หมู่บ้านชิราคาวะโกะ

กิจกรรมและบริการที่น่าสนใจใน หมู่บ้านชิราคาวะโกะ
สนุกสุดเหวี่ยงตามเสียงหัวใจ
พักผ่อนเต็มที่ไม่มีลิมิต
เดินทางสบายสไตล์คุณ
สำรวจเพิ่มเติม
ความคิดเห็นที่นักท่องเที่ยวมีต่อ หมู่บ้านชิราคาวะโกะ
สถานที่ใกล้เคียง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ หมู่บ้านชิราคาวะโกะ
ช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการเยี่ยมชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะมากที่สุด?
ฉันสามารถเดินทางไปชิราคาวาโกะได้อย่างไร?
มีตัวเลือกที่พักอะไรบ้างในชิราคาวาโกะ?
ข้อควรปฏิบัติในหมู่บ้านชิราคาวาโกะมีอะไรบ้าง?
ฉันต้องเสียค่าเข้าหมู่บ้านชิราคาวาโกะหรือไม่?
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเดินชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะ?
มีรถบัสสำหรับเที่ยวชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะหรือไม่?
หากฉันต้องการทราบรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ ในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ฉันควรทำอย่างไร?
ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปยัง หมู่บ้านชิราคาวะโกะ
เที่ยวหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
เกี่ยวกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) เป็นหนึ่งในหมู่บ้านชาวนาเก่าแก่ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัด กิฟุ (Gifu) ใจกลางเกาะฮอนชู ท่ามกลางหุบเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หมู่บ้านแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 250 ปี และเป็นที่รู้จักจากบ้านเรือนสไตล์ กัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri) ซึ่งมีหลังคาทรงจั่วสูงชันคล้ายกับการพนมมือ ลักษณะสถาปัตยกรรมนี้ออกแบบมาให้ทนทานต่อหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว
ความโดดเด่นของชิราคาวาโกะไม่ได้มีเพียงความสวยงามของบ้านเรือนแบบดั้งเดิม แต่ยังรวมถึง ทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ ฤดูร้อนที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณเขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วงที่มีใบไม้เปลี่ยนสีงดงาม และฤดูหนาวที่หมู่บ้านถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดปี
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 ปัจจุบัน หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมไว้อย่างดี และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณที่ยังคงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่งดงาม
ไฮไลท์ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri)
กัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri) เป็นสถาปัตยกรรมบ้านญี่ปุ่นโบราณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วย หลังคาทรงจั่วสูงชัน ที่ออกแบบมาให้คล้ายกับการพนมมือ ซึ่งช่วยป้องกันหิมะตกหนักในช่วงฤดูหนาว บ้านลักษณะนี้พบมากในหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) และโกคายามะ (Gokayama) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995
เอกลักษณ์ของบ้านกัชโชสึคุริอยู่ที่การใช้ วัสดุธรรมชาติและเทคนิคการสร้างแบบดั้งเดิมโดยไม่ใช้ตะปู โครงสร้างหลักทำจากไม้เนื้อแข็ง มีการยึดติดกันด้วยเชือกเพื่อความยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน ภายในบ้านมีพื้นที่ใช้สอยถึง 3-4 ชั้น โดยชั้นล่างใช้เป็นที่อยู่อาศัย ส่วนชั้นบนใช้เก็บผลผลิตทางการเกษตรและเลี้ยงหนอนไหม ซึ่งเคยเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของชาวบ้าน
แม้ในปัจจุบัน บ้านกัชโชสึคุริบางหลังจะถูกดัดแปลงเป็นโฮมสเตย์ พิพิธภัณฑ์ และร้านอาหาร แต่หลายหลังยังคงมีผู้อยู่อาศัยจริง ทำให้หมู่บ้านเหล่านี้ยังคงรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี บ้านกัชโชสึคุริจึงไม่ใช่เพียงแค่สถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่ยังเป็นเครื่องสะท้อนถึง ภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นในอดีต ที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของหมู่บ้านญี่ปุ่นโบราณ และเรียนรู้ถึงความงดงามที่ถูกส่งต่อมาหลายศตวรรษ
ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัง (Shirakawa Hachiman Shrine)
ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัง เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ จังหวัดกิฟุ ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของความศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ และยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลสำคัญของหมู่บ้าน ที่นี่ไม่เพียงเป็นสถานที่สักการะศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชุมชนที่ได้รับการสืบทอดมายาวนาน
ศาลเจ้าชิราคาวะ ฮาจิมัง ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ เทพเจ้าฮาจิมัง (Hachiman-no-Kami) ซึ่งเป็นเทพแห่งสงครามและการปกป้องที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในชีวิตของชาวบ้านมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นการขอพรให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ ปกป้องหมู่บ้านจากภัยธรรมชาติ หรือใช้เป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
สถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นแบบชินโตดั้งเดิม โดดเด่นด้วยทางเดินที่ปูด้วยหิน ซึ่งนำไปสู่ เสาโทริอิ (Torii) ขนาดใหญ่ และอาคารหลักที่มีความเรียบง่ายแต่สง่างาม บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นด้วยต้นไม้อายุนับร้อยปี ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินทางมาสัมผัสกับความสงบ
วัดเมียวโอะเซนจิ (Myozenji)
เป็นวัดพุทธเก่าแก่ในหมู่บ้านชิราคาวาโกะที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วย อาคารพระอุโบสถและบ้านพักพระสงฆ์ (Kuri) ที่สร้างขึ้นในสไตล์กัชโชสึคุริ (Gassho-zukuri) ซึ่งหาได้ยากในวัดพุทธทั่วไป วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน ภายในวัดมี ระฆังโบราณและสวนที่เงียบสงบ ซึ่งให้บรรยากาศที่เหมาะสำหรับการทำสมาธิและพักผ่อน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะผ่านวัดแห่งนี้ได้อีกด้วย
จุดชมวิวชิราคาวาโกะ
เมื่อพูดถึงภาพจำของ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หลายคนมักนึกถึงวิวสวยๆ ที่ปรากฏบนโปสการ์ดและรูปถ่ายมากมาย หากต้องการสัมผัสภาพมุมกว้างของหมู่บ้านแบบนั้น จุดชมวิวปราสาทโอกิมาชิ (Ogimashi Castle Observatory Deck) คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
จุดชมวิวแห่งนี้เป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการมองเห็นทัศนียภาพของหมู่บ้าน 59 หลังคาเรือน ที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามท่ามกลางหุบเขา ไม่ว่าจะเป็น ฤดูใบไม้ผลิ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มและน้ำตาลแดง หรือ ฤดูหนาว ที่หิมะปกคลุมหลังคาบ้านสไตล์กัชโชสึคุริจนเกิดเป็นภาพที่ราวกับเทพนิยาย จุดชมวิวแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเก็บภาพประทับใจของชิราคาวาโกะจากมุมสูง และเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้
เขื่อนมิโบโระและทะเลสาบมิโบโระ (Miboro Dam & Miboro Lake)
เขื่อนมิโบโระ และ ทะเลสาบมิโบโระ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งความสำคัญทางด้านพลังงานและความงดงามทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในจังหวัด กิฟุ ไม่ไกลจากหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เขื่อนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1960 เพื่อควบคุมการไหลของแม่น้ำโชกาวะ (Shogawa) และเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับภูมิภาคโดยรอบ
ทะเลสาบมิโบโระ ซึ่งเกิดจากการกักเก็บน้ำของเขื่อน เป็นทะเลสาบที่เงียบสงบและมีทัศนียภาพที่สวยงามตลอดทั้งปี ใน ฤดูใบไม้ผลิ นักท่องเที่ยวสามารถชมซากุระที่ถูกย้ายมาปลูกบริเวณรอบทะเลสาบ ซึ่งเป็นซากุระเก่าแก่ที่ถูกย้ายมาจากหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมในระหว่างการสร้างเขื่อน ส่วนใน ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสีรอบทะเลสาบช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับทิวทัศน์โดยรอบ และใน ฤดูหนาว ทะเลสาบบางส่วนจะกลายเป็นน้ำแข็ง สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก
นอกจากวิวธรรมชาติแล้ว บริเวณนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์พลังงานน้ำของเขื่อนมิโบโระ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตไฟฟ้าและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเดินเล่นริมทะเลสาบ แวะชมวิวจากจุดชมวิวบนเขื่อน หรือเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของเขื่อนต่อชุมชนโดยรอบ เขื่อนมิโบโระและทะเลสาบมิโบโระจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสทั้งความงามของธรรมชาติและความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในพื้นที่แห่งนี้
กิจกรรมแนะนำในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
พักในโฮสเตย์ในบ้านกัชโชสึคุริ
นอกจากเดินเที่ยวชิราคาวาโกะแล้ว หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดื่มด่ำกับบรรยากาศของหมู่บ้านชิราคาวาโกะคือการ พักค้างคืนในบ้านชาวนาแบบโฮมสเตย์ ที่นี่มีที่พักสไตล์ มินชูกุ (Minshuku) หรือบ้านพักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมือง อบอุ่นร่างกายด้วยเตาผิงแบบโบราณ และเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นจากเจ้าของบ้าน
นอกจากนี้ ในช่วง ฤดูหนาว (มกราคม - กุมภาพันธ์) ชิราคาวาโกะจะยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้น เนื่องจากมี เทศกาลเปิดไฟหมู่บ้าน (Shirakawa-go Winter Illumination) ซึ่งจัดขึ้นช่วงเย็นของวันเสาร์หรืออาทิตย์ สัปดาห์ละ 1 วัน แสงไฟสีส้มจากบ้านสไตล์กัชโชสึคุริที่ปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้การพักค้างคืนที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง
ชมวิวหมู่บ้านจากจุดชมวิวปราสาทโอกิมาชิ
จุดชมวิวปราสาทโอกิมาชิ (Ogimachi Castle Observatory Deck) เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมทัศนียภาพอันงดงามของหมู่บ้านชิราคาวาโกะจากมุมสูง ตั้งอยู่บนเนินเขาใกล้กับหมู่บ้านและเคยเป็นที่ตั้งของ ปราสาทโอกิมาชิในอดีต แม้ว่าปราสาทจะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว แต่จุดชมวิวแห่งนี้กลายเป็นไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนเพื่อเก็บภาพของหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้
จากจุดชมวิว นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็น บ้านกัชโชสึคุริ มากถึง 59 หลังคาเรือน ที่กระจายตัวอย่างสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ ความสวยงามของวิวหมู่บ้านจะแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ฤดูใบไม้ผลิ จะปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและดอกไม้บานสะพรั่ง ฤดูร้อน หมู่บ้านเต็มไปด้วยสีเขียวของทุ่งนาและป่าไม้ ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้ม เหลือง และแดง เพิ่มเสน่ห์ให้กับหมู่บ้านยิ่งขึ้น ในช่วงฤดูหนาว ทั่วทั้งหมู่บ้านจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวราวกับฉากในเทพนิยาย
แช่ชิราคาวาโกะ ออนเซ็น
ชิราคาวาโกะ ออนเซ็น เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางบรรยากาศของหมู่บ้านโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก น้ำพุร้อนของที่นี่มีแร่ธาตุจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงผิวและผ่อนคลายความเมื่อยล้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวสามารถแช่ออนเซ็นกลางแจ้งพร้อมชมวิวบ้านกัชโชสึคุริที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่ควรลองสักครั้ง
เข้าชมบ้านโบราณและพิพิธภัณฑ์
เอาใจคนรักประวัติศาสตร์ หนึ่งในกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน หมู่บ้านชิราคาวาโกะ คือการเข้าชมบ้านโบราณและพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีต บ้านแต่ละหลังสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่าน สถาปัตยกรรมแบบกัชโชสึคุริและการออกแบบที่สอดคล้องกับสภาพอากาศของพื้นที่
บ้านวาดะ (Wada House) เป็นหนึ่งในบ้านที่สำคัญที่สุดของหมู่บ้าน เนื่องจากเป็น บ้านกัชโชสึคุริที่ใหญ่ที่สุด และเคยเป็นที่อยู่อาศัยของตระกูลวาดะซึ่งเป็นตระกูลผู้มีอิทธิพลในชิราคาวาโกะ ภายในบ้านยังคงมีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตให้ชม เช่น เตาผิงแบบโบราณ ห้องเก็บผลผลิตทางการเกษตร และโครงสร้างไม้ที่ใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบดั้งเดิม
อีกหนึ่งบ้านที่น่าสนใจคือ บ้านนางาเสะ (Nagase House) ซึ่งเป็นบ้านที่เก่าแก่และมีเอกลักษณ์ ภายในมีการจัดแสดง อุปกรณ์โบราณ และเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ใช้ในยุคก่อน ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าใจถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในอดีตได้อย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์เมียวเซนจิ (Myozenji Temple Museum) ก็เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม วัดแห่งนี้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากวัดทั่วไป เนื่องจาก บ้านพักพระสงฆ์ถูกสร้างขึ้นในสไตล์กัชโชสึคุริ ทำให้เป็นหนึ่งในวัดไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีสถาปัตยกรรมลักษณะนี้ ภายในวัดมีของใช้ทางศาสนาโบราณและข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมของหมู่บ้าน