ทัวร์ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนน์ เดิมมีชื่อว่า ""ดอยหลวง"" หรือ ""ดอยหลวงอ่างกา"" มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่ ซึ่งครอบคลุมท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาที่สูงสลับซับซ้อนลดหลั่นกันไป ซึ่งดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาอินทนนท์ หรือ เรียกอีกชื่อว่า ทิวเขาถนนธงชัยตะวันออก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง ดอยอินทนนท์นับเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นที่ตั้งของพระพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริอีกด้วย ดอยอินทนนท์ แท้จริงแล้วเป็นชื่อของกษัตริย์พระนามว่าพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ พระองค์ทรงห่วงใยในป่าทางภาคเหนือและพยายามบำรุงรักษาป่าเอาไว้ ภายหลังที่พระองค์เสด็จพิราลัย พระอัฐิส่วนหนึ่งได้เชิญไปประดิษฐาน ณ พระสถูปบนยอดดอยหลวง และเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแด่พระองค์ท่าน

10 ที่เที่ยวดอยอินทนนท์ที่ควรไปสักครั้ง

1. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์

สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่นี่ไม่ควรพลาด ""สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์"" หรือ ""ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงอินทนนท์"" เป็นพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์เพื่อช่วยเหลือชาวเขาให้มีพื้นที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง โดยการส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่นและมีถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่ ตลอดจนป้องกันการบุกรุกป่าไม้ ต้นน้ำ ลำธาร ทำให้บริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์

2. เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติสูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล คุณจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้ชมพันธุ์ไม้หายาก เช่น กุหลาบพันปี บีโกเนียป่า ฯลฯ และสัตว์สงวน เช่น กวางผา ในระหว่างทางจะมีแผ่นป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับผืนป่ากิ่วแม่ปานทั้งหมด 21 จุด และมีที่ให้นั่งพักตลอดเส้นทาง นอกจากนี้แล้วคุณยังจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดอีกด้วย

3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา

อ่างกา หรือ ชื่อเต็มคือ อ่างกาหลวง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ บริเวณเส้นทางนี้จะถูกปกคลุมด้วยเมฆที่จะลอยพัดผ่านเข้ามาอยู่ตลอดเวลา อากาศจึงค่อนข้างชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ ทำให้มีมอสและเฟินขึ้นเต็มไปหมด ตลอดเส้นทางระยะ 300 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมป่าดิบชื้นบนสะพานไม้ และยังมีป้ายให้ความรู้เรื่องธรรมชาติตลอดเส้นทาง ทั้งได้ความรู้และได้สัมผัสกับกลิ่นไอธรรมชาติอย่างใกล้ชิดไปในคราวเดียว

4. น้ำตกแม่ยะ

นอกจากภูเขาแล้ว ดอยอินทนนท์ยังมีน้ำตกที่ถือว่าสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอีกด้วย นั่นก็คือน้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่ควรมาเยือนสักครั้ง เมื่อมาถึงดอยอินทนนท์ น้ำตกนี้มีต้นกำเนิดมาจากลำห้วยหลายสายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นขุนลำห้วยแม่ยะ ห้วยหลวง ห้วยฮ้อม ห้วยปางตอง มีความสูงถึง 260 เมตร และมีทั้งหมด 30 ชั้นด้วยกัน

5. น้ำตกวชิรธาร

อีกหนึ่งน้ำตกที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน นั่นก็คือ นำ้ตกวชิรธาร เกิดจากสายน้ำในลำห้วยแม่กลางบนยอดดอยอินทนนท์ ความตระการตาของของน้ำตกวชิรธาร ก็คือเมื่อสายน้ำปริมาณมากไหลลงมาจากหน้าผาลงสู่แอ่งนำ้ด้านล่าง ทำให้เกิดเป็นละอองน้ำฟุ้งกระจาย และเมื่อสายน้ำกระทบกับแสงแดด เราจะเป็นรุ้งกินน้ำที่สวยงามสุดๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเยี่ยมชมน้ำตกวชิรธารจะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-เมษายนของทุกปี

6. ผาซากุระ ขุนวาง

เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่หากไม่มา ถือว่าคุณยังมาไม่ถึงดอยอินทนนท์ ""ผาซากุระ ขุนวาง"" คุณจะได้พบกับดอกนางพญาเสือโคร่งชมพูบานสะพรั่งเต็มแนวเขา เป็นที่มาของผาซาการุแห่งเมืองไทยนั่นเอง นอกจากนางพญาเสือโคร่งหลายร้อยต้นแล้วยังมีการปลูกดอกไม้สวยงามและพืชผักสวนครัวอีกมากมาย มีการสร้างสะพานไม้ข้ามลำห้วยผ่านดงซากุระ เห็นดอยผาหม่นเป็นวิวพื้นหลัง สวยงามเหมือนภาพวาดเลยเชียว

7. ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์

สำหรับใครที่ชอบดอกกล้วยไม้บอกเลยว่าที่นี่คุณจะได้พบกับดอกกล้วยไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ โดยที่ศูนย์แห่งนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ วัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้ และเป็นอีกจุดเช็คอินนึงที่จะได้พบกับดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่ง แนะนำให้เข้ามาเยี่ยมชมในช่วงเดือนมกราคม จะเป็นช่วงพีคของทุกปี

8. พระมหาธาตุเจดีย์ นภเมทนีดล – นภพลภูมิสิริ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติไปพอสมควรแล้ว มาถึงแลนมาร์คสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันบ้าง หากเราไปเยือนดอยอินทนนท์แล้ว ก็ควรไปสักการะพระมหาธาตุ 2 องค์นี้ ได้แก่ พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2530 เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2535 เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เรียกได้ว่าเป็นพระมหาธาตุคู่พระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมและสักการะ

9. ผาแง่ม

ผาแง่มเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นหิน 2 แท่งที่ตั้งอยู่คู่กันริมเส้นทางเดินชมธรรมชาติ ใกล้ๆ ศูนย์วิจัยเกษตรขุนวาง หลายคนเดินทางมาที่นี่เพื่อไปชมความสวยงามของดอกพญาเสือโคร่ง และพระธาตุขุนวาง ซึ่งประดิษฐานอยู่บนความสูงกว่า 2,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล วิวทิวทัศน์ที่นี่ทั้งยิ่งใหญ่อลังการ แถมยังได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติสุดๆ ดีต่อการไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในฤดูหนาว

10. ไร่ชาดอยอินทนนท์

ทิวทัศน์ของไร่ชาที่ลดหลั่นบนยอดเขาสุดลูกหูลูกตาทำให้ไร่ชาดอยอินทนนท์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่หลงใหลในธรรมชาติและเป็นคอชา ไร่ชาดอยอินทนนท์นี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านขุนวาง อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นไร่ชาชาอู่หลงอันโด่งดัง ที่ปลูกมานานกว่า 20 ปี อีกทั้งยังมี ได้ดื่มชาอู่หลงร้อนๆ เวลาอากาศเย็นนี่มันดีต่อใจจริงๆ

ข้อควรปฏิบัติและคำแนะนำระหว่างการเที่ยวบนอุทยานดอยอินทนน์

1. ก่อนไปยังอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ควรศึกษากฎระเบียบและข้อปฏิบัติตนของอุทยานแห่งชาติให้ดีเสียก่อน และปฏิบัติตนตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น เวลาเปิด-ปิดของอุทยานแห่งชาติ หรือ ช่วงใดไม่ควรเข้าไปเที่ยว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยระหว่างการเข้าเยี่ยมชมด้วย
2. ขณะเดินชมธรรมชาติ ควรอยู่ในความสงบเนื่องจากบนอุทยานแห่งชาตดอยอินทนน์มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การส่งเสียงดังอาจเป็นรบกวนสัตว์เหล่านั้น หรือ นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้
3. ห้ามเด็ดต้นไม้ ดอกไม้ หรือสิ่งใดๆ ที่อาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติออกมานอกพื้นที่เด็ดขาด
4. ห้ามพกอาวุธ ปืน และไม่จับสัตว์หรือฆ่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
5. ห้ามนำสุราและของมึนเมาเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ
6. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาบริเวณอุทยานแห่งชาติ
7. ช่วยกันรักษาความสะอาด โดยการไม่ทิ้งขยะภายในอุทยานแห่งชาติ
8. ห้ามขีดเขียน ปิดประกาศ หรือทำสัญลักษณ์ใดๆ ที่เป็นการทำลายธรรมชาติ หรือแม้กระทั้งบนป้ายให้ความรู้ในอุทยานแห่งชาติ
9. ห้ามก่อไฟในอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ ในกรณีที่นอนค้างในอุทยานแห่งชาติและต้องการจุดไฟเพื่อประกอบอาหารหรือให้ความอบอุ่น ควรใช้เตาเดินป่าโดยเฉพาะเท่านั้น และจุดไฟในบริเวณที่อุทยานแห่งชาติกำหนดไว้
10. ช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม เป็นช่วงฤดูฝน อุณหภูมิจะต่ำลง แนะนำให้นำเสื้อกันฝน ร่ม หรือเสื้อกันแดดมาด้วย
11. ช่วงเดือนพฤศิจากยนถึงกุมภาพันธ์ เป็นช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะต่ำมาก เหลือเพียง 5-10 องศาเซลเซียส แนะนำให้ใส่เสื้อหนาวมาด้วย"