ตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกับ Klook กับทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ “ทางรถไฟสายมรณะ” ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำแควน้อย
ทางรถไฟสายมรณะสายนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยใช้แรงงานเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและกรรมกรชาวเอเชียที่กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์มาสร้าง จุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อใช้เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ผ่านประเทศพม่า ปัจจุบันเส้นทางนี้ไปสุดปลายทางที่บ้านท่าเสาหรือสถานีน้ำตก โดยที่ระยะทางจากสถานีกาญจนบุรีไปถึงสถานีน้ำตกเป็นระยะทางประมาณ 77 กิโลเมตร จากคำกล่าวที่ว่า "หากนับหมอนหนุนรางรถไฟมีเท่าไหร่ จำนวนผู้คน-เชลยศึกที่ถูกเกณฑ์มาสร้าง ทางรถไฟ สายนี้ก็ตายไปเท่านั้น" เป็นคำที่บอกต่อกันมาว่าการสร้างรถไฟสายนี้ ระยะทางกว่า 415 กิโลเมตร เต็มไปด้วยความหฤโหด ทารุณ และยากลำบาก เชลยศึกได้เจ็บป่วยล้มตายเป็นจำนวนมากในการสร้างรถไฟสายนี้ จนทางรถไฟสายนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เส้นทางรถไฟสายมรณะ" นั่นเอง
ถ้ำกระแซ ตั้งอยู่ติดกับเส้นทางรถไฟสายมรณะ ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี-น้ำตก ถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่พักของเชลยศึก เมื่อครั้งกำลังสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะเส้นนี้ อีกทั้งภายในถ้ำยังประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านแถวนั้นเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหลวงพ่อถ้ำกระแซ หากใครมาเยือนถ้ำแห่งนี้ควรแวะมากราบไหว้ หากมองจากปากถ้ำมาที่บริเวณทางรถไฟ เราจะเห็นกับทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำแควน้อยอยู่เบื้องล่างอีกด้วย
แลนด์มาร์คที่มาจังหวัดกาญจนบุรีแล้วไม่ควรพลาด นั่นก็คือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางรถไฟสายมรณะ สะพานทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำประมาณเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟของกองทัพญี่ปุ่นจากสถานีชุมทางหนองปลาดุกไปยังประเทศพม่า ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟได้เพื่อถ่ายรูป แต่ต้องเดินอย่างระมัดระวัง และต้องดูสัญญาณรถไฟ เพราะยังมีรถไฟสัญจรตามปกติ
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถือเป็น Hidden gem ที่ใกล้กับเส้นทางรถไฟสายมรณะ ตั้งอยู่ในวัดไชยชุมพลชนะสงคราม สร้างขึ้นโดยเจ้าคุณพระเทพปัญญาสุธี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงครามและเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยอาคารจำลองที่พักเชลยศึกในระหว่างการสร้างทางรถไฟ มีเครื่องมือเครื่องใช้ของเชลยศึกที่นำมาแลกอาหารและผลไม้กับคนไทยเมื่อขาดแคลน อีกทั้งยังมีภาพถ่ายและภาพเขียน ที่แสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยศึกครั้งกำลังสร้างทางรถไฟอีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ได้รวบรวมเกร็ดความรู้เชิงประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับการสร้างรถไฟสายมรณะแห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้กับสุสานสัมพันธมิตรดอนรัก ภายในมีแบบจำลองตู้สินค้ารถไฟที่ใช้สำหรับลำเลียงแรงงานจากประเทศสิงคโปร์มายังประเทศไทย มีรูปปั้นจำลองเชลยศึกผู้สร้างทางรถไฟ อีกทั้งยังมีสิ่งของที่เก็บมาจากค่ายพักเชลยศึก ซึ่งเป็นของจริงจัดโชว์อยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ และสิ่งของที่ถูกจัดแสดงอีกมากมาย พร้อมทั้งป้ายให้ความรู้
"สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก" หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "สุสานทหารสหประชาชาติ" เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 17 ไร่ เป็นสุสานของเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะมากกว่า 6,982 หลุม โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรค จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่เชลยศึกผู้เสียชีวิต
หากพูดถึงทางรถไฟสายมรณะ ก็คงไม่มีใครไม่รู้จักช่องเขาขาด ช่องเขานี้นับเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ไทย-พม่า เกิดจากการตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือของทหารเชลยศึกชาวออสเตรียและอังกฤษ ปัจจุบันกลายเป็นเส้นทางเดินป่า และยังคงเหลือรางรถไฟเก่าให้เราได้เยี่ยมชม อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์และมีวีดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวความทุกข์ยากของเชลยศึก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับเชลยศึกที่เสียชีวิตทั้งหลาย
เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแคว เคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึก ทหารญี่ปุ่นเคยใช้เป็นศูนย์พยาบาล เรียกกว่าโรงพยาบาลเขาปูน ภายในวัดมีถ้ำเขาหินปูน นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปเยี่ยมชมถ้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พร้อมกราบไหว้พระพุทธรูปทั้งหมด 9 องค์ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ วัดแห่งนี้สามารถเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำแควน้อย โดยวัดมีท่าเทียบเรือสำหรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งมีร้านค้าขายของฝากของที่ระลึกอีกด้วย