เที่ยวบ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะ

ตะลึงกับความสวยงามของบ่อน้ำสีฟ้าในจังหวัดบิเอะ บนเกาะฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมที่เกิดมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของธาตุในภูเขาไฟ ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าสด

ตะลึงกับความสวยงามของบ่อน้ำสีฟ้าในจังหวัดบิเอะ บนเกาะฮอกไกโด สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมที่เกิดมาจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของธาตุในภูเขาไฟ ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าสด

รีวิวทัวร์บ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะ

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับบ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะ

บ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond) หรือ "Aoi-ike" ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "บ่อน้ำสีฟ้า" อยู่ที่จังหวัดมิเอะ ในภูมิภาคฮอกไกโด ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติรวมกัน ส่งผลให้บ่อน้ำกลายเป็นสีฟ้าสวยงามอย่างที่เห็น ซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อน เพื่อป้องกันภัยจากพายุ ที่จะทำให้โคลนถล่มจากภูเขาไฟในบริเวณนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดขนาดนี้ ก็เป็นเพราะธาตุคอลลอยด์และอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟได้ผสมกัน และน้ำในบ่อน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมา ทำให้เกิดเป็นน้ำสีฟ้าสวยงามอย่างเหลือเชื่อ

การเดินทางมายังบ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond

  1. รถบัส: นั่งรถบัส Dohoku Bus Biei – Shirogane จากสถานี Biei มาลงที่ป้าย Blue Pond Entrance ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที แล้วเดินเท้าต่อมายังบ่อน้ำอีกประมาณ 7-8 นาที
  2. รถยนต์ส่วนตัว: ใช้เวลา 20 นาที
  3. นั่งรถไฟ JR มาจากซัปโปโร: นั่งรถไฟ JR จากสถานี Sapporo ไป สถานี Biei โดยจะต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ ลงที่สถานี Asahikawa เพื่อไป Biei ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง และต่อรถบัสมาลงที่ สถานี Biei

กิจกรรมไฮไลท์ของบ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะ

1. ชมวิว Blue Pond บ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond)

นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความงามของบ่อน้ำได้ตลอดทั้งปี ซึ่งความสดใสของสีฟ้าจากผืนน้ำในบ่อน้ำแห่งนี้จะขึ้นอยู่แสงแดดที่ส่องกระทบลงบนผิวน้ำและจุดชมวิวที่มีมุมต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม ความงามของบ่อน้ำสีฟ้าไม่ได้ลดลงไปเลย ไม่แปลกใจที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อมาชมความงดงามของบ่อน้ำสีฟ้าในทุกฤดูกาล

2. ชม Winter Illumination ที่บ่อน้ำสีฟ้า

ในช่วงฤดูหนาวนั้น น้ำในบ่อจะกลายเป็นน้ำแข็ง มองไปแล้วเหมือนทุ่งหิมะสีขาวโพลน แต่ก็ให้ความงามที่แตกต่างกันจากช่วงฤดูกาลอื่น ซึ่งในหน้าหนาวนี้จะมีเทศกาลการจัดฉายไฟที่เรียกว่า Winter Illuminationในช่วงค่ำตลอดฤดูหนาว จึงทำให้เราสามารถเห็นความงามของ Blue Pond ไปอีกแบบ ซึ่งแต่ละเดือนจะมีเวลาการจัดแสดงไฟที่แตกต่างกัน ดังนี้ ตารางการจัด Winter Illumination เดือนมกราคมเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. เดือนกุมภาพันธ์เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30-21.00 น. เดือนมีนาคมเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. เดือนเมษายนเริ่มตั้งแต่เวลา 18.30-21.00 น. เดือนพฤศจิกายนเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. เดือนธันวาคมเริ่มตั้งแต่เวลา 16.30-21.00 น.

3. ชมน้ำตกชิโรฮิเงะ (Shirahige Waterfall)

น้ำตกชิโรฮิเงะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของน้ำตกที่สวยที่สุดในฮอกไกโด มีระดับความสูงประมาณ 30 เมตร ซึ่งน้ำตกแห่งนี้เป็นต้นน้ำของบ่อน้ำสีฟ้านั่นเอง น้ำที่ไหลจากน้ำตกจึงมีสีฟ้าอมเขียวสดใสเหมือนในบ่อน้ำสีฟ้าเลย นอกจากนี้แล้วบริเวณน้ำตกยังมีสะพาน Blue River Bridge ที่สร้างขึ้นมาสำหรับดูวิวและความสวยงามของสายน้ำสีฟ้านี้ เราสามารถเดินเล่น ข้ามสะพาน หยุดถ่ายรูปกับน้ำตกชิโรฮิเงะ หรือ จะแค่ยืนมองวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติรอบๆ น้ำตกนี้ก็ได้เช่นกัน

4. แช่ออนเซ็นที่รีสอร์ทใกล้บ่อน้ำสีฟ้า

ชิโรกาเนะออนเซ็น (Shirogane Onsen) อยู่ในรีสอร์ทน้ำพุร้อน ที่ชื่อว่า "ยูโมโตะ ชิโรกาเนะ ออนเซ็น" ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Shirogane Blue Pond สามารถเดินทางโดยรถบัสได้ การแช่ออนเซ็นของญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถทำได้หลังจากเดินเล่นเที่ยวชมความงามของบ่อน้ำสีฟ้าและธรรมชาติบริเวณนั้น ที่รีสอร์ทแห่งนี้จะมีบ่อออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คนญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่อออนเซ็นนอกจากจะช่วยเรื่องรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าและความเครียด ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเมืองบิเอะ

1. ฟาร์มโทมิตะ (Shikisai No Oka)

หากพูดถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในฮอกไกโดที่สวยที่สุด ก็คงไม่พ้น "โทมิตะฟาร์ม" นอกจากดอกลาเวนเดอร์แล้ว ในฟาร์มแห่งนี้ยังมีดอกไม้สายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายให้ได้ชมความสวยงามในแต่ละฤดูกาล ซึ่งภายในฟาร์มยังมีร้านอาหาร ร้านขนมที่มีเมนูที่ทำจากดอกวาเวนเดอร์ ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมซอฟต์ครีมกลิ่นลาเวนเดอร์ ชาลาเวนเดอร์และครีมพัฟลาเวนเดอร์ อีกทั้งยังมีฟาร์มอัลปาก้า แกลลอรี่เฟลอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดแสดงงานศิลปะ มีทำจากดอกไม้แห้งและภาพถ่ายดอกไม้ในฟาร์มโทมิตะและเวิร์คช็อปน้ำหอมที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์อีกด้วย

2. เส้นทางแพทเวิร์ค (Patchwork Road)

เส้นทางแพทเวิร์คนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองบิเอะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ มีวิวทิวทัศน์ของเนินเขาซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้นานาชนิด จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย เราสามารถปั่นจักรยานไปตามเส้นทาง ปั่นไปชมธรรมชาติตลอดเส้นทาง ฟินสุดๆ แต่สำหรับคนที่อยากชมวิวแบบ 360 องศา แนะนำให้แวะที่สวนโฮคุเซโนะ (Hokusei no Oka Observatory Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะบนเนินเขาเล็กๆ เราจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของทุ่งลาเวนเดอร์และดอกทานตะวันด้านล่างที่กำลังบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ พร้อมกับฉากหลังที่เป็นเทือกเขาไดเซ็ตสึซัง

3. เกาะคาชิโกะ (Kashiko Island)

เป็นเกาะเล็กๆ บริเวณอ่าวอาโกะ ที่ตั้งอยู่ภายในเมืองชิมะ จังหวัดมิเอะ ที่ถึงแม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่บอกเลยว่าวิวหลักล้าน จุดชมวิวบริเวณอ่าวอาโกะ (Ago Bay) เราจะพบกับทัศนียภาพของทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา สำหรับใครที่ชอบบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ และสงบสไตล์เกาะพื้นบ้าน บอกเลยว่าที่นี่ตอบโจทย์ เพราะคุณจะได้พักผ่อนทั้งกายและใจแบบเต็มที่บนเกาะแห่งนี้

4. ศาลเจ้าอิเสะ Ise (Grand Shrine)

ศาลเจ้าอิเสะ เป็นศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของลัทธิชินโตในเมืองบิเอะ ซึ่งภายในศาลเจ้าประดิษฐานอามาเทราสึ โอมิคามิ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ผู้คนนิยมมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ปี ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกห้อมล้อมด้วยป่าสนอันเงียบสงบ เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิคตามแบบฉบับของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม อีกทั้งศาลเจ้านี้ยังตั้งอยู่ติดกับทะเล จึงทำให้บริเวณในศาลเจ้าและรอบๆ มีอากาศค่อนข้างหนาว ใครที่มาช่วงหน้าหนาวก็จะได้สัมผัสถึงอากาศเย็น บวกกับความเงียบสงัด จึงทำให้บรรยากาศของศาลเจ้าแห่งนี้มีความขลังสมคำร่ำลือ

5. หินเมโอโตะอิวะ (Meoto Iwa)

"หินเมโอโตะอิวะ" หรือที่หลายคนเรียกว่า "หินสามี-ภรรยา" ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอกิทามะ ในจังหวัดมิเอะ เป็นโขดหินก้อนใหญ่และก้อนเล็กซึ่งหินสองก้อนนี้ถูกเชื่อมต่อกันด้วยเชือกชิเมะนาวะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "โอชิเมะนาวะ" ซึ่งเป็นจุดขอพรสำหรับสายมูให้เราได้ครองคู่อย่างยาวนาน หรือจะมาขอคู่ที่หินแห่งนี้ก็ได้เช่นกัน

6. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ (Toba Aquarium)

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่แห่งเดียวในญี่ปุ่นที่พะยูนให้ชม มีสัตว์น้ำที่หลากหลายมากถึง 1,200 ชนิดด้วยกัน นอกจากจะอิ่มหนำกับการชมสัตว์โลกใต้ทะเลแล้ว ยังมีการแสดงโชว์สุดน่ารักจากสิงโตทะเลหรือวอลรัสแสนรู้ และขบวนเพนกวินเดินน่ารักดุ๊กดิ๊ก เท่านั้นยังไม่พอยังมีตู้ปลาขนาดให้เราได้ชมปลาหลากหลายสายพันธุ์ หรือจะชมสิงโตทะเลที่กำลังแหวกว่ายผ่านอุโมงต์ใต้น้ำแบบใกล้ชิด

7. โอคาเกะโยโคะโจ (Okage Yokocho)

โอคาเกะโยโคะโจ ตั้งอยู่ภายในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ เป็นย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและอาคารที่มีสไตล์ญี่ปุ่นโบราณในสมัยยุคเอโดะไปจนถึงเมจิ เป็นถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากกว่า 50 ร้านเรียงรายอยู่สองข้างทาง สายช้อปและสายกินห้ามพลาด เพราะถนนสายนี้มีทั้งร้านอาหารและร้านขายของฝากอยู่มากมาย นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลตามฤดูกาลและกิจกรรมย้อนยุคกลับไปอิเสะสมัยเอโดะให้คุณได้ร่วมสนุกอีกด้วย

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับทัวร์บ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะ

มีค่าเข้าชมในการเยี่ยมชมบ่อน้ำสีฟ้าหรือไม่?

บ่อน้ำสีฟ้ามีระยะเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการเยี่ยมชมหรือไม่?

มีคำแนะนำในการเตรียมตัวและสิ่งที่ควรนำมากับเราเมื่อเราไปชมบ่อน้ำสีฟ้าหรือไม่?

มีกิจกรรมหรือการแสดงที่เกี่ยวข้องกับบ่อน้ำสีฟ้าไหม?

เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมบ่อน้ำสีฟ้าในบิเอะคือช่วงเวลาไหน?

มีข้อบางข้อใดที่ต้องปฏิบัติหรือไม่อนุญาตในบ่อน้ำสีฟ้าหรือไม่?