เที่ยวม่อนแจ่ม

สูดอากาศบริสุทธิ์ ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาที่สลับซับซ้อน สวนดอกไม้ที่สยวยงาม กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เก็บผลไม้สดในสวน และถ่ายรูปฟีลเกาหลีเกาใจในที่ม่อนแจ่ม

สูดอากาศบริสุทธิ์ ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาที่สลับซับซ้อน สวนดอกไม้ที่สยวยงาม กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เก็บผลไม้สดในสวน และถ่ายรูปฟีลเกาหลีเกาใจในที่ม่อนแจ่ม

รีวิวเที่ยวม่อนแจ่ม

เกี่ยวกับม่อนแจ่ม

"ดอยม่อนแจ่ม" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ม่อนแจ่ม เชียงใหม่" ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เดิมทีดอยแห่งนี้มีชื่อว่า “กิ่วเสือ” ซึ่งในอดีตมีสภาพเป็นป่ารกร้าง ก่อนที่ชาวบ้านจะเข้ามาถางหญ้า ทำความสะอาดหน้าดิน เพื่อปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนกลายเป็นป่าที่เสื่อมโทรมและเป็นเขาหัวโล้นที่ดูแห้งแล้ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2527 ได้มีพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่า “ช่วยชาวเขา ช่วยชาวเรา ช่วยชาวโลก” จึงได้มีการจัดตั้งโครงการหลวงที่ชื่อว่า “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชผักเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น รวมไปถึงส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในละแวกนั้นให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต่อมาพื้นที่ในดอยม่อนแจ่มนี้ก็ไดเถูกพะฒนาปรับปรุงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองหนาว ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสวนดอกไม้ สวนผลไม้ เช่น สวนส้ม ไร่สตรอเบอรี่ กิจกรรมกางเต้นท์ และกิจกรรมแอดเวนเจอร์มากมาย ทำให้ม่อนแจ่มกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สภาพอากาศบนดอยม่อนแจ่มนั้นจะมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวม่อนแจ่มอยู่ไม่ขาดสาย

10 ที่เที่ยวม่อนแจ่ม ชมหมอก ภูเขาและดอกไม้

1. ทุ่งดอกเวอร์บีน่า

ดอกเวอร์บีน่า เป็นดอกเล็กๆ สีม่วงอมชมพู ทนต่อสภาพอากาศร้อนและแล้งได้ดี จึงทำให้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ดอกเวอร์บีน่าจะบานสะพรั่งในช่วงฤดูฝน เปลี่ยนภูเขาอันเขียวขจีบนดอยม่อนแจ่มให้กลายเป็นดอยสีม่วงสดใส โดยเฉพาะช่วงที่หมอกกำลังลง ทุ่งดอกไม้และขุนเขาจะถูกปกคลุมด้วยหมอก ทำให้ถ่ายรูปออกมาฟีลหนาวเว่อร์

2. สวนส้มจินจู

สวนส้มที่โด่งดังที่สุดในม่อนแจ่ม บอกเลยว่าสายถ่ายรูปต้องมาเช็คอินที่จุดนี้ เพราะมีมุมถ่ายรูปเพียบ มุมที่พลาดไม่ได้เลยคือมุมบันไดเก็บส้ม แต่งตัวเป็นสาวเกาหลีเกาใจ ทำท่าเก็บส้ม บอกเลยว่าน่ารักสุดๆ อีกหนึ่งจุดยอดนิยมคือจุดชิงช้า ซึ่งชิงช้าจะอยู่สุดสวนส้ม ด้านทิศตะวันออก ด้านหลังสวนส้มจะเห็นวิวภูเขาและสายหมอก

3. จุดชมวิวม่อนแจ่ม

มาถึงม่อนแจ่มแล้วก็ต้องมาสัมผัสกับอากาศเย็นสบายและหมอกที่กำลังเคลื่อนผ่านหน้าเราไป บนจุดชมวิวม่อนแจ่มแบบ 360 องศา สิ ถึงจะเรียกได้ว่ามาถึงม่อนแจ่มแล้ว ด้านล่างของจุดชมวิวม่อนแจ่มเต็มไปด้วยแปลงผัก ไร่ผลไม้ และทุ่งดอกไม้กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา บนจุดวิวนี้ยังมีแคร่ไม้ไผ่ เป็นซุ้มๆ ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผา สำหรับให้เราได้นั่งทานอาหารแบบปิคนิคไปชมวิวภูเขาและสายหมอกไปพร้อมๆ กัน

4. Pongyang Jungle Coaster Zipline Camp & Resort

สายแอดเวนเจอร์ต้องโดน เพราะที่โป่งแยงจังเกิ้ล โคสเตอร์และซิปไลน์มีกิจกรรมผจญภัยเพียบ ซึ่งมีเครื่องเล่นมากมายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Jungle Bike, Giant Swing, Jungle Coaster, Quick Jump, Slider Airbag, Easy Jump, ซิปไลน์และอื่นๆ แต่ละเครื่องบอกเลยว่าหวาดเสียวน่าดู ขอเตือนคนที่กลัวความสูงว่าต้องทำก่อนเล่น สำหรับสายชิวจะนั่งดื่มเครื่องดื่ม ทานขนมแบบชิวๆ ที่คาเฟ่ก็ได้หมด

5. ไร่สตรอเบอรี่ปลายฟ้า

ใครที่ชอบทานสตรอเบอรี่ต้องแวะมาที่ไร่สตรอเบอรี่ปลายฟ้า แนะนำให้ไปช่วงหน้าหนาว เพราะเป็นหน้าของสตรอเบอรี่ ที่ไร่แห่งนี้เราจะได้ทานสตรอเบอรี่แบบสดๆ ลูกโตๆ สามารถเดินเก็บสตรอเบอรี่ได้ทั่วสวนเลย นอกจะได้ทานสตรอเบอรี่หวานฉ่ำ แล้ว เรายังได้ถ่ายรูปกับไร่สตรอเบอรี่ สวนดอกไม้ และพื้นหลังเป็นทิวทัศน์ของภูเขาสูง เห็นหมอกอยู่ไกลๆ

6. สกายวอล์คม่อนแจ่ม

จุดเช็คอินแห่งใหม่ของม่อนแจ่ม สำหรับสายถ่ายรูปต้องมาให้ได้ เส้นทางของ Skywalk ที่ยาวลัดเลาะตามเนินเขา ทำให้เราสามารถเดินชมธรรมชาติ ดอกไม้ ภูเขา ทะเลหมอกได้อย่างเพลิดเพลินในมุมมองแบบพาโนราม่า ในตอนเช้า เราจะตื่นมาเห็นกับทะเลหมอก เราสามารถเช่าชุดชาวเขาหรือชุดฮันบกมาถ่ายรูปกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาและลมหนาวที่พัดผ่าน

7. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เป็นเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย และมีมาตรฐานระดับนานาชาติ เป็นสถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติ ที่ได้รวบรวมพรรณไม้ไว้เป็นหมวดหมู่ โดยปลูกให้สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุด ไม่ว่าจะปลูกบนยอดไม้ ปลูกในอาคารเรือนกระจก ซึ่งภายในสวนจะถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ โซนป่าธรรมชาติและโซนจัดแสดง อีกทั้งยังมี Canopy walkway ซึ่งเป็นทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดใน ประเทศไทย ที่แห่งนี้จึงเป็นทั้งสวนพฤกษศาสตร์ที่ให้ความรู้เรื่องพรรณไม้และสามารถเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ชมดอกไม้นานาพันธุ์

8. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยเป็นศูนย์การเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการหลวงตามแนวทางพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือชาวเขาให้หันมาปลูกพืชผักเมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาดีขึ้น ภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ยังมีจุดชมวิวบนสันเขาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของภูเขาได้ 360 องศา สามารถเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก และทะเลหมอกช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังมีบริการร้านอาหาร คาเฟ่ มีชาสมุนไพรสด 7 ชนิด

9. ทุ่งดอกเก็กฮวยสวนแม่ขิฟาร์มสเตย์

ทริปม่อนแจ่มจะขาดทุ่งดอกเก๊กฮวยไปไม่ได้เลย ทุ่งดอกเก๊กฮวยขนาดใหญ่สีเหลืองสด บนเนินเขาไล่ระดับ และมีวิวภูเขารายล้อม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสวนส้มในดอยม่อนแจ่ม ไม่ว่าจะเป็นสวนส้ม my garden สวนส้มยอดดอยและปางฮวา ซึ่งค่าเข้าสวนแม่ขิสามารถนำไปเป็นส่วนลดค่าเข้าชมสวนส้มและค่าอาหารได้อีกด้วย ภายในสวนดอกเก็กฮวยมีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ แสงแดดกระทบกับทุ่งดอกเก็กฮวยสีเหลืองทองอร่าม ช่างสวยงามเสียเหลือเกิน อีกทั้งทางสวนมีจุดบริการกางเต้นท์นอนค้างด้วยนะ

10. สวนดอกไม้ป้างฮวา

สวนดอกไม้และสวนส้มป้างฮวา เต็มไปด้วยดอกมากาเร็ตสีม่วงบานสะพรั่ง ตั้งอยู่ใกล้กับสวนแม่ขิ พื้นหลังเห็นเป็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา บรรยากาศรอบสวนๆ ทำให้เรารู้สึกว่าได้รีเฟรชตัวเองอย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้วยังมีสวนส้ม ที่มีทางเดินไม้ไผ่รอบสวนให้เราเดินเล่นรอบๆ สวนส้ม เป็นที่เที่ยวม่อนแจ่มที่สามารถฮีลใจทุกคนที่มาเที่ยวม่อนแจ่มจริงๆ

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเที่ยวม่อนแจ่ม

เดินทางจากในตัวเมืองเชียงใหม่ไปม่อนแจ่มอย่างไร?

ทุ่งดอกเวอร์บีน่าเปิดให้บริการกี่โมง?

สวนส้มจินจู เสียค่าบริการเข้าชมเท่าไหร่?

ฉันสามารถนอนค้างคืนที่ม่อนแจ่มได้หรือไม่?

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยมีร้านอาหารหรือไม่?