ในเวลาที่เรารู้สึกเหนื่อยกับชีวิต การได้ออกไปเที่ยวทะเลหรือภูเขาก็นับเป็นวิธีที่ช่วยเยียวยาจิตใจอันห่อเหี่ยวได้เป็นอย่างดี แต่เชื่อไหมว่า ปราสาทไม้หลังหนึ่งก็อาจมอบทั้งแรงบันดาลใจและตอบคำถามหลายข้อในชีวิตได้เช่นกัน ปราสาทแห่งนั้นคงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก ปราสาทสัจธรรม หรือ Sanctuary of Truth สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปะชื่อดังระดับโลก ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างก็อย่างจะมายลโฉมความงดงามของปราสาทไม้แห่งนี้ให้ได้สักครั้งในชีวิต
แม้หลายคนอาจมองว่าศิลปะคือสิ่งที่เข้าใจยากและไม่ต่างอะไรกับยาขม แต่งานศิลปะที่ปราสาทสัจธรรมนั้นก็นับเป็นผลงานที่คุณควรหาโอกาสมาชมให้ได้สักครั้งหนึ่ง
ในวันนี้ Klook จึงขออาสาพาคุณไปดื่มด่ำความอลังการของปราสาทไม้แห่งนี้ พร้อมทั้งจะช่วยถอดรหัสศิลปะสุดลึกล้ำและแนะนำจุดถ่ายรูปสุดปังให้กับคุณอีกด้วย จะน่าสนใจขนาดไหน ตามมาดูกันได้เลย!
ปราสาทสัจธรรม สถาปัตยกรรมแห่งความศรัทธา
ถึงตัวอาคารจะดูคล้ายกับวัด แต่ปราสาทสัจธรรมนั้นถือเป็นพิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลักสุดยิ่งใหญ่ที่ผสมผสานความเชื่อของศาสนาพุทธและฮินดูเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยคุณเล็ก วิริยพันธุ์ ผู้สร้างนั้นต้องการให้งานไม้แกะสลักของปราสาทได้สะท้อนถึงปรัชญาและสัจธรรมที่นำพาโลกและจิตใจไปสู่ความสงบ
การก่อสร้างปราสาทแห่งนี้เป็นการเข้าไม้แบบโบราณที่ไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งการก่อสร้างนั้นก็ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน การเข้าชมปราสาทจึงจำเป็นต้องสวมหมวกกันกระแทกเพื่อความปลอดภัย โดยปราสาทจะมีห้องจัดแสดงทั้งหมด 5 ห้อง แต่ละห้องล้วนสอดแทรกสัจธรรมล้ำลึกให้แก่ผู้เข้าชม ถ้าอยากรู้ว่าสัจธรรมเหล่านั้นคืออะไรบ้างก็ตามมาดูกัน!
คุ้มได้อีก แค่จองบัตรเข้าชมปราสาทสัจธรรมผ่าน Klook
แม้ปราสาทสัจธรรมจะเป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเป็นเวลานาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนไทยหลายคนก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้มาชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้เลยสักครั้ง ในช่วงที่มีการปิดประเทศนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ไปชมความงามของปราสาทสัจธรรมแบบเต็มตา อีกทั้งยังสามารถสนุกไปกับกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ กิจกรรมพายเรือ ได้อีกด้วย
การจองบัตรเข้าชมผ่านช่องทางออนไลน์ถือเป็นตัวช่วยที่จะทำให้คุณท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็คงไม่มีตัวเลือกใดจะดีไปกว่าแอปพลิเคชั่น Klook อีกแล้ว เพราะนอกจากคุณจะสามารถรับบัตรเข้าชมได้อย่างสะดวกแล้ว คุณยังจะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 25% อีกด้วย โดยแต่ละแพ็กเกจจะมีราคาดังนี้
บัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ราคา 500 บาท เด็ก 250 บาท พิเศษ จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 377 บาท เด็ก 184 บาท คลิกที่นี่
บัตรเข้าชม + กิจกรรมพายเรือ ผู้ใหญ่ราคา 750 บาท เด็ก 450 บาท พิเศษ จองผ่าน Klook ได้ในราคาผู้ใหญ่ 613 บาท เด็ก 450 บาท คลิกที่นี่
ห้องที่ 1: ย้อนชมจุดกำเนิดของจักรวาล
เมื่อเดินเข้าไปในตัวปราสาทแล้ว เราขอให้คุณเริ่มต้นการชมที่ห้องที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งทิศตะวันออก (หันหน้าเข้าทะเล) โดยในห้องนี้คุณได้ชมงานไม้แกะสลักรูปเทพดิน น้ำ ลม ไฟ และตรีมูรติ ซึ่งเป็นเทพผู้สร้าง รักษา และทำลาย สื่อถึงธาตุสำคัญทั้ง 4 และการกำเนิดจักรวาลตามความเชื่อของฮินดู
หลังจากที่ชมงานแกะสลักภายในห้องนี้เสร็จแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณเดินออกมานอกอาคารเพื่อถ่ายรูปบริเวณบันไดด้านนอก ซึ่งถือเป็นมุมถ่ายภาพยอดฮิตที่สามารถเห็นความอลังการของปราสาทได้แบบเต็มตานั่นเอง
ห้องที่ 2: ก่อเกิดเป็นมนุษย์
ในห้องที่ 2 นี้จะเป็นการเล่าถึงการสรรค์สร้างสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ โดยจะมีการแกะสลักประติมากรรมพระอาทิตย์ พระจันทร์ และเทพประจำดวงดาวเอาไว้ เพื่อสื่อถึงการเปลี่ยนผ่านของกาลเวลาที่ส่งผลให้มนุษย์มีวิวัฒนาการและมีสติปัญญามากขึ้นพอที่จะรู้ผิดชอบ ทำความดี และหลุดพ้นจากความทุกข์ได้
ห้องที่ 3: ความดีฝากไว้ในโลกา
งานแกะสลักไม้ในห้องที่ 3 นั้นจะเป็นงานแกะสลักรูปพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธมหายาน ซึ่งพระโพธิสัตว์นั้นเป็นตัวแทนของการเพียรทำความดีและเสียสละเพื่อส่วนรวม ถือเป็นการสื่อให้เรายึดมั่นในการทำความดีเฉกเช่นพระโพธิสัตว์นั่นเอง
ห้องที่ 3 นี้เป็นห้องที่คุณจะสามารถเก็บภาพได้มากกว่าห้องอื่น ๆ เนื่องจากไม่มีการก่อสร้างและตั้งนั่งร้านภายในห้องนี้มากนัก คุณจึงสามารถเก็บภาพบริเวณโถงห้องหรือระเบียงทางเดินได้อย่างจุใจ โดยเราขอให้คุณเลือกถ่ายในจังหวะที่ไม่มีคน เพราะจะทำให้ภาพดูสวยและยิ่งใหญ่ขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียว
ห้องที่ 4: แทนคุณบุพการี
หากเปรียบกับห้องอื่นแล้ว งานไม้แกะสลักในห้องที่ 4 นั้นอาจดูไม่ได้ใหญ่โตและวิจิตรมาก แต่สัจธรรมที่ห้องนี้ต้องการนำเสนอนั้นกลับลึกซึ้งกินใจเป็นที่สุด โดยคุณจะได้พบกับประติมากรรมไม้รูปเทพบิดาและเทพมารดา สื่อถึงความกตัญญูและตอบแทนบุญคุณบุพการี ซึ่งเป็นหนึ่งในความดีทมนุษย์ไม่ควรละเลย
โถงกลาง: ธรรมะนำใจสู่ความสงบ
หลังจากที่ชมห้องจัดแสดงทั้งสี่เสร็จสิ้น เราก็ขอแนะนำให้คุณเดินกลับไปทางโถงกลางของตัวปราสาทเพื่อชมบทสรุปของสัจธรรมทั้งหมด ในโถงนี้คุณจะได้พบกับซุ้มประตูขนาดใหญ่ 4 บานและบุษบกที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นการสื่อถึงหลักธรรมะเรื่องอริยสัจ 4 และธรรมะของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือเป็นสัจธรรมหลักในการดำรงชีวิตและการหลุดพ้นจากความทุกข์นั่นเอง
ความงามที่เข้าถึงก้นลึกของหัวใจ
ปราสาทสัจธรรมไม่เพียงแต่เป็นปราสาทไม้สุดตระการตาเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้ยังแฝงไว้ด้วยแง่คิดมากมาย หากจะสรุปสั้น ๆ ถึงคำว่า "สัจธรรม" ของปราสาทแห่งนี้ ก็คงจะสรุปได้ว่า สัจธรรมนั้นก็คือ การที่มนุษย์ต่างถือกำเนิดขึ้นเพื่อเวียนว่ายตายเกิด เราจึงควรหมั่นใช้สติปัญญาและธรรมะในการสร้างความดีและตอบแทนคุณบุพการีเพื่อหลุดให้หลุดพ้นจากความทุกข์นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเราจะพาคุณไปทัวร์ทุกห้องของปราสาทสัจธรรมกันมาแล้ว แต่ที่คุณเห็นนั้นก็เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของปราสาทไม้สุดอลังการนี้เท่านั้น คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ไปเห็นของจริงด้วยตาของคุณเองอีกแล้ว ซึ่งแอปพลิเคชั่น Klook จะสามารถช่วยเติมเต็มความสุขในการท่องเที่ยวของคุณในครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน รีบจองบัตรและไปชมงานศิลปะระดับโลกกันให้เต็มอิ่มกันได้เลย!