ประสบการณ์เรียนทำกิมจิกับ Klook

สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารเกาหลีห้ามพลาด ลองทำกิมจิสูตรเด็ดด้วยตัวของคุณเอง ตามขั้นตอนจากเชฟเกาหลีมืออาชีพ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมของเกาหลีไปกับการเรียนทำกิมจิที่ Klook ได้คัดสรรให้คุณแล้ว

สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารเกาหลีห้ามพลาด ลองทำกิมจิสูตรเด็ดด้วยตัวของคุณเอง ตามขั้นตอนจากเชฟเกาหลีมืออาชีพ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมของเกาหลีไปกับการเรียนทำกิมจิที่ Klook ได้คัดสรรให้คุณแล้ว

รีวิวเรียนทำกิมจิ

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับกิมจิ

กิมจิ คืออะไร

กิมจิเป็นหนึ่งในเครื่องเคียงยอดนิยมของคนเกาหลี หากเราไปทานอาหารเกาหลี ร้านอาหารจะเสิร์ฟกิมจิและเครื่องเคียงอื่นๆ ของเกาหลี กิมจิจึงเป็นเครื่องเคียงที่เรียกได้ว่าอยู่ในทุกมื้อของอาหารเกาหลี กิมจิจึงกลายเป็นอาหารประจำชาติของเกาหลี กิมจินั้นเป็นอาหารประเภทผักดอง โดยผักที่นิยมนำมาทำเป็นกิมจิก็จะเป็นผักกาดขาว หัวไชเท้าเกาหลี หอมใหญ่ แตงกวา ต้นหอม และกระเทียม หมักกับเกลือและพริกป่น ผสมกับเครื่องปรุง เช่น น้ำปลา น้ำตาลทราย เพื่อเพิ่มรสชาติให้กิมจิ ซึ่งพอหมักแล้วจะมีรสชาติออกเผ็ด เปรี้ยว มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามหลักแล้วรสชาติของกิมจิจะขึ้นอยู่กับของที่นำมาหมัก ซึ่งปัจจุบันมีการปรับรสชาติให้เหมาะกับความชอบหรือปรับให้เข้ากับอาหารแต่ละชนิด

ที่มาของกิมจิ

พาย้อนไปในอดีต มีบันทึกของชาวจีนว่า ชาวเกาหลีนั้นเก่งเรื่องทำอาหารหมักดอง เมื่อราวต้นทศวรรษที่ 1,600 เนื่องจากตอนนั้นมีการค้าขายทางเรือ ทำให้ในเกาหลีมีวัตถุดิบต่างๆ มากขึ้น เช่น พริกไทย กระเทียม เครื่องเทศต่างๆ ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการทำกิมจิ และเมื่อพูดถึงสาเหตุที่ทำไมชาวเกาหลีถึงเก่งเรื่องถนอมอาหาร ช่วงฤดูหนาวซึ่งมีอากาศหนาวเย็นมาก จึงทำให้ไม่สามารถปลูกผักสดได้ ดังนั้นคนเกาหลีจึงคิดค้นวิธีการถนอมผัก เช่น การดองและการหมัก ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งของเอนไซม์ เพื่อให้อาหารสามารถอยู่ได้ยาวนานขึ้น ชาวเกาหลีจึงคิดค้นวิธีการทำกิมจิ ซึ่งส่วนผสมหลักก็คือผักกาด และผักอื่นๆ เช่น หัวไชเท้า แตงกวา ผักโขม แครอท ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ฯลฯ ซึ่งกิมจิจะต้องใช้เวลาในการหมักนานถึง 2-3 วัน ไปจนถึง 2-3 สัปดาห์ ยิ่งหมักนาน รสชาติของกิมจิยิ่งมีรสเปรี้ยวยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของกิมจิ ดีต่อสุขภาพ

  1. กิมจิประกอบด้วยวัตถุดิบที่มีประโยชน์มหาศาล อาทิเช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี หัวไช้เท้า พริกแดง กระเทียม ขิง ซึ่งผักเหล่านี้ช่วยในเรื่องของการลดคอเรสเตอรอล
  2. ในกิมจิผักเหล่านี้อุดมไปด้วยแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
  3. กิมจิอุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่ช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น เป็นประโยชน์ต่อทางเดินอาหาร ช่วยให้คุณขับถ่ายได้คล่องขึ้น
  4. โปรไบโอติกในกิมจิช่วยลดการอักเสบต่างๆ ในร่างกาย มีงานวิจัยหนึ่งกล่าวว่า กิมจิช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง จึงช่วยระงับการอักเสบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
  5. ช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากกิมจิเป็นอาหารที่แคลอรีต่ำ ส่วนประกอบหลักก็คือผักที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดี ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน กิมจิจึงเป็นตัวเลือกของคนที่กำลังลดน้ำหนัก
  6. ช่วยบำรุงผิวและผมให้เงางาม เนื่องจากซีลีเนียมที่พบได้จากกระเทียมที่อยู่ในกิมจิ ช่วยให้ผิวและเส้นผมของคุณแข็งแรง อีกทั้งการกินกิมจิยังช่วยป้องกันริ้วรอยที่เกิดจากความชราได้อีกด้วย
  7. กิมจิช่วยยืดอายุเซลล์ ช่วยชะลอความชราและลดริ้วรอย เนื่องจากกิมจิอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยลดอัตราการเหี่ยวย่นของผิวหนังนั่นเอง
  8. กิมจิช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ระดับคอเลสเตอรอล LDL อีกทั้งยับยั้งการเจริญเติบโตของไขมัน และต้านการอักเสบ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นสาเหตุของโรคหัวใจนั่นเอง จึงทำให้การทานกิมจิลดอัตราการเกิดของโรคหัวใจ

    วิธีทำกิมจิ

  9. นำผักที่ต้องการนำมาทำกิมจิล้างน้ำเปล่าให้สะอาด หลังจากนั้นนำมาตัดหรือหั่นประมาณ 2 นิ้ว
  10. หลังจากนั้นนำเกลือผสมในน้ำ และนำมาผักที่ล้างให้สะอาดแล้วมาแช่ไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง นำขึ้นมาแล้วพักไว้ แล้วนำมาล้างน้ำอีกที
  11. จากนั้นเทผักลงไปในหม้อ แล้วปรุงรสด้วยพริกป่นเกาหลี น้ำปลา และน้ำตาลทราย และคนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น
  12. หลังจากนั้นนำกระเทียม ขิง และหัวหอมปั่นให้ละเอียด แล้วนำผักที่ปรุงรสแล้ว มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
  13. นำแป้งข้าวเหนียว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลผสมน้ำ แล้วนำไปตั้งไฟให้เดือด
  14. นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน ใส่น้ำปลาและพริกป่นเกาหลีหรือโคชูจัง แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
  15. เทกิมจิที่ผสมเสร็จเรียบร้อย ลงในภาชนะที่มีฝา นำไปแช่ตู้เย็น เมื่อหมักเสร็จแล้วจึงพร้อมเสิร์ฟ

คำถามเกี่ยวกับเรียนทำกิมจิ

แพ็คเกจทำกิมจิใช้เวลานานหรือไม่?

ฉันจะต้องเสียค่าบริการผ้ากันเปื้อนและอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ หรือไม่?

นอกจากทำกิมจิ ภายในแพ็คเกจยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำหรือไม่?

ฉันสามารถนำกิมจิที่ฉันทำกลับไปได้หรือไม่?

หากทำอาหารไม่เป็น ฉันสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเรียนทำกิมจิได้หรือไม่?