สโตนเฮนจ์

เที่ยวสโตนเฮนจ์

ความเป็นมาของสโตนเฮนจ์

กลางทุ่งราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ทางตอนใต้ของอังกฤษ มีสิ่งปลูกสร้างโบราณที่โดดเด่นจนกลายเป็นหนึ่งในปริศนาทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นั่นคือ สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) กลุ่มแท่งหินขนาดมหึมา 112 ก้อนที่เรียงตัวกันเป็นวงกลมซ้อนกันถึง 3 ชั้น หินแต่ละก้อนถูกจัดวางในลักษณะต่าง ๆ ทั้งตั้งตรง วางพาด และวางนอน นักโบราณคดีระบุว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว 3,000--2,000 ปีก่อนคริสตกาล หรือกว่า 5,000 ปี มาแล้ว

การก่อสร้างสโตนเฮนจ์ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่ค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 3-4 ระยะ ใช้เวลานานกว่า 1,500 ปี ตั้งแต่ยุคหินตอนปลายจนถึงต้นยุคสำริด ที่น่าทึ่งคือ ในบริเวณที่ราบซอลส์บรีไม่มีหินขนาดมหึมาเหล่านี้อยู่เลย นักวิทยาศาสตร์คาดว่าหินส่วนใหญ่ถูกนำมาจาก ทุ่งมาร์ลโบโร (Marlborough Downs) ซึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 40 กิโลเมตร ขณะที่หินสีน้ำเงินขนาด 4 ตันถูกสันนิษฐานว่านำมาจากภูเขาพรีเซลี (Preseli Hills) ในแคว้นเวลส์ โดยใช้แพล่องมาตามชายฝั่งและแม่น้ำเอวอน ก่อนจะชักลากขึ้นบกมายังจุดนี้

แม้จะผ่านเวลามาหลายพันปี แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของสโตนเฮนจ์ยังคงเป็นปริศนา นักวิจัยบางส่วนเชื่อว่าอาจใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับดาราศาสตร์ สุริยะปฏิทิน หรือแม้แต่สุสานโบราณ ความลึกลับและความยิ่งใหญ่ของมันยังคงดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาสัมผัสด้วยตาตัวเองจนถึงทุกวันนี้

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้สโตนเฮนจ์

อาสนวิหารซอลส์บรี (Salisbury Cathedral)

อาสนวิหารซอลส์บรี (Salisbury Cathedral) เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่งดงามและมีความสำคัญที่สุดของอังกฤษ ตั้งอยู่ในเมืองซอลส์บรี (Salisbury) ทางตอนใต้ของประเทศ โดดเด่นด้วยหอคอยแหลมสูงที่สูงที่สุดในสหราชอาณาจักรถึง 123 เมตร และถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสไตล์กอธิคยุคแรก (Early English Gothic) อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่เก็บรักษา Magna Carta หรือ "มหากฎบัตร" ที่เก่าแก่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่กษัตริย์จอห์นแห่งอังกฤษลงพระปรมาภิไธยเมื่อปี ค.ศ. 1215 เพื่อจำกัดอำนาจของกษัตริย์และเป็นรากฐานของระบบกฎหมายในปัจจุบัน ภายในอาสนวิหารยังมี นาฬิกากลไกที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1386 และยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Visitor Centre)

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสโตนเฮนจ์เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ภายในมีนิทรรศการระดับโลกจัดแสดงโบราณวัตถุจากยุคสร้างสโตนเฮนจ์ พร้อมสื่อมัลติมีเดียที่ช่วยเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีบ้านยุคหินใหม่จำลอง คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสโตนเฮนจ์ก่อนเดินทางไปชมสถานที่จริงได้ที่นี่

พิพิธภัณฑ์ซอลส์บรี (Salisbury Museum)

พิพิธภัณฑ์ซอลส์บรี (Salisbury Museum) เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในเมืองซอลส์บรี ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุและหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะ คอลเลกชันเกี่ยวกับสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ที่มีความสำคัญระดับโลก

พิพิธภัณฑ์ซอลส์บรีเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองซอลส์บรีและพื้นที่โดยรอบ โดยมีไฮไลต์สำคัญคือคอลเลกชันโบราณวัตถุจากสโตนเฮนจ์ รวมถึงเครื่องมือหิน โครงกระดูกมนุษย์โบราณ และเครื่องปั้นดินเผาจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่นี่ยังจัดแสดงนิทรรศการโบราณคดีจากยุคหินใหม่ ยุคสำริด และยุคเหล็ก รวมถึง ห้องชุด Pitt-Rivers ที่นำเสนอผลงานของนักโบราณคดีชื่อดัง นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับพัฒนาการของเมืองซอลส์บรีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และงานศิลปะยุคกลางที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้

พิพิธภัณฑ์วิลต์เชอร์ (Wiltshire Museum)

พิพิธภัณฑ์วิลต์เชอร์เป็นศูนย์กลางทางโบราณคดีที่สำคัญของอังกฤษ จัดแสดงโบราณวัตถุจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงขุมทรัพย์จากยุคสำริดที่เกี่ยวข้องกับสโตนเฮนจ์ ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ เครื่องประดับทองคำ อาวุธ และวัตถุพิธีกรรมจากกลุ่มชนโบราณที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและพัฒนาการของชุมชนในวิลต์เชอร์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่เรียนรู้สำคัญสำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์อังกฤษ

บ้านยุคหินใหม่ (Neolithic Houses)

บ้านยุคหินใหม่ (Neolithic Houses) เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสโตนเฮนจ์ สร้างขึ้นเพื่อจำลองที่อยู่อาศัยของผู้คนในยุคหินใหม่เมื่อกว่า 4,500 ปีก่อน บ้านแต่ละหลังสร้างจากไม้ หญ้ามุงหลังคา และผนังดินเหนียวสะท้อนวิธีชีวิตของชุมชนยุคนั้น ภายในตกแต่งด้วยเครื่องมือหิน เครื่องปั้นดินเผา และอุปกรณ์ทำอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตงานฝีมือ เช่น การทอผ้า การทำเครื่องมือจากหิน และการอบขนมปังสูตรโบราณ โดยมีอาสาสมัครจาก English Heritage ให้ความรู้ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสชีวิตในยุคก่อนประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด