ทัวร์ศาลเจ้าญี่ปุ่น

สัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของศาลเจ้าในญี่ปุ่น พร้อมกับซึมซับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความเชื่อ เมื่อคุณร่วมกิจกรรมทัวร์ศาลเจ้าญี่ปุ่นไปพร้อมกับ Klook!

สัมผัสกับสถาปัตยกรรมอันงดงามของศาลเจ้าในญี่ปุ่น พร้อมกับซึมซับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความเชื่อ เมื่อคุณร่วมกิจกรรมทัวร์ศาลเจ้าญี่ปุ่นไปพร้อมกับ Klook!

รีวิวทัวร์ศาลเจ้าญี่ปุ่น

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น

ศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่นกับความเชื่อของคนญี่ปุ่น

หากเราพูดถึง "ศาลเจ้า" ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโดดเด่น อาคารมีสีแดง และมักมีเสาโทริอิอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้า เราก็คงนึกถึงศาลเจ้าในประเทศญี่ปุ่น ที่แทบทุกจังหวัดมักจะศาลเจ้า เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้สำหรับสักการะบูชาเทพเจ้า ลัทธิชินโต ในอดีตเคยถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยภายในศาลเจ้าจะมีเทพเจ้าของศาสนาชินโตประดิษฐานอยู่ และมีนักบวชและมิโกะเป็นผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้านั่นเอง ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่มากราบไหว้เทพเจ้านี้มักจะนับถือพุทธนิกายเซ็น พวกเขาเชื่อว่าศาลเจ้านั้นเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจ

วัดและศาลเจ้าต่างกันอย่างไร

ศาลเจ้า: ตรงทางเข้าของศาลเจ้าจะมี “เสาโทริอิ” ซึ่งเป็นเสาที่มีลักษณะคล้ายเสาชิงช้า มักทาสีด้วยสีแดงสด เสานี้ถือเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเราได้เข้าสู่เขตศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าแล้ว และมีจุดชำระล้าง ซึ่งประกอบไปด้วยบ่อน้ำและกระบวย สำหรับไว้ให้ทำความสะอาดกายใและจก่อนเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แบบนี้เรียกว่าศาลเจ้า วัด: มักจะมีกระถางธูปก่อนถึงตัววิหาร บางวัดก็มีจุดชำระเช่นกัน แต่จะตั้งอยู่ใกล้กับกระถางธูป

10 ศาลเจ้าในญี่ปุ่นที่ควรไปสักการะ

1. วัดเซนโซจิ (ศาลเจ้าอาซากุสะ)

มีอีกหนึ่งชื่อเรียกว่า "วัดโคมแดง" เนื่องจากมีโคมแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่หน้าวัด ตรงประตูคามินาริมง ซึ่งเป็นประตูหลักของวัดเซนโซจิ หน้าประตูนี้จึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ กรุงโตเกียว เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว ภายในวัด ประดิษฐานพระโพธิสัตว์คันนนหรือเจ้าแม่กวนอิม อีกทั้งยังมีเจดีย์ห้าชั้น และยังมีถนนนากามิเสะ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายขนม ร้านขายของฝาก ไปจนถึงร้านเช่าและขายชุดกิโมโนอีกด้วย

2. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (ศาลเจ้าจิ้งจอก)

หากใครมาเยือนเมืองเกียวโต อีกหนึ่งศาลเจ้าที่ต้องมาให้ได้ก็คือศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอกนั่นเอง ที่มาของชื่อเรียกนี้ ก็เพราะในสมัยก่อนนั้น คิตสึเนะหรือสุนัขจิ้งจอก จะโผล่มาให้ชาวบ้านบริเวณศาลเจ้าพบเห็น จึงเชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกจะต้องเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าอุคาโนมิทามะโนะคามินั่นเอง ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือโทริอิสีแดงที่วางเรียงรายอยู่บนบันไดสลับกับทางเดิน ยาวถึง 4 กิโลเมตร แล้วคุณจะพบกับรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ในตำนานของญี่ปุ่นที่คนมาสักการะกัน

3. ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู

ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู ตั้งอยู่ที่เมืองซาไดฟุ ในจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คของเมืองเลยก็ว่าได้ ภายในศาลเจ้า เป็นที่สถิตของเทพเจ้าซุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ซึ่งท่านเป็นนักวิชาการ นักการเมือง และนักเขียน จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษา จึงมีนักเรียน นักศึกษา มาไหว้ขอพรเพื่อให้สอบผ่านกัน ไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือถนนซันโด เป็นถนนสายยาวที่มีร้านค้าสองฝั่งทาง ขายของที่ระลึก คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนมมากมาย ก่อนไปถึงศาลเจ้า และสะพานไทโคบาชิ สะพานสีแดงที่ไว้ใช้ข้ามสระน้ำรูปหัวใจ หากมาในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คุณจะได้พบกับใบไม้สีแดงส้ม สวยงาม อีกทั้งยังมีเทศกาลชมดอกบ๊วย ที่จะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งอีกด้วย

4. ศาลเจ้าเมจิจิงกู

เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว ย่านฮาราจูกุ แต่กลับให้ความรู้สึกที่เงียบสงบ เพราะถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวขจี เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่ผู้คนมักจะมากราบไหว้กัน สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ราชวงศ์เมจิ คุณจะได้พบกับเสาโทริอิไม้สีน้ำตาลขนาดใหญ่ตั้งหง่านอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้า เดินมาตามทางเรื่อยๆ จะพบกับถังสาเกวางเรียงรายอยู่ที่ด้านขวามือ เป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน ภายในยังมีจุดชำระล้าง เพื่อให้เราได้ชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าไปภายในศาลเจ้า บริเวณศาลเจ้าก็ยังมีซุ้มสำหรับแขวนแผ่นไม้ Ema เพื่อขอพรในช่วงปีใหม่

5. ศาลเจ้าอิเสะ-จิงกุ

ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่จังหวัดมิเอะ มีอายุมากถึงพันปี ถูกห้อมล้อมด้วยป่าสนอันเงียบสงบ เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และลึกลับ แถมศาลเจ้ายังตั้งอยู่ติดทะเล จึงทำให้บริเวณนี้มีอากาศหนาว ใครที่มาช่วงหน้าหนาวก็จะได้สัมผัสถึงอากาศเย็น บวกกับความเงียบสงัด จึงทำให้บรรยากาศของศาลเจ้าแห่งนี้มีความขลังสมคำร่ำลือจริงๆ ศาลเจ้าแห่งนี้จะถูกรบูรณะใหม่ทุกๆ 20 ปี เพื่อให้คงสภาพเดิมมากที่สุด เป็นที่ประดิษฐานของอามาเทราสึ โอมิคามิ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์หรือเทพีแห่งแสงสว่างนั่นเอง คนนิยมมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ

6. วัดคิโยะมิซุ (วัดนำ้ใส)

วัดคิโยะมิซุตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต เป็นวัดมีสถาปัตยกรรมโบราณอันงดงามชวนหลงใหล จนองค์กรยูเนสโก (UNESCO) ได้บันทึกให้วัดแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลก ภายในวัดประดิษฐานรูปสลักเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ที่มาของชื่อวัดน้ำใสนั่นก็คือน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตกโอโตวะ และไหลผ่านตัววัดนั่นเอง ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คืออาคารไม้ขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นมาโดยไม่มีการใช้ตะปูแต่อย่างใด น่าทึ่งสุดๆ และโถงอาคารก็ถูกสร้างให้ยื่นออกไปภายนอก จึงทำให้บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นเมืองเกียวโตที่แตกต่างออกไปในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

7. วัดโทไดจิ

วัดโทไดจิหรือวัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุตสึ ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ภูมิภาคคันไซ ก่อนเข้าวัด นักท่องเที่ยวจะพบกับกวางมากมาย ขออาหาร บริเวณวัดจะพบกับร้านขายของที่ระลึกมากมาย เป็นเครื่องรางที่สายมูต้องชอบ ก่อนเข้าวัด เราจะต้องเดินผ่านซุ้มประตูไม้ขนาดใหญ่ หรือ เรียกว่า "นันไดมง" ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลแบบจีนในสมัยราชวงศ์ซ่ง วัดแห่งนี้ยังมีวิหารไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในวิหารไดบุตสึเดน เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับอยู่ในปางนั่งขัดสมาธิเพชร นั่นก็คือ “ไดบุตสึ” หรือองค์พระไวโรจนะพุทธเจ้า ใครที่มาเยือนเมืองนาราจะต้องมาสักการะหลวงพ่อไดบุตสึให้ได้

8. ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่า

ศาลเจ้าอิทสึคุชิม่า ตั้งอยู่บนเกาะอิทสึคุชิม่าหรือเกาะมิยาจิมะ ที่เมืองฮะสึไกชิ ถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีอำนาจ ชื่อว่าซาเอคิ คุราโมโตะ ในยุคอะซึกะ ด้วยความเชื่อที่ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางจิตวิญญาณของเกาะมิยาจิมะ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก (UNESCO) เท่านั้นยังไม่พอ ยังถูกยกให้เป็น 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ไฮไลท์ของศาลเจ้าอิทสึคุชิม่าก็คือเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่กลางน้ำ โดยมีทิวทัศน์ของภูเขามิเซนเป็นพื้นหลัง เป็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นไม่เกินจริง

9. ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ

ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะตั้งอยู่ในเมืองอิซุโมะ ในจังหวัดชิมะเนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เทพเจ้าทุกองค์จะมารวมตัวกันในเดือนตุลาคมของทุกปี ศาลเจ้านี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับตำนานโบราณที่เรียกว่า “กระต่ายแห่งอินาบะ” เป็นตำนานของญี่ปุ่นที่โด่งดังไม่น้อย อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการขอพรเสริมดวงชะตาด้านความรัก จึงมักมีการจัดพิธีงานแต่งงานในศาลเจ้าแห่งนี้อีกด้วย

10. ศาลเจ้าทซึรุงะโอะกะ ฮะจิมังกู

เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มากที่สุดในเมืองคามาคุระ ถูกสร้างมาเกือบพันปีแล้ว ศาลเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้ Hachiman เทพเจ้าที่ตระกูลมินาโมโตะและเหล่าซามูไรให้การนับถือเป็นอย่างมาก ภายในศาลเจ้ายังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ที่ส่วนใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติญี่ปุ่น ที่นี่จึงเป็นแลนมาร์คทางประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นอันงดงามที่สุดในเมืองคามาคุระ

สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อเข้าไปในศาลเจ้าญี่ปุ่น

  1. ให้ทำการโค้งคำนับเมื่อเดินผ่านประตูโทริอิ เพื่อเดินเข้าสู่ศาลเจ้า
  2. ผู้มาเยือนสามารถชำระล้างตนเองตรงจุดชำระ โดยการตักน้ำใส่มือซ้ายก่อนมือขวา แล้วลูบชำระล้างร่างกาย
  3. หากต้องการสวดมนต์และโยนเหรียญ ควรโยนลงในกล่องบูชาหรือจุดที่ทางศาลเจ้าให้โยนเท่านั้น
  4. ไม่ควรเดินเหยียบธรณีประตูหลักเมื่อเดินเข้าสู่วัด
  5. ควรแต่งกายให้สุภาพ เพื่อให้เกียรติกับวัดหรือศาลเจ้า และถอดหมวกเมื่อเข้าสู่เขตวัดหรือศาลเจ้า
  6. สำรวมกาย วาจา ใจ เมื่อเข้าสู่เขตวัดหรือศาลเจ้า
  7. บางวัดหรือศาลเจ้าให้ถอดรองเท้า ก็ควรถอดตรงจุดถอดรองเท้า
  8. ห้ามถ่ายภาพอาคารหรือภายในอาคาร หากทางวัดหรือศาลเจ้าติดประกาศห้ามถ่าย

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับศาลเจ้าญี่ปุ่น

เดินทางไปวัดเซนโซจิ ให้ลงสถานีรถไฟสถานีอะไร?

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริมีเวลาปิดทำการหรือไม่?

หากเราต้องการให้อาหารกวางในวัดโทเดนจิ ค่าอาหารกวางราคาเท่าไหร่?

วัดคิโยะมิซุเสียค่าเข้าชมเท่าไหร่?

ในวัดและศาลเจ้ามีเครื่องรางหรือของที่ระลึกขายหรือไม่?