เช่าชุดฮันบก

สัมผัสประสบการณ์การสวมใส่ชุดฮันบก ชุดประจำชาติของเกาหลี แล้วไปถ่ายรูปในแลนด์มาร์คยอดนิยมอย่างพระราชวังเคียงบกและหมู่บ้านบุกชอนฮันอก

สัมผัสประสบการณ์การสวมใส่ชุดฮันบก ชุดประจำชาติของเกาหลี แล้วไปถ่ายรูปในแลนด์มาร์คยอดนิยมอย่างพระราชวังเคียงบกและหมู่บ้านบุกชอนฮันอก

Section Title

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับชุดฮันบก

ที่มาของชุดฮันบก

หากเราพูดถึงวัฒนธรรมเกาหลี ชุดประจำชาติเกาหลีหรือชุดฮันบก (Hanbok) ถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ชุดฮันบกนั้นไม่เพียงแต่สะท้อนคุณค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมอันรดั้งเดิมและศิลปะอันเก่าแก่ที่สืบทอดมาชั่วลูกชั่วหลาน จนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าต่อการรักษา จึงไม่แปลกที่ชาวเกาหลีต่างให้ความสำคัญกับชุดฮันบกเป็นอย่างยิ่ง “ฮันบก” มาจากคําสองคํา คือ “ฮัน” หมายถึง ชาวเกาหลี กับคําว่า “บก” ที่หมายถึง เครื่องแต่งกาย เมื่อรวมกันจึงแปลว่า เครื่องแต่งกายหรือชุดของคนเกาหลี ซึ่งรูปของชุดฮันบกนั้นถูกเปลี่ยนแปลงมาหลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ตั้งสมัยโชซอน ชุดฮันบกแบบดั้งเดิมนั้นมีมากมายหลายประเภท ทั้งนี้ชุดฮันบกของเกาหลีสามารถบ่งบอกถึงลำดับชนชั้นทางสังคมได้อีกด้วย โดยชาวบ้านหรือสามัญชนทั่วไปจะใส่ชุดฮันบกที่มีสีพื้น ดูเรียบง่าย ส่วนที่ผู้มีฐานชุดฮันบกจะมีสีสันมากขึ้น ส่วนเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางในวังหลวงก็จะใส่ชุดที่มีสีสัน และมีการแยกสี รวมไปถึงใส่เครื่องประดับตามตำแหน่งและยศของตน ซึ่งแต่ละชุดมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ชุดฮันบกที่แตกต่างกันสะท้อนถึงรูปแบบของยุคสมัยและภูมิภาคที่ตากกัน ชุดฮันบกจึงเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการทางวัฒนธรรมของเกาหลีได้อย่างลึกซึ้ง

ประเภทของชุดฮันบกแบบดั้งเดิม

  1. ชุดฮันบกสำหรับผู้หญิง: ประกอบไปด้วยเสื้อคลุม (ชอโกรี), กระโปรง (ชิมา), เสื้อคลุมตัวยาว ส่วนใหญ่มักสวมใส่ตอนออกไปข้างนอก (ทูรูมากี), เสื้อกั๊ก (แพจา), รองเท้า (โคมูชิน) และ เครื่องประดับศรีษะ (ชกดู)
  2. ชุดฮันบกสำหรับผู้ชาย: ประกอบไปด้วยเสื้อคลุม (ชอโกรี), กางเกง (พาจี), เสื้อคลุมตัวยาว ส่วนใหญ่มักสวมใส่ตอนออกไปข้างนอก (ทูรูมากี), เสื้อกั๊ก (โชกี), รองเท้า (โคมูชิน) และ เสื้อที่ใช้สวมทับชุดฮันบก ซึ่งมีกระดุมติดอยู่และไม่มีปกคอเสื้อหรือสายผูก (มาโกจา)
  3. ชุดฮันบกสำหรับใส่พิธีต่างๆ: เช่น ชุดฮันบกสำหรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวใส่เมื่อเข้าพิธีแต่งงาน เรียกว่า ฮนรเยบก หรือ ชุดฮันบกสำหรับไว้ทุกข์ เรียกว่า ซังบก
  4. ชุดฮันบกสำหรับเด็ก: ชุดฮันบกสำหรับเด็ก เรียกว่า แซกดงชอโกรี มักจะเป็นเสื้อแถบสี การเรียงสีที่หลากหลายตรงแขนเสื้อชอโกรี ซึ่งมีการเรียงสีทั้งหมด 21 สี มักจะใส่ในงานฉลองวันเกิดครบรอบอายุหนึ่งขวบแรก
  5. ชุดฮันบกสำหรับใส่ในวัง: เป็นชุดฮันบกแบบดั้งเดิมที่ออกแบบมาสำหรับสตรีในราชสำนัก มักจะหรูหรามาก ประดับด้วยอัญมณีและงานปัก ซึ่งแสดงถึงความสูงศักดิ์
  6. ชุดฮันบกสำหรับการแสดง: ประเทศเกาหลีมีศิลปะการแสดงมากมาย จึงทำให้มีชุดฮันบกถูกแบ่งออกไปตามการแสดงนั้นๆ ด้วย เช่น ชุดฮันบกสำหรับพันโซรี ศิลปะการร้องเพลงพื้นบ้านของเกาหลี ชุดฮันบกจะเป็นสีขาวล้วน หรือ ชุดฮันบกสำหรับชังกูชุม หรือ ชังโกชุม เป็นการแสดงตีกลองพื้นบ้านของชาวเกาหลี ชุดฮันบกก็มีสีสันฉูดฉาด และชุดฮันบกสำหรับระบำพัด ที่จะมีลวดลายของดอกไม้ ที่มีสีสันสดใสสะดุดตา
  7. ชุดฮันบกสำหรับนักปราชญ์: เป็นชุดฮันบอกของนักปราชญ์หรือวิชาการสวมใส่ ซึ่งเป็นตัวแทนของความรู้และการเรียนรู้ การออกแบบจึงค่อนข้างเรียบง่าย แต่สง่างาม ชุดฮันบกของเกาะเชจู: เป็นชุดฮันบกสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะเชจู ของทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีการออกแบบที่เรียบง่าย ไม่ได้มีสีสันฉูดฉาด ผู้คนในเกาะเชจูมักจะสวมใส่ตลอดทั้งวัน เพื่อทำงานหนัก เช่น เพาะปลูกหรือทำการประมง

ขั้นตอนการเช่าชุดฮันบก

  1. เลือกสถานที่ที่คุณต้องการจะใส่ชุดฮันบกแล้วไปถ่ายรูป ทั้งนี้เพื่อชุดฮันบกของคุณจะได้เข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
  2. เลือกสไตล์ของฮันบกที่คุณชื่นชอบ ทั้งประเภท สีและการออกแบบ เพื่อให้เข้ากับตัวคุณมากที่สุด
  3. เลือกชุดฮันบกตามขนาดตัวของคุณ ทั้งนี้เพื่อความสะบายในการสวมใส่ พนักงานจะมีบริการวัดขนาดตัวของคุณก่อนการเช่าชุดฮันบก เพื่อไซส์ที่พอดีกับตัวคุณมากที่สุด
  4. หลังจากนั้น พนักงานในร้านจะมาช่วยคุณสวมใส่ชุดฮันบก เนื่องจากการใส่ชุดฮันบกอาจจะยุ่งยากในการใส่ครั้งแรก แต่ให้มั่นใจว่าพนักงานของทางร้านเช่าชุดฮันบก จะช่วยคุณใส่ชุดฮันบกอย่างถูกต้องแน่นอน
  5. เลือกเครื่องประดับที่คุณต้องการ โดยต้องเลือกให้เข้ากับชุดฮันบกที่คุณสวมใส่ ไม่ว่าจะเครื่องประดับผม เช่น ริบบิ้นผูกผม ปิ่นปักผม หมวกทรงสูงสำหรับขุนนาง หรือหมวกสำหรับผู้หญิง
  6. เมื่อคุณแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการสวมชุดฮันบกถ่ายรูป ในแลนด์มาร์คยอดนิยม
  7. บางร้านเช่าชุดฮันบก ไม่ได้มีเพียงชุดให้เช่า แต่จะมีกิจกรรมสไตล์เกาหลีให้คุณได้เลือกร่วมสนุกมากมาย เช่น กิจกรรมชงชาแบบดั้งเดิมของเกาหลี ทำกิมจิ และกิจกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของเกาหลีอีกมากมาย
  8. หลังจากยืมชุดฮันบกตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้นำชุดฮันบกไปคืนกับร้านเช่าชุดในสภาพดังเดิม หากชุดฮันบกชำรุด ควรแจ้งร้านค้าเพื่อเสียค่าปรับ

7 พิกัดยอดฮิต ถ่ายรูปชุดฮันบกในกรุงโซล

1. พระราชวังเคียงบก

มาเที่ยวกรุงโซลทั้งที สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตก็คงไม่พ้นพระราชวังเกาหลีอย่างพระราชวังเคียงบก หรือ พระราชวังคยองบกกุงนั่นเอง ที่นี่จึงเป็นหนึ่งพิกัดที่ควรเช่าชุดฮันบกมาถ่ายรูปมากที่สุด แถมใกล้พระราชวังยังมีร้านเช่าชุดฮันบก ที่เดินทางไปไม่ถึง 2 นาที เช่น ร้าน Seohwa ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าพระราชวังเคียงบก อีกทั้งยังมีชุดฮันบกให้เช่าหลายแบบ หลายสไตล์ และเครื่องประดับแบบดั้งเดิม จัดเต็มให้คุณได้เลือก ส่วนเวลาเช่านั้นมีตั้งแต่เช่า 4 ชั่วโมง ไปจนถึง 2 วันเลย

2. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก

หมู่บ้านบุกชอนฮันอก เป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ที่มีสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิมสไตล์เกาหลี ที่นี่จึงเป็นอีกกนึ่งแลนด์มาร์คในการเดินทางเพื่อมาเช่าชุดฮันบก และถ่ายรูปสวยๆ กัน ซึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้มีจุดถ่ายรูปที่ต้องไปเยือนมากถึง 8 จุดด้วยกัน อีกทั้งยังมีร้านชาแบบดั้งเดิม สามารถหามุมถ่ายรูปแบบไม่ซ้ำใครได้เลย ในหมู่บ้านแห่งนี้มีร้านเช่าชุดฮันบกมากมาย เช่น ร้าน Hanboknam จะใส่ชุดฮันบกแบบดั้งเดิมหรือร่วมสมัย เพื่อความหรูหรา ก็มีชุดให้เลือกเพียบ หรือจะเช่าแบบแพ็คเกจแบบงานแต่งก็มีให้เลือก

3. พระราชวังชางด็อกกุง

วังหลวงแห่งที่สอง ที่สร้างต่อจากพระราชวังเคียงบกกุง เคยเป็นที่พำนักของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ในสมัยราชวงศ์โชซอน สายถ่ายรูปห้ามพลาด ไปเช่าชุดฮันบกแล้วถ่ายรูปให้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคโชซอนกันเถอะ ซึ่งใกล้กลับพระราชวังชางด็อกกุงก็มีร้านเช่าชุดฮันบกให้เลือกมากมาย เช่น ร้าน Changdeokgung สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีไปพร้อมๆ กับการสวมชุดฮันบก แล้วถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก

4. ย่านอินซาดง

เป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่ที่สำคัญในเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโซล นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลี ในย่านนี้มีตรอกซอกซอยแยกออกไปทั้งสองข้างทาง ภายในตรอกเป็นร้านอาหารแบบดั้งเดิม โรงน้ำชา ร้านกาแฟ และแกลเลอรี่ที่โชว์ผลงานศิลปะมากมาย อีกทั้งยังมีร้านเช่าชุดฮันบกแบบดั้งเดิมมากมาย คุณสามารถเดินเล่นบนถนนโบราณ สวมชุดฮันบก และดื่มด่ำกับวัฒนธรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม

5. หมู่บ้านอึนพยองฮันอก

หมู่บ้านอึนพยองฮันอกเป็นหมู่บ้านสไตล์ฮันอก ที่สร้างขึ้นมาใหม่เลียนแบบหมู่บ้านโบราณบุกชอนฮันอก จึงมีสถาปัตยกรรรมและอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม พื้นหลังเป็นภูเขาบุกฮันซาน ซึ่งภูเขาแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น "ปอดแห่งกรุงโซล" อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติบุกฮันซาน ด้วยบรรยากาศที่ดูย้อนยุคสุดๆ ที่นี่จึงเป็นอีกจุดเช็คอินที่จะต้องเดินทางมาถ่ายรูปกับชุดฮันบกให้ได้

6. ถนนซัมชองดองกิล

เป็นถนนที่ทอดยาวกว่า 3 กิโลเมตร ตั้งแต่ถนนกำแพงหินของพระราชวังเคียงบก ไปจนถึงย่านซัมชองดง จังหวัดคยองกี ซึ่งถนนเส้นนี้ได้ชื่อว่าเป็นถนนช้อปปิ้งสุดฮิป แต่ก็ยังถูกรายล้อมไปด้วยบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าฮันบก ย่านนี้จึงเป็นที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบเก่าและแบบใหม่เข้าด้วยกัน ตลอดสองฝั่งของถนนจะมีคาเฟ่ แกลเลอรี่ ร้านขายของศิลปะและหัตถกรรม และร้านอาหารมากมาย เพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนถนนเส้นนี้ ไปพร้อมกับแวะหยุดถ่ายรูปในชุดฮันบก และสัมผัสกับวัฒนธรรมแบบผสมผสานบนถนนเส้นนี้

7. ย่านอีฮวาดง

เป็นย่านที่เต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านจิตรกรรมฝาผนังอีฮวา ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีศิลปะภาพเขียนฝาผนัง และงานศิลปะอื่นๆ กว่า 70 รายการ ใครสายอาร์ทต้องมา นอกจากนี้แล้วยังมีเส้นทางกำแพงเมืองโซลภูเขานักซาน 1 และ 2 ที่ได้รับการบูรณะอยู่เสมอ มีความยาวรวมกันมากกว่า 4 กิโลเมตร ย่านนี้จึงเหมาะแก่เช่าชุดฮันบกเพื่อมาถ่ายรูปกับจิตรกรรมฝาผนัง กำแพงเมือง ซึ่งมีวิวภูเขานักซานเป็นพื้นหลัง

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับเช่าชุดฮันบก

ค่าเช่าชุดฮันบกเริ่มต้นประมาณเท่าไหร่?

ร้านเช่าชุดฮันบกมีบริการแต่งหน้า มีบริการทำผมหรือไม่?

หากนำชุดฮันบกมาคืนช้ากว่า ต้องเสียค่าปรับหรือไม่?

ฉันสามารถเช่าชุดฮันบกได้กี่ชั่วโมง?

ทางร้านเช่าชุดฮันบกมีบริการถ่ายภาพให้หรือไม่?

ร้านเช่าชุดฮันบก มีเครื่องประดับให้เช่าหรือไม่?

ฉันสามารถฝากของไว้ที่ร้านเช่าชุดฮันบกหรือไม่?