ด้วยมรดกที่มีล้ำค่านับไม่ถ้วนของญี่ปุ่น ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะพบกับกิจกรรมมากมายให้ทำไม่รู้จบ เมื่อเดินทางถึงดินแดนอาทิตย์อุทัย
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่แสวงหาความท้าทายในวันหยุดพักผ่อน เริ่มการผจญภัยของคุณด้วยการเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ดูสิ หากคุณต้องการดื่มด่ำไปกับประเพณีและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ญี่ปุ่น มีเวิร์คช็อปและคลาสเรียนมากมายที่ได้รับความสนใจอย่างมากแตกต่างกันไป
เริ่มต้นเปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวเป็นผู้เรียนด้วยการทำอาหาร วัฒนธรรม ไปจนถึงงานศิลปะ เราได้รวบรวม 11 เวิร์คช็อปในญี่ปุ่นที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนแต่ละเมือง คอร์สเรียนที่ต้องไปโดนในญี่ปุ่น จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
โตเกียว
1. คอร์สเรียนประเพณีคินสึงิ
ศิลปะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างคินสึงิที่ที่ได้รับความพูดถึงและการชื่นชมมานานในเรื่องของการซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ ที่แตกหักให้กลายมาเป็นผลงานศิลปะชิ้นใหม่ คินสึงิเป็นการนำเครื่องปั้นดินเผาที่แตกหักมาซ่อมแซมด้วยการเคลือบผงทองผสมฝุ่น เพื่อให้เซรามิกนั้นกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง
หากคุณวางแผนจะไปเที่ยวโตเกียว คุณจะมีโอกาสได้ลองเทคนิคการซ่อมแซมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นนี้แน่นอน คินสึงิ เวิร์คช็อปจะสอนเทคนิคขั้นพื้นฐานในการซ่อมแซม โดยนักเรียนจะได้สวมชุด ซามุเอะ หรือชุดช่างฝีมือโบราณของญี่ปุ่นในขณะเรียนด้วย มันดีตรงที่เราสามารถเลือกจานที่ชอบมาสร้างสรรค์ผลงานได้ ซึ่งเป็นลวดลายที่ถูกออกแบบมาอย่างดีตั้งแต่สมัยเอโดะ
เคล็ดลับจาก Klook: อย่าลืมล่ะว่าเซรามิกที่ได้รับการซ่อมแซมนี้ ควรเอาไว้เป็นของประดับตกแต่งบ้านเท่านั้น เอาไปใช้เสิร์ฟอาหารไม่ได้เด็ดขาดนะ
2. คอร์สเรียน ชินจูกุ ซามิเซ็ง
ทำให้ดนตรีพื้นเมืองกลับมามีชีวิตชีวาด้วยซามิเซ็ง เวิร์คช็อป ในโตเกียว ซามิเซ็ง คือ เครื่องดนตรีสามสายที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องดนตรีของจีนอย่างซานเซียน มักใช้เป็นเพลงประกอบละครพื้นบ้านและการแสดงคาบุกิ หรือละครหุ่นกระบอก นอกจากจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของซามิเซ็งแล้ว คุณยังมีโอกาสได้ประดิษฐ์ซามิเซ็งเป็นของตัวเองอีกด้วย
นอกจากการสร้างเครื่องดนตรีดั้งเดิมเป็นของตัวเองแล้ว หนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของเวิร์คช็อปนี้ก็คือ คุณจะได้ดูการแสดงดนตรีสดด้วยแหละ ผู้สอนมืออาชีพไม่เพียงแต่จะเล่นซามิเซ็งให้ฟัง แต่ยังจะสอนวิธีการเล่นซามิเซ็งที่คุณประดิษฐ์เองอีกด้วย เราต่างสนุกสนานกันเป็นพิเศษกับการแต่งชุดประจำชาติและของว่าง รวมถึงชาเขียวมัจฉะที่ให้บริการฟรี เติมเต็มความสุขให้มากยิ่งขึ้น
โอซาก้า
3. คอร์สเรียนการทำถุงสมุนไพรและไม้หอม
สถานที่สบายตาและอบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้หอมหวานคือสิ่งที่คุณจะสมัครเข้าร่วมแน่นอน กับเวิร์คช็อปทำถุงสมุนไพรและไม้หอมในโอซาก้า เวิร์คช็อปภาคปฎิบัตินี้ผู้สอนคอยให้คำแนะนำในการจับคู่ผลไม้แห้ง ดอกไม้แห้ง หรือสมุนไพรแห้งเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นถุงสมุนไพรและไม้หอม กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่มาเที่ยในเมืองและต้องการลองทำอะไรใหม่ๆ และยังได้เก็บถุงสมุนไพรและไม้หอมไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
เคล็ดลับจาก Klook: หากคุณชอบให้บ้านมีกลิ่นหอมอบอวลมากกว่าการตั้งโชว์ของที่ระลึก เลือกเวิร์คช็อปทำถุงสมุนไพรและไม้หอมเลย ไม่ต้องลังเล
4. คอร์สเรียนปั้นเซรามิกด้วยมือ
ในบรรดาเวิร์คช็อปศิลปะในญี่ปุ่นที่ที่ได้รับความสนใจและน่าทดลอง เวิร์คช็อปปั้นเซรามิกด้วยมือนี้จะเป็นการปั้นดินให้งดงามน่าทึ่งหากแต่ใส่ความน่ารักลงไปด้วยเพื่อสร้างสรรค์ประติมากรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
ประติมากรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หรือฮานิวะ เป็นรูปปั้นดินเผาญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในประกอบพิธีกรรมในงานศพในสมัยโคะฟุง และมักจะมีรูปร่างคล้ายนักรบ ในเวิร์คช็อปนี้ คุณจะได้ทำฮานิวะของคุณเองโดยใช้เทคนิคนวดด้วยมือ คุณจะได้ออกแบบและสร้างสีหน้าและท่าทางที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณร่วมกับอาจารย์ผู้สอนมืออาชีพ
หากคุณคิดว่ากิจกรรมนี้ยากเกินไปและอยากปั้นดินมากกว่านวดด้วยมือ คุณอาจจะเลือกทำกิจกรรมปั้นและระบายสีจานเซรามิกรูปแมวแทนก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกกิจกรรมไหน เราเชื่อว่าเวิร์คช็อปเซรามิกจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ที่คุณจะหิ้วกลับจากโอซาก้าไปด้วยแน่นอน
5. คอร์สเรียนพิธีชงชาแบบญี่ปุ่น
พิธีชงชาเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้กับความซับซ้อนและความงดงามของวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง คุณอาจจะไม่รู้ แต่นี่ไม่ใช่แค่การดื่มชาธรรมดาๆ แน่ๆ ประวัติพิธีชงชามีมาช้านานตั้งแต่สมัยขุนศึกและนักบวชผู้สูงศักดิ์ โดยวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าบ้านและแขกเพื่อนำความสงบมาสู่ภายในจิตใจ
ในเวิร์คช็อปพิธีชงชานี้ คุณได้รับการสอนเกี่ยวกับมารยาทและความสำคัญของประเพณีปฏิบัติแบบดั้งเดิมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต ผู้สอนจะสาธิตวิธีชงชาให้คุณดู และคุณจะมีโอกาสได้ลองทำด้วยตัวเอง เราหวังว่าคุณจะพบกับความสงบภายในและสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนในเวิร์คช็อปนี้
6. คอร์สเรียนหัตถกรรมโคมไฟ
เป็นที่รู้กันดีว่าวัยรุ่นญี่ปุ่นชื่นชอบของน่ารักๆ แบบคาวาอี้ ทำไมไม่ลองทำของน่ารักๆ แต่เก่าแก่กับเวิร์คช็อปหัตถกรรมโคมไฟในโอซาก้าดูบ้างล่ะ โชชินคือโคมไฟกระดาษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มักแขวนไว้บนตะขอหรือเสา เวิร์คช็อปหัตถกรรมโคมไฟนี้เพิ่มลูกเล่นให้กับการประดิษฐ์โคมไฟกระดาษแบบดั้งเดิม โดยทำโคมไฟออกมาเป็นรูปทรงไข่ที่ดูน่ารัก รวมถึงใช้เชือกและกระดาษสีในการตกแต่ง ผู้สอนมากประสบการณ์จะคอยแนะนำคุณตั้งแต่การวางแผนและออกแบบโคมไฟในสไตล์ของคุณ ก่อนที่นำไปโคมไปติดบนฐานเพื่อจุด เวิร์คช็อปนี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่ผู้ที่เดินทางคนเดียว
เกียวโต
7. คอร์สเรียนประสบการณ์ทำโคโตบุกิ
สำหรับใครที่ไปเกียวโต แต่เบื่อกับการไปเที่ยววัด ลองไปทำกิจกรรมสนุกๆ อย่างเวิร์คช็อปทำโคโตบูกิดูสิ โคโตบูกิคือเชือกถักแบบพิเศษที่ประกอบเป็นตัวอักษรจีนที่มีความหมายว่า "ความปราถนาที่เป็นจริง" และมักจะใช้ห้อยกับเครื่องรางและของนำโชคอื่นๆ
สิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับคลาสนี้ (นอกเหนือจากการเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ พร้อมชาและของว่าง) คือ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของโคโตบูกิในวัฒนธรรมญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้เพิ่มทักษะในการถักเชือกเป็นเปียที่เรียกว่า คาโนะ มุสึบิ อีกด้วย คุณสามารถเลือกสีเชือกและหินที่จะนำมาทำให้เป็นแบบของคุณเองได้
โอกินาว่า
8. คอร์สเรียนกิจกรรมย้อมประการังที่ชูริริวเซน
นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไปโอกินาว่าเพื่อเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลและดื่มด่ำกับบรรยากาศของ "ฮาวายในญี่ปุ่น" ประสบการณ์หนึ่งที่คุณสามารถนำกลับบ้านเพื่อรำลึกถึงความมหัศจรรย์ของทะเลโอกินาว่าได้ก็คือ ประสบการณ์ย้อมปะการังสนุกๆ ที่ชูริริวเซน สตูดิโอย้อมสีผ้าที่เก่าแก่แห่งนี้เปิดทำการมาแล้วกว่า 43 ปี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมการย้อมผ้าของโอกินาว่า
ในเวิร์คช็อปย้อมประการังที่ชูริริวเซนนี้ ช่างฝีมือท้องถิ่นและช่างมืออาชีพจะสอนวิธีการใช้ประโยชน์จากรูปร่างตามธรรมชาติของประการังเพื่อปั้มลวดลายย้อมลงบนเสื้อยืด ผ้าพันคอ และกระเป๋า มีการนำปะการังมาใช้เพราะมีความเชื่อว่าจะนำความสุข ความอุดมสมบูรณ์ และอายุยืนยาวมาให้ เราเชื่อว่าเวิร์คช็อปศิลปะที่ผ่อนคลายในญี่ปุ่นนี้จะเป็นกิจกรรมที่น่าจดจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณพาเด็กๆ ไปร่วมกิจกรรมด้วย
ฮอกไกโด
9. คอร์สเรียนทำซูชิ
ถ้ามาญี่ปุ่นแล้วไม่ได้กินซูชิ ก็เหมือนมาไม่ถึงญี่ปุ่นน่ะสิ ซูชิเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยม ทั้งในใจของคนท้องถิ่นและชาวต่างชาติ ซูชิมักจะทำจากข้าวผสมกับน้ำส้มสายชูและมีอาหารทะเลและ/หรือผักเป็นส่วนประกอบ จะมีที่ไหนเหมาะกับการเรียนทำซูชิได้มากเท่าญี่ปุ่นอีกล่ะ ใครที่แวะไปฮอกไกโด อย่าลืมลองเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำซูชิกับเชฟท้องถิ่นมืออาชีพดูนะ คุณจะได้ทำซูชิหน้าที่คุณชอบจากวัตถุดิบสดใหม่จากเมืองชายทะเลอย่างฮาโกดาเตะร่วมกับผู้สอน
สิ่งที่เราชอบมากๆ กับกิจกรรมนี้ (นอกเหนือที่จะได้เก็บหมวกเชฟกลับไปเป็นที่ระลึกแล้ว) นั่นก็คือ ได้เรียนรู้วิธีการทำซุปญี่ปุ่น และชาวันมุชิหรือไข่ตุ๋นญี่ปุ่นอีกด้วย สายกินพลาดไม่ได้เลยนะกับคลาสนี้ที่ฮอกไกโด
10. คอร์สเรียนทำอิกาเมชิ
อีกหนึ่งการผจญภัยแสนอร่อยรอคุณอยู่สำหรับสายกินที่กำลังจะไปเที่ยวฮอกไกโด เมื่อมาถึงจังหวัดติดชายทะเลแบบนี้แล้ว ยังไงก็ต้องมาเรียนรู้วิธีทำอาหารยอดนิยมของฮาโกดาเตะอย่าง อิกาเมชิ ให้ได้ อิกาเมชิเป็นอาหารประจำภูมิภาคของญี่ปุ่น เป็นปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียว ปรุงรสด้วยดาชิ น้ำซุปรสเข้มข้น หัวใจหลักของอาหารญี่ปุ่น
สิ่งที่ทำให้คลาสทำอิกาเมชิ 2 ชั่วโมงนั้นแตกต่างก็คือ คุณจะได้เรียนรู้สูตรลับเฉพาะจากเจ้าของเรียวกังมืออาชีพที่เสิร์ฟเมนูชวนน้ำลายสอนี้มานานหลายปี ในโรงแรมเล็กๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน บวกกับคลาสทำอาหารสุดพิเศษ คุณจะดื่มด่ำกับประสบการณ์การทำอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยนี้แน่นอน เคล็ดลับจาก Klook: อย่าลืมเตรียมปากกาและกระดาษไปจดสูตรลับด้วยล่ะ
ฮิโรชิม่า
11. คอร์สเรียนการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันและเคนโด้
ความสมดุลระหว่างความสงบและความตื่นเต้นคือสิ่งที่คุณจะได้รับจากเวิร์คช็อปเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันและเคนโด้ในฮิโรชิม่า วันแห่งวัฒนธรรมที่คุณจะได้สัมผัสกับความสงบจากศาสตร์การเขียนพู่กันแบบญี่ปุ่น และอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านจากเคนโด้ ศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลองทำอะไรที่ต่างกันสุดขั้ว กับกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างจังหวะที่เชื่องช้าและรวดเร็ว
คุณจะรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของการทำสมาธิแบบเซนในตอนเขียนชื่อด้วยเทคนิคการเขียนพู่กันแบบญี่ปุ่น หลังจากนั้น หยิบดาบไม้ไผ่มาเพื่อฝึกฝนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พื้นฐาน และเทคนิคที่ถูกต้องของกีฬาดั้งเดิมของญี่ปุ่น
เมื่อจบคอร์สนี้ คุณจะได้รับสองทักษะใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย เคล็ดลับจาก Klook: เตรียมน้ำดื่มมาให้พร้อมเพื่อเติมความสดชื่นให้ตัวเองหลังจบคลาสเคนโด้ และก็ไม่ต้องกังวลว่าจะหิว เพราะเวิร์คช็อปนี้มาพร้อมกับมื้ออาหารสุดพิเศษหลังจบคลาส
เที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ต้องเอาให้คุ้ม
นอกจากเวิร์คช็อปมากมายที่คุณทำได้ที่ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ รอให้คุณได้ไปสัมผัสอีกเพียบเลย สำหรับใครที่ยังลังเลกับการวางแผนท่องเที่ยวอยู่ แวะเข้าไปหาโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ Klook ดูสิ ยังมีกิจกรรมและทัวร์อีกมากมายที่จะทำให้ทริปญี่ปุ่นของคุณคุ้มค่าที่สุด
📱ไม่พลาดทุกโปรเด็ด ติดตามคลูกได้ทุกช่องทาง
Facebook | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthfb
Instagram | @klooktravel_th 👉🏼 bit.ly/kookthig
Twitter | @klookth 👉🏼 bit.ly/klooktwitter
TikTok | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthtt
Youtube | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthyt
👤สอบถามรายละเอียดก่อนจอง
Line Official Account | @klookth 👉🏼 bit.ly/klookthoa
💬 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย