เที่ยวชมบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในชิราคาวาโกะ!
ชิราคาวาโกะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักในภาคกลางของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงจากบ้านแบบดั้งเดิมที่มีหลังคามุงจากสูงชันและล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันเขียวชอุ่ม ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเสน่ห์ พร้อมบรรยากาศที่เงียบสงบ และเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ที่แห่งนี้จึงคุ้มค่าแก่การมาเที่ยวชม!
คุณสามารถจอง และสัมผัสกับสิ่งที่ดีที่สุด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม บริการรถเช่า ซิมการ์ด และอื่นๆ อีกมากมายบน Klook สมัครตอนนี้เลย! 🧡
รับส่วนลด 10% สำหรับการจองแอปครั้งแรกของคุณเมื่อคุณใช้รหัสโปรโมชั่น <TH10APP> เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข
แม้ว่าการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้อาจจะยากสักหน่อย แต่ยังสามารถเดินทางมายังชิราคาวาโกะได้หลายวิธี Klook จะช่วยแนะนำทริคเกี่ยวกับชิราคาวาโกะในบทความนี้ ตั้งแต่ข้อมูลการเดินทางไปชิราคาวาโกะ วิธีเลือกที่พัก กิจกรรมควรลอง และอื่นๆ อีกมากมาย!
การเดินทางไปชิราคาวาโกะ
1. รถประจำทาง
การเดินทางไปชิราคาวาโกะด้วยรถบัสเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด แต่การเดินทางจะใช้เวลานานกว่าการเดินทางแบบอื่น
หากเดินทางจากโตเกียวต้องเดินทางไปโทยามะก่อน จากนั้นจึงเดินทางต่อโดยรถบัส Nohi ไปยังชิราคาวาโกะ การเดินทางด้วยรถบัสจากโตเกียวไปยังโทยามะอาจใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมง! ค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งแต่ 2,500 ถึง 11,000 เยน ขึ้นอยู่กับบริษัทรถบัสที่คุณเลือกและวันที่ออกเดินทาง มีรถบัสรายวันให้บริการหากคุณเป็นนักเดินทางประเภทที่ชอบชมวิวถนน และมีรถบัสกลางคืนหากคุณต้องการพักผ่อนระหว่างทาง
ในขณะเดียวกันการเดินทางด้วยรถบัสจากโทยามะไปยังชิราคาวาโกะใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมงและมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,800 เยนต่อเที่ยว
หากคุณเดินทางจากโอซาก้าคุณสามารถนั่งรถบัสไปยังคานาซาวะได้ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง หลังจากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัส Nohi หรือรถบัส Hokutetsu ไปยังชิราคาวาโกะ รถบัสให้บริการทุกชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 75 นาที ราคาประมาณ 2,000 เยนต่อเที่ยว
2. รถไฟ
หากคุณต้องการเดินทางโดยรถไฟจากโตเกียวคุณสามารถใช้บัตร JR Pass เพื่อขึ้นรถไฟชินคันเซ็นโฮคุริโกะไปยังเมืองโทยามะได้ จากนั้นจากโทยามะ คุณสามารถเดินทางต่อโดยรถบัส Nohi ไปยังชิราคาวาโกะ โดยปกติแล้วรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปยังโทยามะจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงถึง 3 ชั่วโมง
ในขณะเดียวกันหากคุณออกเดินทางจากโอซาก้าคุณต้องใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษ JR Thunderbird ไปยังคานาซาวะ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง รถไฟขบวนนี้ครอบคลุมอยู่ในบัตร JR Pass สำหรับทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น บัตร JR Pass สำหรับทาคายามะและโฮคุริคุ และบัตร JR Pass สำหรับโฮคุริคุ
3. แพ็คเกจทัวร์
หากคุณไม่ต้องการวุ่นวายกับการวางแผนการเดินทางที่ซับซ้อนไปยังชิราคาวาโกะ Klook แนะนำให้จองทัวร์เมืองทาคายามะและหมู่บ้านชิราคาวะโกะหนึ่งวันจากนาโกย่า!
แพ็คเกจทัวร์บางแพ็คเกจรวมอาหารกลางวัน บริการรับส่งไป-กลับ และไกด์นำเที่ยวมืออาชีพ นอกเหนือจากตัวเลือกทัวร์วันเดียวแล้ว ยังมีตัวเลือกทัวร์อื่นๆ เช่น 2 วันไปชิราคาวาโกะ ทาคายามะ และคานาซาว่าจากนาโกย่าหรือโอซาก้า เพียงค้นหาทัวร์ชิราคาวาโกะบน Klook เพื่อค้นหาทัวร์ที่เหมาะกับความต้องการในการเดินทางของคุณ
ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการเที่ยวชมชิราคาวาโกะ
เช่นเดียวกับสถานที่อื่นๆ ในญี่ปุ่น ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของชิราคาวาโกะมีวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันมากตลอดทั้งสี่ฤดูกาล ชิราคาวาโกะเป็นที่นิยมมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากคุณสามารถมองเห็นหิมะสีขาวหนาปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้าน เหมือนได้ไปเที่ยวพักผ่อนในดินแดนที่เต็มไปด้วยหิมะ!
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะมาเยือนชิราคาวาโกะในฤดูกาลใดก็ตาม สถานที่แห่งนี้ก็จะยังคงมีความงามที่ไม่ธรรมดา! คุณสามารถมาในฤดูใบไม้ผลิเพื่อชมความงามของดอกซากุระที่บานสะพรั่ง ในฤดูร้อนที่มีแสงแดดสดใส ชิราคาวาโกะจะดูเขียวขจีเนื่องจากมีทิวทัศน์ธรรมชาติที่เขียวชอุ่มอยู่รอบๆ ในฤดูใบไม้ร่วงคุณจะได้เห็นหมู่บ้านแห่งนี้ตกแต่งด้วยใบไม้สีเหลืองหรือสีแดงที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก
ฤดูหนาว: เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ผลิ: เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
ฤดูร้อน: เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง: เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน
สถานที่ท่องเที่ยวในชิราคาวาโกะ
1. หมู่บ้านโอกิมาจิ (Ogimachi Village)
เนื่องจากเป็นสถานที่ยอดนิยมในชิราคาวาโกะ หมู่บ้านโอกิมาจิจึงมี บ้านสไตล์ กัสโช ที่มีเสน่ห์มากที่สุดในพื้นที่ บ้านสไตล์ กัสโช เหล่านี้ ดูโดดเด่นมากด้วยหลังคามุงจากที่สูงชัน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้านเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่าบ้านสไตล์ “มืออธิษฐาน” เพราะรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับรูปทรงมืออธิษฐาน
คุณสามารถพบบ้านเหล่านี้ได้มากกว่า 110 หลังในหมู่บ้านโอกิมาจิ และบางหลังมีอายุมากกว่า 250 ปี! หากคุณต้องการเพิ่มประสบการณ์ในชิราคาวาโกะของคุณ คุณสามารถพักค้างคืนในบ้านหลังที่ถูกดัดแปลงเป็นที่พักได้
2. จุดชมวิวชิโรยามะ (Shiroyama Observation Deck)
เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของ บ้านสไตล์กัสโชอันเป็นเอกลักษณ์ของชิราคาวาโกะจากวิวด้านบน ขณะที่คุณเดินไปยังจุดชมวิวชิโรยามะ ใช้เวลาเดินเพียง 15 นาทีจากหมู่บ้านหลัก การเดินทางไปที่นั่นค่อนข้างง่ายโดยลัดเลาะไปตามทางลาดที่ไม่ชันมากนัก
คุณสามารถไปที่จุดชมวิวโดยใช้รถบัสรับ-ส่งในราคา 200 เยนต่อเที่ยว หมายเหตุสำคัญ: ในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกหนัก เส้นทางเดินอาจถูกปิด
3. สะพานเดไอบาชิ (Deai Bashi Bridge)
สะพานเดไอบาชิไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นประตูทางเข้าหลักของหมู่บ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของชิราคาวาโกะ แม่น้ำ และภูเขาโดยรอบได้!
หากคุณมาเที่ยวชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยดอกซากุระบาน ในขณะเดียวกันในฤดูกาลอื่นๆ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของใบไม้ร่วงหรือหิมะได้ ควรระมัดระวังในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากสะพานจะมีความลื่นเนื่องจากหิมะ
4. ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัน ชินโต (Shirakawa Hachiman Shinto Shrine)
ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอกิมาจิ หลายๆ คนอาจไม่ได้สนใจศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัน ชินโตมากนัก แต่อย่างไรก็ตามอย่าแปลกใจหากคุณพบแฟนอนิเมะจำนวนมากมาเยี่ยมชมที่นี่ เพราะวัดแห่งนี้และชิราคาวาโกะเคยปรากฏในอนิเมะเรื่อง Higurashi no Naku Koro ni
นอกจากนี้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของชิราคาวาโกะ และให้บริการชาวบ้านในท้องถิ่นมาเป็นเวลานาน อย่าลืมแวะมาเพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบ และถ่ายรูปเช็คอิน!
เรื่องน่ารู้: ผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัน ชินโต ทุกเดือนกันยายนถึงตุลาคมเพื่อร่วมเทศกาลโดบุโรคุ!
5. บ้านคันดะ (Kanda House)
บ้านคันดะที่ซ่อนอยู่ท่ามกลาง บ้านสไตล์ กัสโช หลังอื่นๆ ในหมู่บ้าน ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถชมวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในบ้านเหล่านี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน!
ค่าเข้าชม 300 เยน คุณสามารถเยี่ยมชมบ้านหลังนี้และเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่นในอดีต ใช้เวลาในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมชาอุ่นๆ ที่เสิร์ฟในบ้านแบบดั้งเดิมหลังนี้ และชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่บ้านจากชั้นบนสุด!
อาหารที่แนะนำในชิราคาวาโกะ
เมื่อเที่ยวชมชิราคาวาโกะแล้ว คุณจะเห็นแผงขายอาหารมากมายกระจายอยู่ทั่วหมู่บ้าน การขายขนมท้องถิ่นต่างๆ การลองชิมอาหารเหล่านี้ เป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งจะเพิ่มประสบการณ์ของคุณในการเที่ยวชมชิราคาวาโกะ
1.โกเฮดังโงะ/โกเฮโมจิ (Gohei dango/Gohei mochi)
อาหารจานพิเศษอย่างหนึ่งของชิราคาวาโกะคือ โกเฮโมจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อโกเฮดังโงะ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าโมจิเป็นขนมหวาน แต่จริงๆ แล้วโกเฮดังโงะนั้นเป็นของว่างรสเผ็ดที่ทำจากข้าวบดเคลือบมิโซะบด!
2.เนื้อฮิดะ (Hida beef)
เนื้อที่สามารถละลายในปาก ไม่จำเป็นต้องสงสัยถึงความอร่อยของเนื้อฮิดะเลย นี่เป็นหนึ่งในเนื้อวากิวที่ดีที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจที่เนื้อฮิดะจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศของญี่ปุ่น คุณสามารถเพลิดเพลินในรูปแบบของสเต็กหรือทำเป็นของว่างเช่นโอนิกิริเนื้อ ลูกชิ้นเนื้อ หรือโครเกต์!
3.โทจิโมจิ (เกาลัดญี่ปุ่น) (Tochi Mochi (Japanese horse chestnut) )
อาหารท้องถิ่นนี้ใช้เวลาหลายวันและหลายขั้นตอนในการผลิต โทจิโมจิเป็นหนึ่งในอาหารที่คุณต้องลองเมื่อมาถึงที่ชิราคาวาโกะ ทำจากเกาลัดของญี่ปุ่นที่พบในหมู่บ้านนี้และในภูมิภาคฮิดะ การเตรียมโทจิถือเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการทำอาหารจานนี้ เพราะเป็นขั้นตอนในการขจัดรสชาติอันไม่พึงประสงค์ของถั่ว
เทศกาลต่างๆ ในชิราคาวาโกะ
1. การประดับไฟฤดูหนาว (Winter Light-Up)
สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่ชิราคาวาโกะด้วยการชม งาน Winter Illumination สุดเอ็กซ์คลูซีฟ! กิจกรรมนี้จัดขึ้นปีละไม่กี่ครั้งในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นคุณต้องเผื่อเวลาไว้หากคุณไปเที่ยวพักผ่อนที่ญี่ปุ่นในฤดูหนาว
ระหว่างกิจกรรมนี้ คุณจะได้เห็นว่าหมู่บ้านนี้กลายเป็นเมืองแห่งเทพนิยาย คุณสามารถชมแสงไฟระยิบระยับท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะหนาในหมู่บ้านแบบดั้งเดิมแห่งนี้
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณวางแผนการเดินทางสำหรับงานนี้ล่วงหน้าเพราะคุณต้องจองทัวร์ล่วงหน้าก่อนที่จะจัดงานนี้ เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าหมู่บ้านในงานนี้
2. เทศกาลโดบุโรคุมัตสึริ (Doburoku Matsuri Festival)
ตั้งแต่ต้นถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี จะมีการจัดมัตสึริโดบุโรคุ (สาเกชนิดพิเศษ) นี่เป็นงานที่ทำให้หมู่บ้านชิราคาวาโกะมีชีวิตชีวา ตลอดทั้งงานชาวบ้านจะมารวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ขอพรเทพเจ้าแห่งขุนเขาในท้องถิ่นให้พืชผลอุดมสมบูรณ์และขอบคุณพระเจ้าที่ปกป้องหมู่บ้าน
ในช่วงโดบุโรคุมัตสึริ คุณสามารถชมชาวบ้านในท้องถิ่นทำขบวนแห่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าได้ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงเทศกาลนี้ ได้แก่ การเชิดสิงโต เพลงพื้นบ้าน การเต้นรำ และอื่นๆ อีกมากมาย! พร้อมเสิร์ฟสาเกท้องถิ่น นับได้ว่านี่เป็นการจัดงานที่มีชีวิตชีวาที่สุด
สถานที่พักรอบๆ ชิราคาวาโกะ
สำหรับประสบการณ์การเข้าพักที่ไม่เหมือนใคร คุณสามารถเลือกที่พักรอบๆ หมู่บ้านโอกิมาจิได้ บ้านไร่ กัสโชสึคุริ มักจะดำเนินการโดยครอบครัวในท้องถิ่น ดังนั้นคุณจึงสามารถสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักที่เป็นส่วนตัวในบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
บ้านแบบดั้งเดิมหลังนี้ คุณจะได้พบกับพื้นเสื่อทาทามิ และโต๊ะแบบเตี้ย อีกทั้งในเวลากลางคืนจะมีฟูกเตรียมไว้ให้คุณนอน! ซึ่งยังคงเสน่ห์แบบชนบท แต่คุณสามารถพบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยรอบๆ บ้านได้อีกด้วย
เนื่องจากที่พักที่นี่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ การจองที่พักอาจเป็นเรื่องยากมากเว้นแต่คุณจะทำการจองล่วงหน้ามาเป็นอย่างดี ดังนั้นหลายๆ คนจึงเลือกที่จะไปเที่ยวชิราคาวาโกะแบบไปเช้าเย็นกลับ แล้วพักค้างคืนในเมืองใกล้เคียง เช่น โกคายามะ ทาคายามะ คานาซาว่า และนาโกย่า
ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤 สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa