หินแดงและหินเมือง เกาะบิดะนอก เกาะบิดะใน และเกาะรอก นักดำน้ำสามารถมองเห็นได้ที่ความลึกประมาณ 15 ม. ถึง 40 ม.

เกาะพะงันเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีปะการังแข็งและแนวปะการังมากมาย ซึ่งมักพบฝูงปลาเขตร้อนหลากสีสัน! เนื่องจากเกาะพะงันอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกล จึงมียอดหินที่จมอยู่ใต้น้ำจำนวนมากที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดสัตว์ทะเลในบริเวณใกล้เคียง

แหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดบนเกาะพะงัน ได้แก่ แนวปะการังแม่หาด หาดสลัด และแนวปะการังหาดยาว เช่นเดียวกับเกาะเต่า นักดำน้ำสามารถมองเห็นได้ที่ความลึกประมาณ 30 เมตร

หมู่เกาะสิมิลันจะมีลักษณะที่แตกต่างจากแหล่งดำน้ำอื่นๆ ตรงที่ตั้งอยู่ในอุทยานทางทะเลที่อยู่นอกทะเลอันดามัน สามารถเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลันได้จากภูเก็ต ระนอง หรือเขาหลัก หมู่เกาะสิมิลันมีวิวใต้น้ำที่หลากหลาย การดำน้ำที่นี้สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ช่องเขาหินลึกไปจนถึงแนวปะการังขนาดเล็ก

แหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของหมู่เกาะสิมิลัน ได้แก่ อีสอ๊อฟอีเดน (East of Eden), หินหัวช้าง (Elephant Head Rock), นอร์ธพอยท์ (North Point), ดีพซิก (Deep Six), โบลเดอร์ซิตี้ (Boulder City),  หินสันฉลาม (Shark Fin Reef) และคริสต์มาสพอยท์ (Christmas Point) นักดำน้ำสามารถมองเห็นได้ที่ความลึกประมาณ 20 ม. ถึง 30 ม.

ประเทศไทยตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นสวรรค์เขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่น่าสนใจ สัตว์ทะเล 4 อันดับแรกที่คุณจะพบเมื่อดำน้ำที่ประเทศไทย:

ฉลามวาฬ หรือที่รู้จักกันในชื่อยักษ์ผู้อ่อนโยนแห่งท้องทะเลอันดามัน! สามารถเติบโตและมีความยาวถึง 12 เมตร  ฉลามวาฬถือเป็นไฮไลท์ของนักดำน้ำ แต่การเผชิญหน้ากับฉลามวาฬเมื่อดำน้ำที่ประเทศไทยนั้น ถือว่าค่อนข้างเป็นไปได้ยาก

การพบเห็นปลากระเบนแมนตาขณะดำน้ำในประเทศไทยถือว่าเป็นเรื่องปกติ มักพบเห็นปลากระเบนแมนตาได้ในบริเวณน้ำตื้น ดังนั้นทั้งนักดำน้ำลึกและนักดำน้ำตื้นที่ไม่มีประสบการณ์ก็มีโอกาสที่จะพบกับปลากระเบนแมนตาได้!

สิ่งมีชีวิตที่น่ารักเหล่านี้ มักพบเห็นได้บ่อยเมื่อดำน้ำในประเทศไทย! เต่าที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดที่คือ เต่าเขียว และเต่ากระ มักพบเห็นได้บริเวณใกล้กับแนวปะการัง

การพบม้าน้ำ มักเป็นภาพที่สวยงามขณะดำน้ำ ม้าน้ำที่พบมากที่สุดในประเทศไทยคือม้าน้ำหางเสือ

ค้นพบประสบการณ์การดำน้ำในส่วนอื่นๆ ของโลก เช่น อินโดนีเซีย! บาหลีมีจุดดำน้ำมากมายที่เหมาะสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ เช่น ปาดังไบและทูลัมเบน หากคุณยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับทักษะการดำน้ำของคุณหรือเพียงต้องการเรียนรู้พื้นฐานการดำน้ำ เราก็มีไว้เพื่อคุณ:

ขอให้สนุกกับการดำน้ำและเดินทางอย่างปลอดภัย!