ค้นพบสุดยอดอาหารในสิงคโปร์ด้วยคู่มือจาก Klook
เหล่าบรรดานักชิมทั้งหลายฟังทางนี้ เมืองสิงโตทะเลกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบอย่างคุณจะได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งเพื่อมาตะลุยที่เที่ยวชื่อดัง มาลิ้มลองอาหารสิงคโปร์ บอกเลยว่ามีเยอะมาก! ตั้งแต่ศูนย์หาบเร่ไปจนถึงย่านฮิปสเตอร์ คุณจะได้ลองอาหารสตรีทฟู้ดของสิงคโปร์แบบจุกๆ แน่นอน
แต่ในสิงคโปร์ ร้านอาหารที่มีจำนวนมากมายให้เลือก จึงเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วควรจะเริ่มจากตรงไหนดี
ดังนั้น เราจึงจัดทำสุดยอดคู่มือแนะนำอาหารสิงคโปร์ที่จะพาคุณไปผจญภัยกับการกิน 48 ชั่วโมงทั่วเมือง ทนหิวกันไว้ก่อน จะได้ไปปลดปล่อยความอยากอาหารกับทริปตามล่าของกินในร้านอร่อยที่สิงคโปร์กันทีเดียว
ใช้ซิม 5G เปิด Map เดินทางไปร้านไหนก็ไม่หลง
ร้านอร่อยที่เราจะลิสต์ให้คุณในบทความนี้นั้น อาจมีตำแหน่งที่ตั้งกระจัดกระจาย อาจอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลกันได้ ยิ่งเป็นมือใหม่ที่เพิ่งมาเที่ยวสิงคโปร์ ยิ่งมีความกังวลว่าจะหลงทางรึเปล่าใช่ไหมล่ะ?
แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถเปิด Map ดูตลอดการเดินทางได้แบบ Real Time ทุกที่ ทุกเวลา เพียงใช้ 5G/4G SIM for Singapore by Singtel ที่นอกจากจะให้อินเตอร์เน็ตเร็วแรงทะลุมิตแล้ว ยังให้ค่าโทรในประเทศ 500 นาที และค่าโทรระหว่างประเทศ 30 นาทีเชียวนะ
ใช้ซิมนี้ ชีวิตดีกว่ายังไง?
ซิมนี้รับข้อมูล 5G/4G ที่รับประกันและเชื่อถือได้จาก Singtel ผู้ให้บริการเครือข่ายยอดนิยมของประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็น 2-in-1 SIM (4G 100GB 28 วัน) - เพลิดเพลินกับข้อมูล 100GB และการขนส่งด้วยซิมเดียว! รับสิทธิประโยชน์มูลค่า $38 และอีกมากมาย รวมถึงมูลค่าที่เก็บไว้ของ EZ-Link มูลค่า $3 สำหรับการโดยสารรถไฟ/รถบัส
วิธีซื้อก็ง๊ายง่าย ไม่ต้องปวดหัววิ่งหาซื้อเอง แค่ช้อปผ่าน Klook ด้านล่าง แล้วไปรับที่ Changi Airport ได้เลย
วันที่ 1
จูเชียต และ กาตง
ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใดที่ว่าสิงคโปร์เป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไว้ด้วยกัน แต่สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นก็คือ มรดกของชาวเปอรานากัน ทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์ของชุมชนที่เกิดในช่องแคบนี้เพิ่มขึ้น ผ่านความภาคภูมิใจและความสุขของพวกเขา นั่นก็คือ อาหารเปอรานากัน
328 Katong Laksa
เริ่มต้นด้วยอาหารมื้อใหญ่จาก 328 Katong Laksa ร้านนี้เป็นร้านโปรดของคนท้องถิ่นบนถนน East Coast ที่นี่เสิร์ฟอาหารเพียง 2 อย่างเท่านั้น คือ ติ่มซำ และที่คุณพอจะเดาได้อีกอย่าง ลักซา เมนูขายดีของร้าน ซุปข้นที่ทำมาจากมะพร้าวเป็นส่วนประกอบหลักที่ชูรสชาติที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นไม่เหมือนใคร ซึ่งหากคุณได้ลิ้มลองแล้วต้องอยากสั่งเพิ่มอีก ใครอยากลองชิมก็แวะไปได้เลย ร้านเปิดทุกวัน
Alibabar
หรือจะเลือกรับประทานขนมปังปิ้งคายาแบบคลาสสิกและไข่ลวกเป็นอาหารเช้าที่ Alibabar ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีกาแฟดริปสไตล์ท้องถิ่น ไมโลไดโนเสาร์ และอาหารเช้าแบบสิงคโปร์อื่นๆ เรียกได้ว่าพร้อมดับความหิวโหยของคุณแบบ 100%
เวลาทำการ
- อาทิตย์, จันทร์-พฤหัสบดี
- 08:30-00:30 น. (ออร์เดอร์สุดท้าย 00:00 น.)
- 08:30-01:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 01:00 น., วันก่อนวันหยุด, วันศุกร์และวันเสาร์)
Kim Choo Kueh Chang
ไหนๆ ก็ไปถึงที่นั่นแล้ว อย่าลืมแวะไปที่ร้านอาหาร Kim Choo Kueh Chang เพื่อลิ้มลองอาหารเปอรานากันด้วยนะ พบกับอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นของคาวแสนอร่อยไปจนถึงของหวานแสนชื่นใจ โดย Mr. Chang หรือคุณจางจะพาคุณเดินชมและแนะนำสินค้าต่างๆ ภายในร้านของเขาด้วยตัวเอง
ร้านนี้ยังเป็นร้านที่คนในพื้นส่วนใหญ่บอกว่าชื่นชอบบะจ่าง ขนมชั้นสีสันสดใส และขนมต้มที่นุ่มหนึบมาก ๆ ดังนั้นหากคุณกำลังหาอาหารเป็นของฝาก ต้องมองหาร้าน Kim Choo Kueh Chang
การเดินทาง
รถบัสประจำทาง: หมายเลข 16 หรือ 33 Paya Lebar MRT station (EW 8/ CC 9) และต่อรถบัสประจำทางหมายเลข 43, 135 หรือ 197 ลงที่ I12 KATONG
เวลาทำการ
10:00-21:00 น. (เวลาสั่งอาหารรอบสุดท้าย: 20:45 น.)
ตรอกฮาจิ
แม้ว่าตรอกฮาจิจะตั้งอยู่ในละแวกของอาหารมาเลย์ แต่เมื่อมองไปที่ย่านร้านกาแฟสุดอินเทรนด์ของตรอกแล้ว ก็จะเห็นได้ชัดว่าตรอกที่สิงคโปร์แห่งนี้มีแนวทางเรื่องอาหารที่แตกต่างไปจากส่วนอื่น ๆ ของย่าน Kampong Glam เลยทีเดียว
แม้จะแตกต่าง แต่ก็มีร้านอร่อยน่าลองให้เลือกหลากหลาย บอกเลยว่าเป็นอีกที่ที่ต้องแวะเติมอาหารลงกระเพาะ และถ่ายรูปอาหารจากย่านฮิปสเตอร์นี้ไว้ลงในอินสตาแกรมของคุณไปพร้อมๆ กัน
Good Luck Beerhouse
เริ่มต้นกันที่ร้านแรกที่อยู่ในตรอกฮัจญีหรือตรอกฮาจิเลน (Haji Lane) ใกล้ฝั่งด้านถนนบีช (Beach Road) ที่นี่คือร้านคราฟต์เบียร์และติ่มซำรสชาติเยี่ยม บอกเลยว่ากินคู่กันนี่รสชาติเข้ากันเป็นอย่างดีแบบไม่น่าเชื่อ!
คราฟต์เบียร์ของที่นี่จะมีทั้งของต่างประเทศและแบรนด์สิงคโปร์ เบียร์กระป๋องและเบียร์ขวดก็ให้เลือกหลากหลาย และที่ชอบคือการกินเบียร์คู่กับติ่มซำร้อน ๆ ยังให้รสชาติที่เข้ากันได้ดีอีกด้วย
Madd Pizza
อีกหนึ่งร้านที่พลาดไม่ได้เลยคือต้องมาลองชิมพิซซ่าและพาสต้าสไตล์โรมันจาก Madd Pizza ร้านนี้จะอบพิซซ่าร้อน ๆ รสชาติดี เสิร์ฟให้กินแบบชีสเยิ้ม ๆ ฉ่ำ ๆ ยิ่งนั่งกินในร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ยิ่งทำให้ฟินและอดใจไม่ไหวที่จะถ่ายรูปลงโซเชียล!
The Mad Sailors
หากคุณไปเที่ยวกับเด็กๆ หรือคนที่ยังมีใจเป็นเด็ก ฟิชแอนด์ชิปส์ของ The Mad Sailors และบัตเตอร์เบียร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็อร่อยและเป็นอาหารฮาลาลด้วย
นอกเหนือจากการเข้าร้านอาหารเพื่อโหลดคาร์บเข้าร่างกายแล้ว ตรอกฮาจิยังมีสถานที่มากมายให้เที่ยวชมแบบเพลินๆ ดังนั้นอย่าพลาดกิจกรรมสนุกๆ และไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในตรอกฮาจิ
Klook's Guide: เวิร์กชอปทำเครื่องหนังโดย Crafune ในตรอกฮาจิ
ถ่ายทอดความฮิปสเตอร์ในตัวคุณในเวิร์คช็อปทำเครื่องหนังที่ Haji Lane ถนนมรดกทางวัฒนธรรมของสิงคโปร์ พร้อมสัมผัสกับความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์เครื่องหนังและผลิตภัณฑ์เครื่องหนังของคุณเองตั้งแต่เริ่มต้น
เท่ยิ่งกว่าเมื่อคุณอวดสไตล์ของคุณได้ด้วยการปั๊มชื่อย่อ วันที่ หรือวลีส่วนตัวบนหนัง และคุณยังนำผลิตภัณฑ์เครื่องหนังฟอกคุณภาพสูงชิ้นใหม่กลับบ้านและนำไปใช้งานต่อได้อีกหลายปี
การเดินทาง
โดยสารรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Bugis ทางออก B เดินต่อมาถึงสี่แยกถนน Ophir Rd. ที่ตัดกับ North Bridge Rd. ฝั่งตรงข้ามคือ Haji Lane
เวลาทำการ
วันจันทร์-วันอาทิตย์: 11:00-19:00 น.
สิ่งที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
- Professional Crafune guide
- Tools and materials required
ลิตเติ้ล อินเดีย
มีเพียงแห่งเดียวในสิงคโปร์เท่านั้นที่คุณจะพบอาหารท้องถิ่นที่จัดจ้านที่สุด นั่นคือ Tekka Center ในลิตเติ้ลอินเดีย ตลาดอาหารที่เหมือนเขาวงกตแห่งนี้ยกระดับความเผ็ดร้อนไปอีกขั้น ด้วยตัวเลือกอาหารต้นตำรับของอินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลย์
Sky Lab Cooked Food
ที่นี่มีเมนูให้เลือกมากมาย แต่ถ้าใครอยากเพิ่มความเผ็ดร้อนจัดจ้าน ก็ขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยกุ้งวาไดและพริกเขียวที่กรอบนอกนุ่มใน จัดเป็นหนึ่งในเมนูอาหารทานเล่นขายดีของร้านนี้เลย
Sakunthala's Food Palace
เมื่อคุณพร้อมสำหรับอาหารจานหลักแล้ว คุณอาจเลือกกินเมนูยอดฮิตจาก Tekka Centre ได้แก่ ข้าวบริยานี่ไก่จากร้าน Sakunthala's Food Palace หรือแกงกะหรี่หัวปลา หรือจะกินทั้ง 2 อย่างพร้อมกันก็ได้! เพราะเป็นอีกหนึ่งในร้านอร่อยของสิงคโปร์ที่ห้ามพลาด
Gandhi
ใครยังไม่จุใจ ต้องมาต่อกันที่ข้าวราดแกงจานร้อนจากร้าน Gandhi ที่แต่ละเมนูจะมีความเข้มข้นถึงเครื่อง ยิ่งกินยิ่งเจริญอาหาร ช่วยเพิ่มระดับความเผ็ดร้อนในร่างกายได้ไม่แพ้ร้านอาหารก่อนหน้าเลย
ทุกเมนูจะทำให้คุณเหงื่อแตกพลั่กในเวลาไม่นาน และแน่นอน สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คือ ชาชัก สักถ้วย เพื่อให้ต่อมรับรสของคุณสงบลง หลังจากที่รับรสเผ็ดร้อนจากเมนูก่อนหน้า
การเดินทาง
ลงที่ Little India MRT station (DT12/NE7) ทางออก C หรือ Farrer Park MRT Station (NE8) ทางออก G และเดินไปตามถนน Serangoon Road
เวลาทำการ:
- วันจันทร์-อาทิตย์ 11:00-23:00 น
วันที่ 2
ไชน่าทาวน์
เพิ่ม Cheat day อีกสักวันก็ไม่ถือเป็นอาชญากรรมหากเกี่ยวกับทริปไชน่าทาวน์ที่สิงคโปร์ เพราะนี่คือจุดหมายปลายทางสำหรับนักชิมทุกคน ตั้งแต่ Chinatown Complex ไปจนถึง Maxwell Food Center แหล่งร้านอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยอาหารที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ถนนแคบๆ ที่คดเคี้ยวของไชน่าทาวน์ มีร้านอาหารเสิร์ฟอาหารแบบดั้งเดิมมากมาย เช่น ข้าวมันไก่ไหหลำ บะหมี่ และสะเต๊ะ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกและร้านบูติกอินดี้ตั้งกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ มีทั้งเสื้อผ้า งานฝีมือ และของเก่า ขณะที่ถนน Club Street เต็มไปด้วยบาร์ไวน์สุดเก๋ สถาบันทางวัฒนธรรมหลายแห่ง ได้แก่ วัดศรีมาริอัมมันต์ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2370 และวัดพระเขี้ยวแก้วและพิพิธภัณฑ์อันงามวิจิตร
เรียกได้ว่าไชน่าทาวน์แห่งนี้ตอบโจทย์ความอร่อยและความสนุกทุกมิติของนักท่องเที่ยว สิงคโปร์ทุกคน
ร้านข้าวมันไก่ Tian Tian
ถ้าคุณมาสิงคโปร์ ร้านที่พลาดไม่ได้อีกร้านคือ ร้านข้าวมันไก่ Tian Tian ที่มีรสสัมผัสโดดเด่นทุกอย่าง ตั้งแต่ข้าวที่มีความหอมมันกำลังดี เนื้อไก่นุ่มละมุนลิ้น และน้ำจิ้มรสกลมกล่อม ซึ่งปริมาณจะมีให้เลือก 3 แบบคือราดข้าวขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่
เวลาทำการ
เปิดร้านเวลา : 10.00 – 19.30 น. ( ปิดทุกวันจันทร์ )
Ah Gong Minced Pork Noodles
โหยหาก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ สักชามใช่ไหม ลองชิมก๋วยเตี๋ยวหม้อดินอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ah Gong Minced Pork Noodles
วิธีทำของร้านนี้คือตั้งหม้อดินให้ร้อนและเทซุปลงไปเพื่อให้เดือดปุด ๆ ที่ว้าวคือทำวัตถุดิบด้วยมืออย่างสดใหม่ทุกวัน ตั้งแต่ลูกชิ้นหมู น้ำมันหมู และหอมแดง ซึ่งเขาตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้าเพื่อไปเตรียมตัว บะหมี่จะปรุงใหม่ด้วยน้ำใหม่ทุกครั้งเพื่อขจัดรสชาติที่ตกค้างจากชุดก่อนหน้า
Outram Road Fried Kway Teow Mee
ใครอยากลองก๋วยเตี๋ยวแบบใหม่ ไม่เคยกินที่ไหน ต้องลองฉ่าก๋วยเตี๋ยว จากร้าน Outram Road Fried Kway Teow Mee เพราะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และปรุงด้วยสูตรเฉพาะ อย่างเช่นน้ำมันหมูทอดและซอสสูตรเฉพาะของเขาทำจากซีอิ้วหวานและน้ำปลา
Hawker Chan
ถ้าใครอยากกินเมนูข้าวดีๆ สักจาน ลิ้มลองข้าวมันไก่ซอสถั่วเหลืองของร้าน Hawker Chan ที่ได้รับรางวัลมิชลิน และยังมีเมนูข้าวอบหม้อดินที่เสิร์ฟพร้อมเนื้อตุ๋นของร้าน Lian He Ben Ji ที่เข้ารอบสุดท้าย มิชลิน บิบ กรูมองด์
ความพิเศษคือเนื้อไก่จะเด้งดึ๋งและนุ่มเป็นพิเศษ โดยเนื้อไก่มีกลิ่นหวานหอม ในขณะที่หนังไก่มีรสเผ็ดเค็มเข้มข้น ส่วนข้าวจะนุ่มและมีกลิ่นหอมเล็กน้อยพร้อมรสหวานอ่อน ๆ แตงกวาฉ่ำ ถั่วลิสงตุ๋นนุ่ม ๆ
Old Amoy Chendol
ไม่ว่าคุณจะลงเอยเผลอใจไปโหลดคาร์บจานใดก็ตาม อย่าลืมปิดท้ายทริปสายกินในไชน่าทาวน์ด้วยขนมหวานจากร้าน Old Amoy Chendol
ที่นี่ร้านของหวานที่มีจุดเริ่มต้นมายาวนาน โดย Old Amoy Chendol ก่อตั้งขึ้นในทศวรรษที่ 1950 โดยการขาย chendol จากรถเข็นบนถนน Amoy ต่อมาจึงได้รับการฟื้นฟูโดย Zhao Youning หลานชายของเจ้าของร้าน หลังจากปิดไปในปี 2547 โดยมีที่ตั้งเดิมอยู่ที่ Chinatown Complex Food Centre
การเดินทาง
โดยสารรถไฟใต้ดิน Chinatown Station มี 2 สายที่ผ่านสถานีนี้ คือ Downtown Line สีน้ำเงิน และ North East Line สีม่วง จากนั้นให้ออกที่ทางออก A จะเจอกับย่านตลาดคนเดิน ถนน Pagoda Street
เตียง บาห์รู
เก่ามาบรรจบใหม่ในย่านเตียง บาห์รู ที่ซึ่งความคิดสร้างสรรค์โด่งดัง ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอาหาร เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบ จบ ตามที่ใจต้องการ
เมื่อมาเยือนที่นี่ อยากให้ทุกคนลองชิมทั้งขนมอบจากเชฟผู้เชี่ยวชาญและอาหารสิงคโปร์ที่เป็นหัวใจหลัก พร้อมกับสำรวจตลาดเตียง บาห์รูอันพลุกพล่าน
Kampong Carrot Cake
ก่อนอื่นเลย คุณต้องลองเมนูขนมผักกาดหรือ Kampong Carrot Cake ที่มีชื่อเดียวกับร้าน ตื่นตาตื่นใจตอนที่พ่อครัวตีส่วนผสมของไข่ หัวไชเท้าดอง และซอสในกระทะด้วยเทคนิคอันน่าประทับใจ
Tiong Bahru Bakery
ถัดมาคือขนมอบฝรั่งเศสหลากหลายชนิดของร้าน Tiong Bahru Bakery ซึ่งคุณสามารถจับคู่ทานกับกาแฟสดของร้านสักแก้วได้
เบอเกอรี่ที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งครัวซองค์ เดนิช บาแกต เบเกิล ทิรามิซุ เค้ก และยังมีพวกเครื่องดื่มอย่างชากาแฟ และน้ำผลไม้สกัดแสนสดชื่นอีกด้วย
Tiong Bahru Pau & Snacks
เป็นอีกหนึ่งร้านที่พลาดไม่ได้ คือร้าน Tiong Bahru Pau & Snacks ที่คุณสามารถซื้อของฝากจำพวกอาหาร อย่างเช่น ทาร์ตไข่และซาลาเปาไส้หมูแดง กลับไปฝากคนที่บ้านได้
การเดินทาง
ลงสถานีรถไฟ MRT Tiong Bahru แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อย
ฮอลแลนด์ วิลเลจ
สิ้นสุดทริปสายกินใน 48 ชั่วโมงของนักท่องเที่ยวทุกคน ด้วยของหวานที่ Holland Village ที่ตั้งถิ่นฐานเก่าของชาวดัตช์ที่กลายมาเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ ค่อยๆ เดินพลางหาของกินเล่นจากบาร์ขนมหวานและร้านค้าต่างๆ ในฮอลแลนด์ วิลเลจ
2am Dessert Bar
เติมความหวานและความรักในงานศิลปะของคุณที่ 2am Dessert Bar แบรนด์ที่ได้รับรางวัลนี้ช่วยบรรเทาความอยากอาหารของผู้คนในช่วงค่ำคืนด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ที่สุด ให้รางวัลตัวเองด้วยขนมอบคีโตและวีแกน พร้อมไอศกรีมแสนอร่อย
การเดินทาง
โดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลือง
นั่นเสียงท้องคุณร้องใช่ไหม ถ้าใช่ ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณจะจองตั๋วและวางแผนเที่ยวสิงคโปร์โดยใช้คู่มือพิกัดของอร่อยในสิงคโปร์ จุใจทุกมื้อ 48 ชั่วโมง ตลอด 2 วันเต็มและคำแนะนำอื่นๆ ด้านบนได้!
หรือถ้ามองหามากกว่าร้านอาหาร อยากดูกิจกรรมที่น่าสนใจพร้อมดีลสุด Hot! ที่ Klook ก็มีรวบรวมไว้ให้คุณในที่เดียวแล้ว คลิกด้านล่างได้เลย
*อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ดังนั้นราคาในสกุลเงินญี่ปุ่นจะใช้สำหรับอ้างอิงเท่านั้น