เรียนมวยไทย

หากพูดถึงศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวอันมีเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นไทย "มวยไทย" Muay Thai นับเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึง ในขณะเดียวกันการชกมวยก็เป็นการออกกำลังกายที่ดีเช่นกัน หลายคนเรียนมวยไทยเพื่อลดน้ำหนักก็มี เนื่องจากผู้ชกจะต้องใช้ร่างกายทุกส่วน จึงทำให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและใช้แรงอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามการชกมวยไทยจะต้องมีพื้นฐานที่ดี ทั้งนี้เพื่อที่จะได้ชกได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ การเรียนมวยไทยได้รับความนิยมจากคนไทยและชาวต่างชาติไม่ใช่น้อย ถึงทำให้เกิดการเรียนการสอนมวยไทยอยู่มากมายที่สถาบัน

ที่มาของมวยไทย

ตามประวัติศาสตร์ ในสมัยอยุธยาสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือพระเจ้าเสือในสมัยอยุธยา โปรดการชกมวยมาก ถึงขึ้นทรงปลอมพระองค์มาชกมวยกับชาวบ้าน และได้รับชัยชนะ จนทำให้เริ่มมีการฝึกมวยไทยกันอย่างแพร่หลายในราชสำนัก และขยายไปยังหมู่ชาวบ้านโดยเฉพาะในวัด สำหรับนักมวยที่มีฝีมือดี ยังสามารรถมีโอกาสเข้ารับราชการได้อีกด้วย จนกระทั่งในสมัยที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นเจ้าเมืองตาก ได้มีทหารเอกคู่ใจที่เชี่ยวชาญด้านการชกมวยไทยมาก ชื่อว่านายทองดี ฟันขาว ซึ่งต่อมาได้เป็นพระยาพิชัยดาบหัก เจ้าเมืองพิชัยนั่นเอง และหลังจากสมัยรัชกาลที่ 6 มวยไทยได้เริ่มมีการพัฒนามากขึ้น โดยมีให้สวมนวมชกและนับคะแนนแพ้ชนะแบบจริงจัง เช่นเดียวกับมวยสากล และได้มีสนามมวยแห่งแรกของประเทศไทยนั่นก็คือ สนามมวยราชดำเนิน จนต่อมาการชกมวยไทยได้กลายเป็นกีฬามวยไทย และมีการพัฒนาจนก่อตั้งเป็นสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และมีเวทีมวยเกิดขึ้นอีกมากมาย จนมวยไทยกลายเป็นคลาสออกกำลังกลายอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันมาก

ประโยชน์ของมวยไทย

1. เนื่องจากการชกมวยไทยเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง จึงทำให้ผู้เรียนมีสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแรง
2. นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว การที่ร่างกายได้ขยับทุกสัดส่วน จึงช่วยเรื่องของการลดน้ำหนัก ให้มีร่างกายที่กระชับและมีรูปร่างที่ดี
3. การชกมวยจะต้องใช้ความอดทนและสมาธิสูง ในการหลบคู่ต่อสู้และชกกลับ การชกมวยจึงเป็นกีฬาที่ฝึกสมาธิได้ดี
4. กีฬาทุกชนิดมีแพ้มีชนะ การชกมวยก็เช่นกัน เป็นการฝึกให้มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย
5. มวยไทยเป็นกีฬาที่มีวินัยและระเบียบปฏิบัติตามแบบแผน การชกมวยจึงเป็นการฝึกให้ตนเองมีวินัยและระเบียบ

วิธีการเลือกที่เรียนมวยไทย

1. เรียนมวยไทยเพื่อการป้องกันตัว: มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ในรูปแบบหนึ่ง หลายคนที่ต้องการเรียนเพื่อมีสกิลการป้องกันตัวเองหรือเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย ครูผู้สอนมักจะถ่ายทอดหลักสูตรสำหรับการป้องกันตัว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นหลักสูตรในระยะสั้น เน้นความแข็งแรงของร่างกายและความคล่องแคล่ว รู้จักการหลบหลีกและรุกต่อสู้ในสถานการณ์ขับขัน
2. เรียนมวยไทยเพื่อการออกกำลังกายและลดน้ำหนัก: สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนมวยไทยเพื่อลดน้ำหนัก การเรียนมวยไทยอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นการออกกำลังกายในรูปแบบหนึ่งคุณจะได้ใช้งานทุกส่วนของร่างกาย ทำให้คุณมีสัดส่วนที่ดูดีขึ้น มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเรียนมวยเพื่อจุดประสงค์นี้ก็จะต้องเน้นการเรียนขั้นพื้นฐานและการออกท่ามวยในระยะยาว ควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
3. เรียนมวยไทยเพื่อเป็นกีฬาแข่งขัน: มวยไทยนับเป็นกีฬาประจำชาติ ที่มีนักมวยมืออาชีพ หากินในอาชีพนักมวยและไปแข่งขันระดับโลก การเรียนมวยไทยเพื่อจะเป็นนักกีฬานั้นจึงจะต้องเรียนในหลักสูตรที่มีการเรียนการเรียนการสอนแบบเข้มข้น ครูผู้สอนนจะสอนตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงการเตรียมร่างกายและจิตใจ ในการสู้ตัวต่อตัว โดยหลักสูตรนี้ผู้เรียนจะต้องมีความอดทน ความพร้อมและมีวินัยในการเรียนสูงมาก

เทคนิคในการเรียนมวยไทย

1. มุ่งมั่นและมีสมาธิ: มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ต้องใช้สมาธิสูง ดังนั้นผู้เรียนจะต้องทิ้งความกังวลต่างๆ ไว้และโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด นั่นก็คือการชกมวย
2. คำนึงถึงความปลอดภัย: การยืดเส้นยืดสายของคุณ เพื่ออุ่นเครื่องเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเราเริ่มเรียนเลย ร่างกายยังไม่พร้อม ยังไม่ได้วอร์มอัป ร่างกายจะเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บได้
3. เน้นความรู้พื้นฐาน: นอกจากการควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเอง การรุกต่อสู้ การรู้วิธีป้องกันตัวเองก่อนที่จะเริ่มจับคู่ซ้อมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันพอๆ กับการรุกต่อสู้ เพราะหากเราป้องกันตัวเป็น มีโอกาสสูงที่เราจะชนะ ฝึกหายใจให้ถูกต้อง: การหายใจให้ถูกต้อง เป็นตัวแปรสำคัญในการออกลังกายและต่อสู้แบบถูกวิธี เพราะมันจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย รวมถึงไปถึงช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและไม่เหนื่อยง่าย เรียกว่าอึดขึ้นนั่นเอง
4. โฟกัสเป้า: นักชกมือใหม่หลายคนคิดว่าความเร็วและพลังสำคัญที่สุดในการชกมวย แต่ที่จริงแล้วการมีสมาธิและโฟกัสเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ด้วยวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถสังเกตคู่ต่อสู้และรับมือได้อย่างทันท่วงที
5. ออกท่าทางให้ถูกต้อง: การชกท่าให้ถูกต้อง เช่น การบิดสะโพกเวลาเตะ แล้วความแรงจะตามมาเอง