วัดร่องขุ่น
กิจกรรมและบริการที่น่าสนใจใน วัดร่องขุ่น
สนุกสุดเหวี่ยงตามเสียงหัวใจ
พักผ่อนเต็มที่ไม่มีลิมิต
สำรวจเพิ่มเติม
ความคิดเห็นที่นักท่องเที่ยวมีต่อ วัดร่องขุ่น
สถานที่ใกล้เคียง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วัดร่องขุ่น
ทำไมวัดร่องขุนถึงมีชื่อเสียงอะไร?
วัดร่องขุนเหมาะกับเด็กและครอบครัวหรือไม่?
วิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสประสบการณ์ที่วัดร่องขุนคืออะไร?
วัดร่องขุนเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัดหรือไม่?
วันไหนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมวัดร่องขุน?
ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปยัง วัดร่องขุ่น
ความเป็นมาของวัดร่องขุ่น
ถ้าพูดถึงวัดที่สวยที่สุดในเชียงราย \วัดร่องขุ่น\" ก็มักจะเป็นหนึ่งในลิสต์วัดสวย ประจำจังหวัดเชียงราย. วัดร่องขุ่นตั้งอยู่ที่ ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ถูกออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2540 ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยและดังไปก้องโลกเพราะวัดแห่งนี้.
ท่านสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นด้วยแรงปณิธานอันแรงกล้า มุ่งมั่นที่จะรังสรรค์งานศิลปะที่งดงามและแปลกตา สะท้อนผ่านทางสถาปัตยกรรมของวัดอันงดงามตระการตาแห่งนี้ ซึ่งได้ผสานวัฒนธรรมของล้านนาได้อย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจกและจิตรกรรมที่มีเอกลักษณ์มากๆ นับว่าวัดแห่งนี้ถือเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลยก็ว่าได้.
อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า ท่านมีแรงบันดาลใจในการสร้างงานพุทธศิลป์ นั่นก็คือวัดแห่งนี้ เพื่อจุดประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ เพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์.
สถาปัตยกรรมและจิตรกรรมในวัด
ความงดงามของวัดแห่งนี้ที่เมื่อนักท่องเข้ามาแล้วจะต้องตะลึงก็คือ \"พระอุโบสถ\" ของวัดแห่งนี้นั่นเอง. อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า ท่านอยากจะเนรมิตวัดแห่งให้เป็นเหมือนเมืองสวรรค์ เปรียบเสมือนวิมานบนดิน ที่มนุษย์สามารถสัมผัสถึงได้ขณะที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ โดยที่อาจารย์เปรียบโบสถ์เป็นเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาว หมายถึง พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาลนั่นเอง.
พระอุโบสถสร้างอยู่บนเนิน ตั้งตระหง่านอยู่เหนือทะเลสาบ พอแสงตกกระทบกับพระอุโบสถ ทำให้เกิดเงาสะท้อนบนทะเลสาบจำลองดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก และทางเดินเข้าอุโบสถยังเป็นสะพานทอดยาว หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมินั่นเอง. ส่วนครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ และวงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจ ซึ่งเป็นตัวแทนของขุมนรกและทุกข์นั่นเอง.
นอกจากแค่ชมแล้วอลังการสุดๆ ความหมายของแต่ละสิ่งปลูกสร้างยังอลังการกว่าอีก. นอกจากนี้แล้วบนหลังคาได้นำหลักธรรมอันสำคัญในเชิงพระพุทธศาสนานั่นก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา แสดงออกในรูปของสัตว์ในช่อฟ้าชั้นต่างๆ.
มาถึงภายในอุโบสถกันบ้าง เราจะพบกับภาพจิตรกรรมฝาผนังมากมาย ได้แก่ ภาพพระพุทธองค์หลังพระประธาน ซึ่งเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง และมีภาพเขียนสีทองตามผนังอีกทั้ง 4 ด้าน. ส่วนเพดานและพื้นแสดงภาพเขียนที่พูดถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมารเข้าสู่โลกุตรธรรม รวมทั้งอาคารแสดงภาพวาดของผลงานของอาจารย์เฉลิมชัย ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกันอีกด้วย.
การเดินทางไปวัดร่องขุ่น
- มาจาก อำเภอแม่สาย, มาจากสนามบินนานาชาติเชียงรายหรือตัวเมืองเชียงราย:
ให้มาทางทิศใต้ ทางไป อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ทางไปจังหวัดพะเยา.
เมื่อออกจากตัวเมืองเชียงราย จะผ่านแยกไฟแดงสถานีขนส่งแห่งที่ 2 ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดง แยกขวา แยกขุนกรณ์ (ทางไปน้ำตกขุนกรณ์) ให้เลี้ยวขวาเข้ามา หากมาจากตัวเมืองเชียงรายใช้เวลาไม่กี่นาทีก็จะถึงวัดร่องขุ่น.
- มาจาก จังหวัดเชียงใหม่:
ให้มาทางอำเภอดอยสะเก็ด เข้าอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย.
ขับมาเรื่อยๆ ผ่าน อำเภอแม่สรวย มาจนถึงสามแยกปากทางแม่สรวยให้เลี้ยวซ้ายไปทางจังหวัดเชียงราย.
จากปากทางแม่สรวย ขับไปทางตัวเมืองเชียงรายอีกประมาณ 10 กม จนถึงแยกขุนกรณ์ (ทางไปน้ำตกขุนกรณ์) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปจะเจอวัดร่องขุ่น.