การเดินทางภายในยุโรปด้วยรถไฟ
เครดิตภาพ @beautifuladieu จาก Instagram
วางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มทวีปยุโรปทั้งที แน่นอนว่าต้องวางแผนเที่ยวให้คุ้มเลยใช่ไหมละ? โดยเฉพาะการเดินทางที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศภายในยุโรปที่ง่ายดายด้วยรถไฟโดยสารยุโรป สำหรับใครที่มีแพลนวางแผนจะท่องเที่ยวยุโรปเป็นครั้งแรก อาจจะค่อนข้างเป็นกังวลในเรื่องการเดินทาง เพราะในบางประเทศของยุโรปนั้นมีรถไฟโดยสารมากมายหลากหลายสาย
การเดินทางภายในยุโรปด้วยเครื่องบิน vs รถไฟ vs และรถโดยสาร
ถ้าหากคุณวางแผนจะท่องเที่ยวในหลาย ๆ ประเทศในยุโรป ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีตัวเลือกให้คุณเดินทางได้หลากหลาย อาทิเช่น การเดินทางจากเมืองลอนดอนไปยังปารีส มีรายละเอียดดังนี้
การเดินทางด้วยเครื่องบิน อย่างที่เราทราบกันว่าเป็นวิธีที่รวดเร็ว และใช้เวลาในการเดินทางน้อยที่สุด ถ้าหากเปรียบเทียบกับการเดินทางประเภทอื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้ว การเดินทางด้วยเครื่องบิน นั้นอาจจะต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางไปยังสนามบิน, การเช็คอิน, การตรวจสอบความปลอดภัยก่อนการขึ้นเครื่องบิน หรือแม้แต่ขั้นตอนเจ้าหน้าที่ผ่านคนเข้าเมือง ล้วนแล้วแต่ต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมงอีกด้วย
ยังไม่รวมถึงข้อกำหนดต่าง ๆ ของน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระที่อนุญาตให้คุณติดตัวขึ้นเครื่องบิน หรือแม้แต่ของใช้ที่มีส่วนผสมของน้ำ ของเหลว ก็ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นไปกับคุณได้ และหลังจากที่เดินทางถึงสนามบินปลายทางเรียบร้อยแล้ว คุณยังต้องรอกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกระบวนการเข้าเมือง และยังอาจต้องนั่งรถไฟ หรือรถบัสโดยสารเข้าเมืองอีกด้วย
การเดินทางด้วยรถบัสโดยสาร นั้นอาจจะเป็นตัวเลือกที่ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดและใช้เวลาในการเดินทางยาวนานที่สุด และบางทียังไม่สามารถกำหนดเวลาการเดินทางได้อย่างแน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในขณะเดินทางอีกด้วย ที่นั่งภายในรถบัสโดยสารนั้นยังค่อนข้างแคบ ซึ่งการโดยสารด้วยรถบัสโดยสารนั้น ส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาตให้คุณนำอาหารหรือเครื่องดื่มติดตัวขึ้นไปภายในรถบัส
เครดิตภาพ: @beautifuladieu on Instagram
การเดินทางด้วยรถไฟ นั้นอาจจะเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด เพราะอย่างน้อย คุณสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้โดยตรง ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถประหยัดเวลาในการเดินทางเข้าเมืองและประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะถ้าหากเปรียบเทียบกับการเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งคุณอาจจะต้องเสียค่ารถไฟหรือแท็กซี่จากในเมือง เพื่อเดินทางไปยังสนามบิน เป็นต้น
อีกทั้งคุณยังสามารถนำสัมภาระหรือของใช้จำพวกแชมพู หรือของเหลว ใส่กระเป๋าเดินทางของคุณได้อย่างไม่จำกัด และไม่ต้องกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย ภายในรถไฟยังออกแบบที่นั่งให้มีที่วางขาได้กว้าง ไม่อึดอัดเหมือนที่นั่งของรถบัสโดยสาร ซึ่งการโดยทางด้วยรถไฟนั้น คุณสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถมั่นใจในระยะเวลาของการเดินทางได้อีกด้วย
บัตรโดยสารรถไฟเหมาจ่าย VS บัตรโดยสารรถไฟเที่ยวเดียว
เครดิตภาพ @yk on Instagram
ให้คุณตัดสินใจระหว่างบัตรโดยสารรถไฟเหมาจ่าย (Rail Passes) และบัตรรถไฟแบบเที่ยวเดียวได้ง่ายขึ้น เพียง:
1. จำนวนประเทศที่คุณต้องการจะเดินทางด้วยรถไฟ
ถ้าหากคุณต้องการเดินทางหลาย ๆ เมืองภายใน 1 ประเทศ การเลือกซื้อบัตรรถไฟแบบภายในประเทศหรือ Country Specific Rail Pass ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณวางแผนจะท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 5 วัน บัตร Swiss Travel Pass (แบบใช้ติดต่อกัน 3, 4, 8 หรือ 15 วัน) จะคุ้มค่ากว่าการซื้อบัตรโดยสารรถไฟยุโรป
แต่ถ้าคุณต้องการเดินทางหลายประเทศในยุโรป บัตรโดยสารรถไฟยุโรป ก็จะตอบโจทย์ของคุณอย่างมาก เพราะคุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้มากถึง 31 ประเทศทั่วยุโรป และในบางประเทศนั้น คุณยังสามารถเดินทางด้วยรถบัสโดยสารภายในประเทศ รวมไปถึงเรือโดยสารอีกด้วย สามารถตรวจสอบรายชื่อรถไฟของประเทศต่าง ๆ ที่รองรับบัตรโดยสารรถไฟยุโรปได้ที่ รวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับบัตรโดยสารรถไฟในยุโรป EURAIL PASS
และถ้าหากคุณวางแผนการเดินทางที่จะท่องเที่ยวแค่ 3-4 ประเทศ หรือเมืองละก็ บัตรรถไฟโดยสารประเภท Point to Pont นั้นจะเหมาะและคุ้มค่ากับแผนการเดินทางของคุณมากกว่าการซื้อบัตรโดยสารแบบเหมารวมหรือ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป
2. จำนวนวันที่คุณคาดว่าจะเดินทางด้วยรถไฟ
สำหรับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนก็เลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวไปในหลาย ๆ เมืองในยุโรปในทริปเดียว ตัวอย่างถ้าหากแผนการเดินทางท่องเที่ยวของคุณมีระยะเวลา 3 สัปดาห์ แต่คุณจำเป็นต้องใช้การเดินทางผ่านทางรถไฟทุก ๆ 4 วันเท่านั้น ซึ่งถ้าคำนวณแล้ว อาจจะต้องไม่คุ้มเท่าไหร่ถ้าเลือกซื้อเป็นบัตรโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่าย ซึ่งบัตรโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่ายนั้น อาจจะเหมาะสำหรับนักเดินทางที่ทำการเดินทางด้วยรถไฟภายในทุก ๆ 2 วัน ถึงจะคุ้มกว่า
นอกจากนี้ยังมีบัตรโดยสารรถไฟยุโรปแบบยืดหยุ่น ซึ่งสามารถให้คุณเดินทางได้อย่างไร้ขีดจำกัด ภายในระยะเวลาการเดินทางท่องเที่ยว 1-2 เดือน ซึ่งการนับการใช้งานนั้นจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่คุณได้ทำการใช้งานบัตรรถไฟโดยสาร และหลังจากนั้น คุณยังสามารถใช้งานได้ทุก ๆ 3/5/7/10/15 วัน หรือได้ตลอดทุกวันภายในระยะเวลา 1 เดือน
3. แบบยืดหยุ่น vs แบบระบุวันเดินทาง
ถ้าหากคุณมองหาความยืดหยุ่นในระหว่างการเดินทาง คุณสามารถเลือกบัตรโดยสารรถไฟประเภทเหมาหรือแบบไม่จำกัดการใช้งาน หรือถ้าหากคุณได้ทำการวางแผนการเดินทางและระบุวันเดินทางได้อย่างแน่นอนแล้ว คุณสามารถเลือกบัตรโดยสารรถไฟที่เป็นแบบระบุวันหรือเที่ยวเดียว (single trip) และทำการซื้อล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลด หรือได้บัตรโดยสารรถไฟที่มีราคาถูกกว่าในช่วงเวลาอื่น ๆ
โดยคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคุณได้มากยิ่งขึ้น ถ้าหากคุณเลือกซื้อบัตรโดยสารรถไฟประเภท Point to point แบบล่วงหน้า แต่ข้อเสียของบัตรโดยสารประเภทนี้ นั้นคือ คุณไม่สามารถแก้ไขวันเดินทางหรือทำการรีฟันได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการวางแผนการเดินทางแบบเจาะจงวัน และไม่สามารถยืดหยุ่นได้เท่านั้น
4. การจองที่นั่ง
สำหรับรถไฟในบางสายนั้น อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถ้าหากเป็นรถไฟโดยสารที่ต้องจองหรือระบุที่นั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถไฟโดยสารความเร็วสูงภายในประเทศ, รถไฟโดยสารระหว่างประเทศ หรือรถไฟโดยสารเวลากลางคืน ซึ่งเมื่อคุณทำการสั่งซื้อ บัตรโดยสารรถไฟยุโรป ผ่าน Klook คุณสามารถระบุที่นั่งที่คุณต้องการได้ทันที
หรือถ้าหากคุณเลือกที่จะสั่งซื้อบัตรโดยสารรถไฟแบบ Point to Pont คุณก็สามารถทำการเลือกหรือระบุที่นั่งได้เช่นกัน โดยคุณไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่นั่งในระหว่างการเดินทางที่ยาวนานของคุณ
จองก่อน ประหยัดกว่า
ถ้าหากคุณได้วางแผนการเดินทางไว้อย่างแน่วแน่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมแล้ว เราแนะนำให้คุณซื้อบัตรโดยสารรถไฟยุโรปล่วงหน้าไว้เลยจะดีกว่า เพราะยิ่งคุณทำการซื้อบัตรได้ล่วงหน้ามากแค่ไหน คุณก็จะได้บัตรโดยสารรถไฟที่มีราคาถูกมากเท่านั้น และนี้ก็คือตารางเปรียบเทียบราคาบัตรโดยสารรถไฟยุโรปจากกรุงลอนดอน ไปยังปารีส ซึ่งราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง
การจองบัตรโดยสารรถไฟยุโรป ผ่าน Klook
เครดิตภาพ @yk on Instagram
จองบัตรโดยสารรถไฟยุโรป ผ่านทาง Klook เพื่อความสะดวกสบายด้วยบัตรโดยสารอิเลคทรอนิกส์หรือ E- tickets ซึ่งคุณสามารถทำการพิมพ์บัตรโดยสารได้จากที่บ้านของคุณ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและตัดความกังวลในการเดินทางไปรับบัตรโดยสารโดยตรงที่เคาน์เตอร์ทุกครั้ง
ให้คุณประหยัดไปได้อีกเมื่อเที่ยวยุโรปกับ Klook เลยตอนนี้!
เที่ยวยุโรปสุดคุ้มกับ 2 โปร โดนใจคุณ จะไปเดี่ยวหรือกลุ่มก็คุ้มสุด ๆ
รับส่วนลด 890 บาท
เมื่อจองกิจกรรมสำหรับท่องเที่ยวภายในยุโรปขั้นต่ำเพียง 9,000 บาท
เพียงใช้โค้ด KLOOKGOWEST
รับส่วนลด 1,800 บาท
เมื่อจองกิจกรรมสำหรับท่องเที่ยวภายในยุโรปขั้นต่ำเพียง 15,000 บาท
เพียงใช้โค้ดKLOOKNOWAIT
หมดเขต 31 สิงหาคม 2562 นี้