ไม่ใช่แค่เที่ยวเกาะ เล่นน้ำหรือโต้คลื่น แต่เชจูมีมากกว่านั้น!
เมื่อพูดถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะเพื่อที่จะพักผ่อนหรือหากิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ ทำ สิ่งแรก ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเดินเล่นชมวิวริมหาดเพื่อสัมผัสทรายขาว น้ำใส หรือจะเป็นการเล่นเซิร์ฟโต้ไปกับคลื่นลูกใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศวิวทะเลที่สวยงาม
แต่กิจกรรมในเกาะเชจูไม่ได้มีแค่นั้น มาให้เกาะเชจูเปลี่ยนมุมมองของการเดินทางท่องเที่ยวเกาะของคุณดีกว่า
เกาะเชจู ประเทศเกาหลี
ที่แห่งนี้ เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกด้วย เกาะเชจูจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด
เกาะเชจูตั้งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ของเกาหลีใต้ขึ้นไปทางใต้สุดของประเทศประมาณ 130 กิโลเมตร เป็น 1ใน 9 จังหวัดของเกาหลี ที่มีพื้นที่ประมาณ 1,846 ตารางกิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แต่เป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในเกาหลี
นอกจากธรรมชาติจะสวยงาม ยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมเพียบ
นอกเหนือจากชายหาดที่สวยบริสุทธิ์ตามธรรมชาติและจุดเล่นกระดานโต้คลื่นแล้ว เกาะเชจูแห่งนี้ยัง เป็นสถานที่ที่มีน้ำตกที่งดงามน่าทึ่ง นอกจากนี้ยังมีกรวยภูเขาไฟ ถ้ำอุโมงค์ลาวา และไร่ชาเขียว
นอกจากบรรดาสิ่งมหัศจรรย์ตามธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมในเมืองที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากเกาหลีใต้แผ่นดินใหญ่อีกด้วย
การท่องเที่ยวในเชจูจะทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมที่มีความน่าสนใจ และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่ควรพลาด
มาสัมผัสทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่สวยน่าทึ่งที่สุดของเกาะ และมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์กับ 15 กิจกรรมที่ต้องห้ามพลาดในเชจูกันเลย
ทัวร์ 15 กิจกรรมที่จะทำให้คุณตกหลุมรัก 'เกาะเชจู'
1. เชจู คามีเลียฮิลล์ (Jeju Camellia Hill)
สวนพฤษศาสตร์ที่สวยงาม ตั้งอยู่ที่เกาะเชจู
Camellia Hill เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก ที่แห่งนี้คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปของดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 500 ชนิด ที่จะมีความหอมสดชื่นตลอดทั้งปี
สำหรับไฮไลท์สำคัญของที่นี่ ก็คือ สวนต้นคามีเลียกว่า 6,000 ต้น และ 500 สายพันธุ์ รวมถึงพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักกันว่ามีดอกใหญ่ที่สุดและบานเร็วที่สุดในโลกด้วย ให้คุณได้ชมทัศนียภาพที่จะมีความสวยงามของต้นคามีเลียและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้แบบจุใจ
ไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่ Camellia Hill แห่งนี้ ยังมีสวนดอกไม้ เส้นทางดอกไม้ป่า เรือนกระจก จุดชมวิว ร้านคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาวจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองดอกไม้สีชมพูไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ดังนั้น Camellia Hill จึงเป็นอีกจุดมุ่งหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่เชจูอย่างแน่นอน
2. อุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน
ฮัลลาซาน ภูเขาไฟที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ใครสายปีนเขาหรือชื่นชอบเส้นทางสำหรับการเดินเขาเพื่อศึกษาความสวยงามของธรรมชาติ ต้องไม่พลาด ภูเขาฮัลลาซานที่แห่งนี้ ภูเขาไฟที่มียอดเขาที่สูงที่สุดในเกาหลี
ภายในอุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน จะมีเส้นทางสำหรับการเดินทางเพื่อศึกษาธรรมชาติทั้งหมด 7 เส้นทางให้สามารถชมความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็จะได้เห็นทัศนียภาพที่แตกต่างกันไป
สำหรับใครที่อยากชมวิวความสวยงามของปล่องภูเขาไฟ ขอแนะนำเส้นทาง Gwaneumsa Trail เป็นเส้นทางที่มีระยะทาง 8.7 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
และอีกหนึ่งเส้นทางแนะนำ คือ เส้นทาง Seongpanak Trail มีระยะทาง 9.6 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง แต่รับรองว่าวิวที่ได้นั้นสวยงาม คุ้มค่าต่อการเดินทางมาแน่นอน
3. การแสดงนันทาโชว์ (NANTA Show)
การแสดงที่ผสมผสานละครตลกเข้ากับศิลปะการทำอาหาร
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผสมผสานละครตลกเข้ากับศิลปะการทำอาหาร?
การแสดงนันทาโชว์ (NANTA Show) มีคำตอบ! การแสดงนันทาโชว์ (NANTA Show) นี้ เป็นโชวที่ขึ้นชื่อว่า เป็นโชว์เก่าแก่ที่มีมายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี เป็นเรื่องล้อเลียนเกี่ยวกับการทำอาหารที่ผิดพลาดในห้องครัวของผู้ทำอาหารมืออาชีพ
ความสนุกของโชว์นี้ คือ คุณจะได้ชมบรรดา “กุ๊ก” ทำงานภายใต้ความกดดันและในขณะเดียวกันก็แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวแบบกายกรรมให้เข้ากับท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านเกาหลีได้อย่างสนุกสนาน
และสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโชว์นี้ก็คือ การแสดงนี้ไม่ใช้ภาษาพูด ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจภาษาเกาหลีก็ชมการแสดงนี้ได้ และรับรองว่าผู้ชมทุกคนจากทุกชาติจะสามารถรับชมการแสดงนี้ได้อย่างสนุกสนานแน่นอน
4. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควา แพลเน็ต เชจู (Aqua Planet Jeju)
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควา แพลเน็ต เชจู (Aqua Planet Jeju) ทุกคนจะได้ดูและถ่ายรูปสัตว์มากกว่า 48,000 ตัว และพืชถึง 500 ชนิด ทุกคนจะรู้สึกราวกับอยู่ก้นบึ้งมหาสมุทรในขณะที่ตื่นตาตื่นใจไปกับสระน้ำในชั้นใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาด 330 ตารางเมตร ที่มีสัตว์น้ำหลากหลายชนิดทั้งน้อยไหญ่ว่ายน้ำอยู่ในนั้น
ที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่ได้สัมผัสกับสัตว์บางชนิดอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแพนกวิ้น ปลาฉลามหรือวาฬ
หากคุณพาเด็กๆ ไปด้วย ก็อย่าพลาดโซน Kids Planet เพื่อให้เด็กๆ ได้เล่นเกมต่างๆ ที่นอกจากจะสนุกแล้วยังให้ความรู้ด้วย
5. สนามแข่งรถกลางแจ้ง วินด์ 1947 แห่งเชจู (Wind 1947 Jeju Extreme Circuit)
สถานที่ท่องเที่ยวแบบเอ็กตรีมที่พลาดไม่ได้
แม้ว่าเชจูแห่งนี้จะขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนที่แสนผ่อนคลายในวันหยุด แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่น่าตื่นเต้นให้ทำในเชจู และหนึ่งในนั้นคือการแข่งรถบนสนามกลางแจ้ง Wind 1947 ที่ตั้งอยู่บนเกาะด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ขนาด 1,947 เมตร ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่ยาวที่สุดในเกาหลีใต้
หลังจากที่คุณได้เลือกเส้นทางและรถแข่งแล้ว คุณกับเพื่อนหนึ่งคนจะได้ประลองความเร็วตามเส้นทางโดยมียอดเขาฮัลลาเป็นฉากหลัง บอกเลยว่าเป็นการแข่งรถที่ฟินสุดๆ
สนามแข่งรถ Wind 1947 นี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเอ็กตรีมที่คุณจะพลาดไม่ได้ นอกจากจะไปเที่ยวแบบชื่นชมธรรมชาติแล้ว ก็อย่าลืมเปลี่ยนบรรยากาศแวะไปเที่ยวแบบเติมความตื่นเต้นที่สนามรถแข่งแห่งนี้กันด้วยนะ
6. โขดหินโอดอลแก (Oedolgae)
ให้คุณได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของโขดหินโอดอลแก โขดหินรูปหญิงสาว
โขดหินโอดอลแก ที่แห่งนี้บอกได้เลยว่า เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพลง Instagram มากที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะเชจูเลยทีเดียว
มีการประมาณการว่าโครงสร้างหินสูง 20 เมตรที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวและโอบล้อมด้วยหมู่ไม้เขียวชอุ่ม แห่งนี้ เป็นโขดหินที่เก่าแก่และก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 1.5 ล้านปีที่แล้ว
ที่นี่มีทางเดินเท้าหลายเส้นทางให้เลือกสำหรับการเดินทางเพื่อขึ้นไปชมความสวยงามของพระอาทิตย์ บางเส้นทางก็สั้นพอที่จะเดินให้ถึงจุดหมายภายใน 1.5 ชั่วโมง และบางเส้นทางอื่นๆ อาจใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้น อย่าลืมกำหนดระยะเวลาการเดินป่าของคุณเพื่อให้มีเวลาชมพระอาทิตย์ตกลับเกาะบัมซอมจากโขดหินโอดอลแกได้แบบจุใจ
7. หมู่บ้านพื้นเมืองเชจู (Jeju Folk Village)
การเดินทางย้อนเวลาได้เกิดขึ้นแล้วที่หมู่บ้านพื้นแห่งนี้!
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่จะพาคุณเดินทางย้อนเวลาเพื่อไปเยือนหมู่บ้านพื้นเมืองเชจูที่มีอายุ 130 ปี พบกับสิ่งประดิษฐ์และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ดั้งเดิมจากราชวงศ์โชซ็อน
ที่หมู่บ้านพื้นนี้ จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญต่อเกาหลีมากๆ แห่งหนึ่งเลยทีเดียว
ในหมู่บ้านแห่งนี้ จะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ หมู่บ้านบนภูเขา (Mountain Village), หมู่บ้านบนเนินเขา (Hill-Country Village), หมู่บ้านประมง (Fishing Village) และหมู่บ้านชาแมน หรือหมู่บ้านหมอผี (Shamanism Village) บอกเลยว่า เป็นหมู่บ้านที่หลากหลายทางวัฒนธรรมมากๆ เลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวจะได้เดินชมบ้านหลายร้อยหลังและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยจริง ๆ เรียนรู้คติชาวบ้านที่น่าหลงใหลของเกาะเชจู และเฝ้าดูบรรดาหมูขนสีดำที่วิ่งไปรอบหมู่บ้าน
8. เชจูเวนิสแลนด์ (Jeju Venice Land)
เดินทางสู่เวนิส แลนด์ ดินแดนเมืองจำลอง
เชจูมีครบทุกสิ่งอย่างแท้จริง รวมถึงประสบการณ์แบบอิตาลีด้วย มุ่งหน้าสู่ เวนิส แลนด์ (Venice Land) เพื่อสัมผัสความรู้สึกราวกับคุณอยู่ในเมืองเวนิสของอิตาลี
ที่นี่มีความใกล้เคียงกับสวนสนุก เพราะมีกิจกรรมให้คุณได้เล่นเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือกอนโดลาผ่านไปตามคลองและสะพานต่างๆ ที่งดงาม พร้อมชมความสวยงามของพืชพรรณและบรรดารูปปั้นที่มีชีวิตชีวาที่ตั้งอยู่ริมน้ำ
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอิตาลี พิพิธภัณฑ์งานศิลปะทำมือและแหล่งช้อปปิ้งเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณได้เพลิดเพลินอยู่ในเมืองจำลองแห่งนี้อีกด้วย
9. พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี (Teddy Bear Museum)
แหล่งช้อปปิ้งของที่ระลึกสุดคิ้วท์
กำลังมองหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับไปอยู่ใช่มั้ย? ไปที่พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีเลย แล้วคุณจะได้ทำตุ๊กตายัดนุ่นในแบบของคุณเอง
ก่อนที่จะออกแบบตุ๊กตา อย่าลืมถ่ายรูปกับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ทำมือซึ่งสวมใส่เครื่องแต่งกายที่น่ารักที่สุดในหลากหลายสไตล์ก่อนนะ
และยิ่งไปกว่านั้น คุณยังจะได้เรียนรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น เนื่องจากตุ๊กตาหมีบางส่วนที่ตั้งอยู่ในการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นตุ๊กตาหมีที่ใช้เพื่อบรรยายถึงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เกาหลีด้วยนะ
10. หาดฮยอพแจและหาดกึมนึง (Hyeopjae & Geumneung Beach)
การนั่งชิวๆ ริมหาด คือสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
การหลบไปพักผ่อนบนเกาะจะไม่สมบูรณ์หากไม่ไปนั่งชิวๆ ที่ชายหาด ซึ่งหาดฮยอพแจเป็นหนึ่งในชายหาดที่ดีที่สุด หาดทรายขาวและน้ำทะเลใสทำให้การว่ายน้ำหรือการเล่นกระดานโต้คลื่นเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่สนุกสนานที่สุดที่ทุกคนควรทำในเชจู
สำหรับหาดกึมนึงที่ห่างจากหาดฮยอพแจเพียงแค่หินขว้าง และเป็นหาดที่สวยงามอย่างน่าทึ่งอีกแห่งหนึ่ง หาดกึมนึงจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการมานั่งริมหาดชิวๆ
อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ที่นี่เป็นหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบและมีนักท่องเที่ยวไม่มาก และที่สำคัญคือสามารถมองเห็นวิวที่ยอดเยี่ยมของเกาะบิยางโดได้อีกด้วย
11. สวนฮัลลิม (Hallim Park)
สวนที่ผสานความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลงตัว
เหตุผลที่ทำให้สวนฮัลลิมเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะเชจูก็คือ ที่นี่ผสมผสานธรรมชาติและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวที่สุด
เมื่อคุณเดินไปโดยรอบสวนที่มีพื้นที่เกือบ 33 เฮกตาร์ คุณจะได้พบกับทุ่งดอกไม้ที่ตั้งอย่างสวยงาม รูปปั้นหิน และเหล่าต้นไม้ที่มีชีวิตชีวา แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของสวนแห่งนี้ คือ ถ้ำซางยองกุลและถ้ำฮยอพแจกูลซึ่งมีอุโมงค์ลาวาและพวกเปลือกหอยที่กลายเป็นฟอสซิล
12. การขี่ม้าบนเกาะเชจู
อยากรู้สึกเหมือนเป็นคนในพื้นที่มั้ย? ไปลองขี่ม้าที่สวนม้าเชจูสิ
มาปลอมตัวเป็นคนในพื้นที่กันสักหน่อย ด้วยกิจกรรมขี่ม้าที่สวนม้า โดยสวนแห่งนี้มีอายุย้อนไปกว่า 600 ปีตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซ็อน
ที่นี่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการขี่ม้าไปรอบๆ และดื่มด่ำกับทัศนียภาพตามธรรมชาติ ในเกาหลี ม้าของเกาะเชจูมีชื่อเสียงในเรื่องคุณลักษณะที่โดดเด่นในด้านความเชื่อง นี่เลยเป็นอีกกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด
13. พิพิธภัณฑ์มีชีวิต (Alive Museum)
อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับกิจกรรมในครอบครัว
หากคุณต้องการสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว พร้อมมุมสวยๆ ที่เหมาะกับการถ่ายรูปมากมาย ก็ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนอีก นอกจากที่พิพิธภัณฑ์มีชีวิต (Alive Museum)
ที่พิพิธภัณฑ์มีชีวิต (Alive Museum) คุณจะได้รู้สึกเหมือนเป็นเลโอนาร์โด ดา วินชี หรือจะออกไปสำรวจป่า แล้วหนีออกจากเรือไททานิกที่เรือกำลังจม หรือจะในขณะที่คุณสำรวจดูพื้นที่ห้าส่วนที่ปรับแต่งตามแนวคิดหลัก ๆ ของพิพิธภัณฑ์ (Optical Illusions, Trick Art, Digital Art, Sculpture Art และ Provence Art)
บอกเลยว่าที่นี่จะเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับงานอาร์ตดังๆ ระดับโลก ใครที่อยากได้กิจกรรมชิวๆ สำหรับพาเด็กๆ มาเดินเล่น ต้องไม่พลาดใส่พิพิธภัณฑ์มีชีวิต (Alive Museum) ไว้ในลิสต์แน่นอน
14. น้ำตกจองบัง(Jeongbang Waterfalls)
ดื่มด่ำทัศนียภาพความความสวยงามของน้ำตกที่สูง 23 เมตร
ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่สวยงามของน้ำตกจองบัง ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ดีที่สุดที่ต้องทำบนเกาะเชจู น้ำตกจองบังเป็นน้ำตกที่สูง 23 เมตร ที่ตกลดหลั่นกันลงมาสู่พื้นดิน
น้ำตกแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าต้นสนสูงชะลูดและก้อนหินสีดำ ซึ่งทำให้เกิดทัศนียภาพที่งดงามเหลือเชื่อ สิ่งที่ทำให้น้ำตกแห่งนี้มีความพิเศษกว่าที่ไหนๆ ก็คือ ที่นี่เป็นน้ำตกแห่งเดียวในเกาหลีใต้ที่น้ำไหลลงสู่ทะเลโดยตรง
15. ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค (O’Sulloc Green Tea Field)
ดื่มด่ำความหอมของชาพร้อมสัมผัสความงามของไร่ชา
กิจกรรมที่มีเอกลักษณ์ที่สุดอย่างหนึ่งบนเกาะเชจู คือ การไปเที่ยวชมไร่ชาเขียวโอซุลล็อค เพื่อประสบการณ์ขั้นสุด คุณต้องไปนั่งดื่มชาริมไร่ชาและสำราญใจกับทิวทัศน์ที่สวยงามและกลิ่นหอมของชา
ยกระดับไปอีกขั้นด้วยการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ชาโอซุลล็อค (O’Sulloc Tea Museum) ที่อยู่ใกล้เคียง ที่นี่ คุณจะได้เห็นบรรดาถ้วยชาและกาน้ำชาที่มีอายุเก่าแก่ถึงยุคราชวงศ์เกาหลีโบราณเลยนะ
ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและธรรมชาติล้ำค่ามากมาย คุณจึงมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำในเชจูอย่างไม่มีเบื่อแน่นอน
ไม่ว่าจะพักผ่อนอย่างผ่อนคลายบนเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้และสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจด้วยคู่มือที่สะดวกง่ายดายฉบับนี้
และที่ปังไปยิ่งกว่านั้นคือเรามีตัวช่วยให้การเที่ยวของคุณง่ายขึ้นและคุ้มมมสุดๆ จาก Klook มาฝาก จะมีอะไรที่คุณไม่ควรพลาดบ้าง ไปดูกันเลย
ส่องดีลดีๆ แพ็กเกจปังๆ จาก Klook
ทัวร์หนึ่งวันในเชจู
ถ้าคุณมีเวลาจำกัด ทัวร์หนึ่งวันในเชจูคือคำตอบ!
คุณมีเวลาจำกัดในช่วงวันหยุดใช่มั้ย?
เข้าร่วม ทัวร์หนึ่งวันในเชจู เพื่อออกไปค้นพบทัศนียภาพที่น่าประทับใจที่สุดของเกาะ เนื่องจากมีเพียงรถประจำทางและแท็กซี่เท่านั้นที่ให้บริการบนเกาะ ทัวร์นี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางไปชมสิ่งต่างๆ ในเชจู!
มุ่งหน้าไปทางใต้เพื่อชมหน้าผาชูซังจอลรี (Jusangjeolli Cliff) ที่ซึ่งคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการก่อตัวของหินในรูปทรงที่แปลกตาและมองดูคลื่นกระทบฝั่ง
จากนั้นเดินตามเส้นทางเดินป่าไปยังน้ำตกชอนเจยอน (Cheonjiyeon Falls) เพื่อชมน้ำสีฟ้าใสดังคริสตัลในบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสีเขียวสดใส
เดินทางต่อไปที่ฝั่งตะวันออกและใช้เวลาสักหน่อยที่ชายหาดวอลจองรี (Woljeongri Beach) ซึ่งมีน้ำสีเขียวมรกตที่ขึ้นชื่อและบรรยากาศอันผ่อนคลาย
ไปต่อไม่หยุดด้วยการไปเยี่ยมชมถ้ำมานจัง (Manjang Cave) ชมหินงอกหินย้อยจากลาวาและอุโมงค์ลาวา
ปิดท้ายวันที่กิจกรรมอัดแน่น ด้วยการปีนขึ้นยอดเขาฮัลลา (Mount Halla) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้
บอกเลยว่าแพ็กเกจเดียว ครบจบคุ้มค่า แบบที่หาไม่ได้ที่ไหนแน่นอน!
จองแพ็กเกจ ทัวร์เที่ยวชมแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในเกาะเชจู (Jeju Island) กับ Klook ไว้ได้เลย
จองบริการเช่ารถส่วนตัวกับ Klook
ให้คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเดินทาง หรือเสียเวลาไปกับหาแท็กซี่หรือรถโดยสาร ด้วยการจองบริการรถเช่าส่วนตัวในเชจู 1 ทัวร์ 9 ชั่วโมงกับ Klook ในราคาพร้อมส่วนลด
คุณสามารถเลือกแพ็กเกจและจำนวนผู้ใช้บริการได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทริปครอบครัว เที่ยวกับแก้งค์เพื่อน หรือเป็นทริปไปคนเดียว คุณก็สามารถจองบริการนี้กับทาง Klook ได้ ง่ายสะดวกผ่านแอปหรือเว็บไซต์ Klook
หรือถ้าหากคุณเป็นคนชอบขับรถ Klook ก็มีบริการ บริการเช่ารถในเกาะเชจู ที่มีรถหลายแบบหลากสไตล์ให้คุณเลือกอีกด้วย
คุณสามารถเลือกขนาดรถและวันที่ต้องการใช้บริการ ได้ด้วยตัวคุณเองแบบง่ายสุดๆ ไปเลยผ่านแอปหรือเว็บไซต์ Klook เพียงเท่านั้น
พร้อมแล้วก็ไปบุกเกาะเชจูกันเลย! ✈️🏝